บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) พร้อมอีก 6 องค์กรชั้นนำ ร่วมสานต่อความสำเร็จโครงการ CHOICEISYOURS ปีที่สอง เร่งผลักดันศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์คนรุ่นใหม่ภายใต้แนวคิด Circular Economy…
BMW ผนึกกำลัง 6 องค์กรชั้นนำ ร่วมสานต่อโครงการ CHOICEISYOURS เป็นปีที่ 2
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย, มูลนิธิชัยพัฒนา, ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย และเอสซีจี เดินหน้าต่อยอดโครงการ Choiceisyours เป็นปีที่ 2 ขยายความร่วมมือกับอีก 3 พันธมิตรองค์กรชั้นนำในไทย ได้แก่ กลุ่มเซ็นทรัล, เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) และโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์
เชิญชวนนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศร่วมนำเสนอผลงานนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด Circular Economy เร่งยกระดับศักยภาพคนรุ่นใหม่ ร่วมสร้างสังคม และสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนในทุกมิติ พร้อมมอบโอกาสในการร่วมงานกับองค์กรแนวหน้าทั้งในระดับประเทศ และระดับโลก
การแข่งขันประกวดแนวคิดด้านความยั่งยืน Choiceisyours จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านมุมมองของนิสิตนักศึกษา ผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างผู้เข้าร่วมประกวดกับชุมชน และองค์กรต่าง ๆ
ในการขับเคลื่อนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และการพัฒนาสิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของทั้ง 7 องค์กร ที่จะร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลก และสังคมอย่างครบวงจร
ความพิเศษของโครงการ Choiceisyours 2023 นั้นคือ การที่นิสิตนักศึกษามีอิสระในการแสดงความคิดสร้างสรรค์นำเสนอโครงการโดยประยุกต์ใช้หลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมหรือการใช้ชีวิตของสมาชิกชุมชนหรือสังคมนั้น ๆ ผ่าน 4 หัวข้อหลัก
ได้แก่ Rethink, Reduce, Reuse และ Recycle โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษา 12 คน จากทีมที่ได้รับคะแนนสูงสุด 6 ทีม ได้มีสิทธิในการเลือกฝึกงานกับองค์กรพันธมิตรในโครงการได้ตามความต้องการ โดยเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน ถึง 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2566
และจะประกาศรายชื่อ 30 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ ในวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งจะได้เข้าร่วมกิจกรรมอบรมความรู้เพิ่มเติม และทัศนศึกษาในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม และประกาศผลทีมผู้ชนะเลิศในช่วงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566
การดำเนินโครงการ Choiceisyours ต่อเนื่องเป็นปีที่สองนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาคธุรกิจที่รวมพลังกันขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกให้กับคนรุ่นใหม่ซึ่งจะเติบโตไปเป็นพลเมืองสำคัญของโลกในอนาคต โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากองค์กรพาร์ทเนอร์ชั้นนำ
ที่ร่วมริเริ่มโครงการในปี 2565 พร้อมยกระดับความร่วมมือให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยการจับมือกับอีกสามองค์กรพาร์ทเนอร์รายใหม่ ซึ่งมีการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคมมาโดยตลอด
เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับโครงการอย่างเป็นวงกว้างทั้งในกลุ่มนิสิตนักศึกษา และคนทั่วไป มาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และหาแนวทางเพื่อร่วมยกระดับศักยภาพของนิสิตนักศึกษาไทย ได้แก่
- บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ซึ่งมีวิสัยทัศน์ในการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและเป้าหมายในการควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยโลกไม่ให้สูงกว่า 1.5 องศา ตามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ผ่านการนำเสนอแนวคิดและออกแบบเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในยนตรกรรมรุ่นต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าการลดใช้พลังงานและทรัพยากร สะท้อนความรับผิดชอบต่อสังคม และการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ภูมิอากาศ และคุณภาพชีวิต
- มูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งดำเนินงานในด้านการพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์ภัทรพัฒน์ ตราพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เน้นการสร้างคุณค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ในแต่ละท้องถิ่น ด้วยการนำองค์ความรู้แบบใหม่ไปต่อยอดเพื่อสร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลงาน
- บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด มีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นลบภายในปี พ.ศ. 2573 ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน รวมไปถึงการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ช่วยสานต่อเรื่องความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้
- เอสซีจี ซึ่งมุ่งมั่นดําเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างครอบคลุมทุกมิติ ภายใต้หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยมีการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวปฏิบัติ SCG Circular Way ที่มุ่งใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุดในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ออกแบบ ผลิต ใช้ ไปจนถึงปลายทาง พร้อมยกระดับสู่ ESG (Environmental, Social, Governance) ด้วยแนวทาง ESG 4 Plus ได้แก่ มุ่ง Net Zero ในปี พ.ศ. 2593 (2050), Go Green, Lean เหลื่อมล้ำ และ ย้ำร่วมมือ ภายใต้การดำเนินงานด้วยความเชื่อมั่น โปร่งใส และสำหรับการแข่งขันประกวดแนวคิดด้านความยั่งยืน Choiceisyours ปีที่ 2 นี้ เอสซีจี มุ่งสนับสนุนต่อยอดไอเดียการสร้างสรรค์ผลงาน ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ที่เน้น “การออกแบบหมุนเวียน” หรือ “Circular Design” ทั้งตัวสินค้า บริการ และโซลูชัน ซึ่งจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเกิดการหมุนเวียนวัสดุกลับมาใช้ใหม่ได้ดียิ่งขึ้น ง่ายขึ้น และอาจถึงขั้นไม่เหลือเป็นของเสียที่จะต้องหาวิธีจัดการต่อ
- กลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งชูการสร้างคุณค่าร่วม (Creating Shared Values) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการ “เซ็นทรัล ทำ” มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ลดความเหลื่อมลํ้า ให้โอกาสทุกคนในสังคมด้วยการส่งเสริมอาชีพคนพิการ แบ่งปันความรู้ทักษะต่างๆ สนับสนุนช่องทางการขาย และสื่อสารทางการตลาด และดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
- บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตชั้นนำของโลกด้านผลิตภัณฑ์เพาเวอร์ซัพพลายและการจัดการพลังงาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมดัชนีความยั่งยืนระดับโลกมากมาย อาทิ DJSI, MSCI, CDP ตอกย้ำผลการดำเนินงานโดดเด่น และยอดเยี่ยมด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ด้วยการรายงาน และรวบรวมข้อมูลในการวัดผล และส่งเสริมการใช้วัสดุรีไซเคิล ทั้งยังช่วยติดตามการปล่อยคาร์บอนฟุตปริ้นของผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างอีกด้วย เดลต้าพร้อมร่วมมือกับพันธมิตรในการพัฒนาความยั่งยืนด้านสังคม และศักยภาพคนรุ่นใหม่ให้สอดคล้องกับแนวโน้มของโลกในการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
- บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหารงานภายใต้หลักบรรษัทภิบาล (Environment, Social and Governance : ESG) สอดคล้องกับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่คำนึงถึงเรื่องนวัตกรรมความยั่งยืน ตั้งแต่การออกแบบทั้งดีไซน์ และฟังก์ชั่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง โดยบริษัทพร้อมที่จะร่วมส่งต่อความคิดสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ให้กับนิสิตนักศึกษาในการพัฒนาผลงาน เพื่อจุดประกายให้ทุกคนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th