เอไอเอส (AIS) บุกโรงเรียน กทม. จัดกิจกรรม “วัยรุ่นตัว Top Stop ภัยไซเบอร์” เดินหน้าสู่การเป็น โรงเรียนอุ่นใจไซเบอร์ 100% ผ่าน “หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์”…
AIS บุกโรงเรียน กทม. จัดกิจกรรม “วัยรุ่นตัว Top Stop ภัยไซเบอร์” ผ่าน “หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์”
ผลการศึกษาดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของคนไทย หรือ Thailand Cyber Wellness Index (TCWI) พบว่าในกลุ่มเด็กนักเรียนอายุ 10-15 ปี ในพื้นที่ กรุงเทพฯ กว่า 82.97% อยู่ในระดับที่ต้องพัฒนา นั่นหมายความว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อภัยไซเบอร์
นอกจากนี้ยังพบอีกว่า 81.49% ขาดทักษะด้านการจัดสรรเวลาในการใช้งานบนโลกออนไลน์ และ 75.15% ขาดความรู้ความเข้าใจในการป้องกันตัวเองจากภัยในโลกไซเบอร์ ซึ่งที่ผ่านมา เอไอเอส อุ่นใจ ไซเบอร์ และ กรุงเทพมหานคร ได้ทำงานร่วมกันผ่านการนำหลักสูตรการเรียนรู้ด้านทักษะดิจิทัล “หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์”
ให้ครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนในโรงเรียสังกัด กทม. ทั้ง 437 แห่ง ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ โดยล่าสุดเดินหน้าจัดกิจกรรม “กทม. x AIS อุ่นใจ Cyber School Tour วัยรุ่นตัว Top StopP ภัยไซเบอร์” ด้วยแนวคิด Gamification หรือ โลกแห่งการเรียนรู้ผ่านเกม นำร่องใน 4 โรงเรียน
ได้แก่ โรงเรียนนาหลวง, โรงเรียนวัดยายร่ม (วัฒนราษฎร์รังสรรค์), โรงเรียนประชาอุทิศ(จันทาบอนุสรณ์) และ โรงเรียนบ้านบางกะปิ ตั้งเป้าเป็น โรงเรียนอุ่นใจไซเบอร์ พร้อมขยายผลการสร้างพลเมืองดิจิทัล ยกระดับการใช้งานสื่อ และโลกออนไลน์ให้บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนของโรงเรียนในสังกัด กทม.กว่า 250,000 คน
เข้าศึกษาหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์และได้รับประกาศนียบัตรทุกโรงเรียนรวม 437 แห่ง ภายในปีการศึกษา 2567 โดยเอไอเอสจะได้ร่วมกับสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร จัดรูปแบบการส่งเสริมที่เหมาะสมโดยบูรณาการการเรียนรู้หลักสูตร “อุ่นใจไซเบอร์” ให้สอดคล้องกับตัวชี้วัดของการเรียนการสอนที่สนับสนุนทักษะวิทยาการคำนวณ และการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) แก่โรงเรียนในสังกัด กทม.ต่อไป
เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการใช้งานดิจิทัล เพื่อให้รู้เท่าทันภัยไซเบอร์
ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กลุ่ม Gen Z หรือเด็กในที่อยู่ในช่วงประถม มัธยม เป็นกลุ่มที่เติบโตมาพร้อมกับโลกดิจิทัล ทำให้พวกเขามีความคุ้นเคยกับการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ แต่ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นการที่เด็ก ๆ ต้องใกล้ชิดกับภัยที่แฝงมากับการใช้งานอย่างไม่รู้ตัว
โดยที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการใช้งานดิจิทัล เพื่อให้เด็ก และเยาวชนรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ สอดคล้องกับภารกิจด้านการศึกษาของกรุงเทพมหานครในปีนี้ที่เราต้องการสร้างทักษะการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ หรือ Critical Thinking ให้กับเด็ก ๆ นักเรียน
อย่างการทำงานร่วมกับ เอไอเอส โดยนำหลักสูตรดิจิทัลอย่าง หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ มาใช้ในโรงเรียน กทม. เรามุ่งหวังให้เข้าไปบูรณาการเป็นสื่อการเรียนการสอนของครู ผ่านไปยังนักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้ง 437 แห่ง จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมนำร่องใน 4 พื้นที่
ได้แก่ โรงเรียนนาหลวง, โรงเรียนวัดยายร่ม (วัฒนราษฎร์รังสรรค์), โรงเรียนประชาอุทิศ(จันทาบอนุสรณ์) และ โรงเรียนบ้านบางกะปิ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างโรงเรียนต้นแบบที่ ครู นักเรียน และบุคลากร ผ่านการศึกษาหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ มีทักษะด้านดิจิทัลแบบครบถ้วน และเราต้องการที่จะทำงานร่วมกันไปอย่างต่อเนื่อง
เพื่อที่จะสร้างโรงเรียนอุ่นใจปลอดภัยไซเบอร์ 100% ในปีการศึกษา 2567 ในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา ให้นักเรียน และเยาวชนในพื้นที่ กทม. ใช้งานโลกออนไลน์อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และสร้างสรรค์
อุ่นใจ ไซเบอร์ Gamification
สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์ และงานธุรกิจสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า กิจกรรมวัยรุ่นตัว Top Stop ภัยไซเบอร์ เกิดขึ้นจากความตั้งใจระหว่าง เอไอเอส กับ กทม. ในการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้านดิจิทัลให้กับน้องๆ นักเรียน ด้วยการถ่ายทอดเนื้อหาจากหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์
ออกมาในรูปแบบ Gamification เพื่อให้เข้าถึงเด็กนักเรียนได้ง่าย ที่นอกจากจะมีความสนุกสนานแล้วยังสอดแทรกไปด้วยความรู้ และนำไปสู่การเข้าไปเรียนรู้บทเรียนเต็มต่อไป กิจกรรมในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ให้กับน้อง ๆ นักเรียน เยาวชน
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมนี้จะทำให้ระดับสุขภาวะด้านดิจิทัลของนักเรียนใน กทม. ดียิ่งขึ้น จนนำไปสู่การแก้ไขและลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้งานออนไลน์ทุกรูปแบบ เอไอเอส อุ่นใจ ไซเบอร์ พร้อมเป็นแกนกลางในการสร้างความตระหนักรู้เพราะเราเชื่อว่าจะเป็นการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาภัยไซเบอร์ได้อย่างยั่งยืน
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมของ หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ ได้ที่ https://sustainability.ais.co.th/th/sustainability–projects/thailands–cyber–wellness–index
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th