Bot and Life เผยโฉม “Saen-D” AI Chatbot เพื่อนแก้เหงาสุดน่ารัก ฝีมือคนไทย

Saen-D

บอทแอนด์ไลฟ์ (Bot and Life) เผยโฉม “Saen-D” AI Chatbot เพื่อนแก้เหงา และผู้ช่วยส่วนตัวสุดน่ารัก ฝีมือคนไทย…

Bot and Life เผยโฉม “Saen-D” AI Chatbot เพื่อนแก้เหงาสุดน่ารัก ฝีมือคนไทย

วันนี้ทุกคนคงรู้จักกับ แชทบอท (Chatbot) หรือ ระบบดิจิทัลที่ผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) ที่ช่วยให้คุณสามารถสนทนาสั้น ๆ ได้แบบเรียลไทม์ โดยสามารถสนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น สามารถเข้าใจภาษา และตอบคำถามที่ซับซ้อนได้มากขึ้น และช่วยหาคำตอบที่มีความสัมพันธ์กับคำถามมากที่สุด

มาโต้ตอบ ซึ่งลูกค้าจะรู้สึกเหมือนได้แชทกับมนุษย์จริง ๆ อย่างไรก็ดีแม้ว่า ปัจจุบันจะมี แชทบอท จะมีอยู่ในตลาดอย่างหลากหลาย แต่ยังคงอยู่ในรูปแบบที่ใช้ในการตอบคำถาม และให้ข้อมูลให้ลูกค้าได้รับรายละเอียดได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอให้แอดมินมาตอบ แต่ก็ยังคงเป็น เพียงในรูปแบบการถาม และตอบ แบบเฉพาะ

ที่มีการกำหนดคีย์เวิร์ดเอาไว้ในระบบ หากมีคำถามที่ซับซ้อน ก็อาจจะไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างถูกต้อง แต่การเรียนรู้ที่จะสร้างปฏิสัมพันธ์กับตัวผู้ใช้งานยังคงเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้ Artificial Intelligence (AI) และ Machine Learning (ML)

เข้าไปเรียนรู้เข้าใจภาษา และรูปแบบประโยคของมนุษย์ได้มากที่สุด และสามารถนำไปต่อยอดใช้ในรูปแบบเฉพาะทางกับบริการที่แตกต่างกันได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจุดนี้เป็นความท้าทายที่ผู้พัฒนา แชทบอท ทั่วโลกพยายามที่จะก้าวให้ไปถึงจุดดังกล่าว

Saen-D

อย่างไรก็ดีล่าสุด บริษัท บอทแอนด์ไลฟ์ จำกัด. บริษัทผู้พัฒนาสัญชาติไทย ได้เปิดเผยถึงความสำเร็จในการพัฒนา แชทบอท ที่สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับตัวผู้ใช้งาน และให้บริการในกลุ่มของบริการทางด้านสุขภาพจิต ได้แล้วโดยใช้ชื่อว่า “แสนดี” ซึ่งเป็น แชทบอท ที่ผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับตัวละคร

เพื่อให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวจะช่วยตอบข้อสงสัย ให้คำปรึกษา หรือเป็นเพื่อนคุยสำหรับผู้ใช้งาน ซึ่งจะมีประโยชน์กับ(ุ้ที่มีภาวะของ โรคซึมเศร้า (Depression) ที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึก พฤติกรรม และสภาวะร่างกาย และจิตใจ ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่า ชีวิตของตนเองไร้ค่า จมอยู่กับความเศร้า จนรู้สึกเคว้งคว้าง เหงา เพลีย หดหู่ และรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวังในใจ ได้

Saen-D

ธวัชชัย อิงบุญมีสกุล ซีอีโอบริษัท บอทแอนด์ไลฟ์ จำกัด เปิดเผยว่า ยุคนี้คนเป็นโรคซมเศร้าเยอะ และหลายคนไม่มีที่ให้คำปรึกษาหรือกลัวว่าจะถูกตัดสินทั้งจากเพื่อน หรือ ครอบครัว โดยเฉพาะกับกลุ่มคนหนุ่มสาวที่กำลังเริ่มต้นชีวิตวัยผู้ใหญ่ (อายุ 19-29 ปี) มีอัตราความเหงาสูงที่สุดเฉลี่ย 27%

ซึ่งผลสำรวจนี้ก็สอดคล้องกับงานวิจัยในสิงคโปร์ที่มีรายงานออกมาว่า คนกลุ่มนี้บางคนมีความเครียดในบางครั้งเวลาต้องสนทนากับคนแบบตัวต่อตัว เนื่องจากพวกเขามองว่าการสนทนารูปแบบนี้คาดเดาได้ยาก และกลัวว่าจะถูกตัดสินหรือมองว่าไม่ดีโดยคู่สนทนา เราจึงคิดว่า แชทบอท จะเป็นเครื่องมือที่เปรียบได้กับพื้นที่ปลอดภัย

ที่สามารถรับฟังเรื่องเครยีดของผู้ใช่งานได้โดยไม่ถูกตัดสินได้ ซึ่งเป้าหมายของการการพัฒนา แชทบอท “แสนดี” ขึ้นมานั้นเกิดขึ้นความต้องการที่จะสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีคู่คิด และคนรับปัญหา และเยียวยาจิตใจ โดยเราวาง “แสนดี” ให้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคนวัยทำงาน

และช่วยจัดการเวลาชีวิต และมีการให้ความบันเทิงคุยแก้เหงา ผ่าน UI ที่สวยงามผสานเข้ากับ Gamification ให้คนไม่รู้สึกเบื่อเวลาใช้แอปพลิเคชัน รู้สึกเหมือนมีเพื่อนจริง ๆ และช่วยให้กำลังใจได้ในยามที่เหนื่อยล้า ไม่ใช่แค่เอาไว้ถามตอบเฉย ๆ ซึ่งปัจจุบัน “แสนดี” มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย อาทิ

Saen-D

Saen-D

  • Live 2D Chat : โต้ตอบกับผู้ช่วย AI แบบเรียลไทม์ผ่านตัวละคร “แสนดี”
  • ระบบกิจกรรม : บันทึกตารางกิจกรรมล่วงหน้า และคอยแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลา
  • โหมดโฟกัส : ฟังเพลงระหว่างกิจกรรมด้วยระบบ Pomodoro ทำให้มีสมาธิระหว่างทำงานมากยิ่งขึ้น
  • มินิเกม : เล่นเกมสนุก ๆ ช่วยฝึกสมอง และผ่อนคลาย
  • การเก็บข้อมูล : ในรูปแบบของรายงานประสิทธิภาพส่วนบุคคล และสถิติของอารมณ์ผู้ใช้

ก้าวสู่บทบาทเพื่อนคู่คิดที่ช่วยแก้ไขปัญหาสังคมด้วยการพูดคุย

Saen-D

ปัจจุบัน “แสนดี” ไม่เพียงแต่จะเป็นเพื่อนคุยที่ช่วยลดปัญหาทางด้านสุจภาพจิตได้ แต่ยังสามารถเป็นเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมายิ่งขึ้นอีกด้วย โดยสามารถช่วยให้สามารถกำหนดระยะเวลาในการทำงาน และเวลาพักให้เหมาะสม

รวมถึงยังเป็นผู้ช่วยในการจดบันทึกต่าง ๆ ได้ ไม่วาจะเป็นบันทึกตารางงาน โน็ตบันทึกเรื่องราวประจำวัน รวมถึงยังมีฟีเจอร์เล่นเพลงที่ช่วยให้ผู้ใช้ เลือกฟังเพลงสบาย ๆ ที่เหมาะกับการตั้งสมาธิทำงาน ได้อีกด้วย

ในอนาคตทางบริษัทฯ ได้วางเป้าหมายที่จะพัฒนา “แสนดี” การเป็น AI Companion ที่มีบทบาทในด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ (Health & Wellness Companion) และเเป็น AI ที่สามารถให้คำปรึกษาในด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น

ไม่เพียงแต่ให้คำแนะนำด้านสุขภาพจิตเบื้องต้น แต่ยังสามารถแนะนำวิธีการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพกาย และการปรับสมดุลในชีวิตประจำวัน ความสามารถนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานที่ต้องการผู้ช่วยในการดูแลตนเอง อีกทั้งยังมีแผนที่จะต่อยอดไปสู่รูปแบบของการใช้งานผ่านเทคโนโลยี AR (Augmented Reality)

และ เทคโนโลยี VR (Virtual Reality) เพิ่มศักยภาพในการทำงานเป็นผู้ช่วยในสภาพแวดล้อมเสมือน การผสาน AI เข้ากับ AR/VR จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่มีความสมจริง และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในอุตสาหกรรมเกม การศึกษา หรือการฝึกอบรมในรูปแบบต่าง ๆ

Saen-D

พร้อมกันนนี้ยังมีแผนที่จะสร้าง Community AI ที่สามารถพัฒนาได้จากการปฏิสัมพันธ์ (Community-Driven AI) โดยจะมีการพัฒนาระบบที่สามารถเรียนรู้จากการปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้งานได้โดยตรง ทำให้ AI สามารถปรับปรุง และพัฒนาไปตามพฤติกรรม และความต้องการของผู้ใช้งานจริง

พร้อมนำคำแนะนำมาพัฒนา AI เพื่อให้ “แสนดี” สามารถให้บริการที่ตรงตามความต้องการเฉพาะของผู้ใช้งาน สำหรับเป้าหมายในระยะยาว บริษัทฯ เตรียมที่ผลักดันให้ก้าวสู่การให้บริการในต่างต่างประเทศ ด้วยการปรับ AI ให้สามารถเข้าใจ และตอบสนองต่อภาษาต่าง ๆ และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน

ซึ่งการเติบโตในตลาดสากลจะทำให้ “แสนดี” มีโอกาสในการพัฒนา AI ที่ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้งานที่กว้างขึ้น โดยปัจจุบันเราได้ทดลองตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว, อินโดนีเซีย, และฟิลิปปินส์ ผ่าน AI ภาษาอังกฤษ และมีผลตอบรับที่ดีขึ้น

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันแสนดี “แสนดี” ได้ที่ 

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.