ฟอลโล่อัพ “กฎหมาย DPS” หลัง เอ็ตด้า (ETDA) เตรียมออก Code of Conduct เพิ่มความชัดเจน กำกับ-ดูแล แพลตฟอร์มดิจิทัล…
highlight
- ตั้งแต่กฎหมาย DPS มีผลบังคับใช้เกือบ 7 เดือน มีผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทั
ลมาแจ้งข้อมูลการประกอบธุรกิ จบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ในระบบแล้ว 1,273 แพลตฟอร์ม (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มีนาคม 2567) เพื่อให้กฏหมาย DPS ครอบคลุมการติดตามประเด็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในด้านการฉ้อโกง และการหลอกลวงที่เกิดจากการโฆษณาออนไลน์ รวมถึงสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานบนแพลตฟอร์มดิจิทัล อย่างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และ ออนไลน์มาร์เก็ตเพลซ - เอ็ตด้า รวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน ได้มีการจัดทำ Code of Conduct จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ “ร่าง Code of Conduct” ที่เป็นแนวทางการทำงานเพื่อดูแลเนื้อหาการโฆษณาบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล และ “ร่าง Code of Conduct” ที่เป็นแนวทางการแก้ปัญหาการขายสินค้าไม่ได้มาตรฐานบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งร่างทั้ง 2 ฉบับ จะครอบคลุมแนวทางการดูแลตั้งแต่การตรวจสอบคนที่เข้ามาดำเนินการในแพลตฟอร์ม การกรองโฆษณาที่ทำ และสินค้าที่จะนำเสนอ หรือขายว่ามีความปลอดภัยหรือไม่ และหากไม่ปลอดภัยจะมีแนวทางในการจัดการความเสี่ยงอย่างไร
อัพเดทกฎหมาย DPS หลัง ETDA เตรียมออกกฏกำกับ-ดูแล Code of Conduct
ปัจจุบันหลายกิจกรรมต่างขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัลแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงกฎหมายไหนไม่ได้ นอกจาก “กฎหมาย DPS” (Digital Platform Services) หรือชื่อทางการคือ “พระราชกฤษฎีกาการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. 2565”
ที่กำกับดูแลโดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ เอ็ตด้า (ETDA) ภายใต้เป้าหมายของการกำกับ ดูแลบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ให้บริการคนไทย มีความโปร่งใสเป็นธรรม หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือถ้าใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลแล้ว เกิดเหตุถูกโกง ถูกหลอก หรือปัญหาจากการใช้งาน
ผู้ใช้งานก็สามารถเชื่อมั่นได้ว่า จะได้รับการดูแลและความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างทันท่วงทีนั่นเอง โดยตั้งแต่กฎหมาย DPS มีผลบังคับใช้เกือบ 7 เดือน มีผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทั
ในระบบแล้ว 1,273 แพลตฟอร์ม (ข้อมูล ณ วันที่ 8 มีนาคม 2567) โดยเฉพาะในกลุ่มออนไลน์มาร์เก็
แต่ที่น่าสนใจไปกว่าตั
เอ็ตด้า “DPS Notified” เพิ่มความมั่นใจก่อนตัดสินใจใช้ บริการ
จากที่ เอ็ตด้า ได้เปิด ระบบแจ้งความประสงค์ใช้
ETDA DPS Notified) เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้สร้างแรงจูงใจให้แพลตฟอร์มดิ
เพราะเครื่องหมายรับแจ้งนี้จะช่
และการที่แพลตฟอร์มจะสามารถใช้
ซึ่งปัจจุบันสำหรับผู้
ดังนั้นเครื่องหมายนี้จึงจะเข้
ซึ่งถ้าให้พูดแบบเข้าใจง่าย ๆ คือ “เอ็ตด้า ดีพีเอส เครื่องหมายเซอทิไฟต์” ก็เปรียบเสมือนเครื่
“Code of Conduct” แก้ปัญหา “โฆษณาออนไลน์–สินค้าไม่ได้ มาตรฐาน“
ลังจากที่กฎหมาย DPS ประกาศใช้แล้ว การดำเนินงานที่สำคัญอีกเรื่อง คือ การติดตามประเด็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งในมุมที่กระทบต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา จะพบประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในด้านการฉ้อโกง และการหลอกลวงที่เกิดจากการโฆษณาออนไลน์
รวมถึงสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานบนแพลตฟอร์มดิจิทัล อย่างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และ ออนไลน์มาร์เก็ตเพลซ ซึ่งเป็นงานเร่งด่วนที่ เอ็ตด้า รวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน ตลอดจนแพลตฟอร์มดิจิทัล จะต้องเร่งขับเคลื่อน โดยขณะนี้ ได้มีการจัดทำ Code of Conduct จำนวน 2 ฉบับ
ได้แก่ “ร่าง Code of Conduct” ที่เป็นแนวทางการทำงานเพื่อดูแลเนื้อหาการโฆษณาบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล และ “ร่าง Code of Conduct” ที่เป็นแนวทางการแก้ปัญหาการขายสินค้าไม่ได้มาตรฐานบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งสาระสำคัญของร่างทั้ง 2 ฉบับ จะครอบคลุมแนวทางการดูแลตั้งแต่การตรวจสอบ
คนที่เข้ามาดำเนินการในแพลตฟอร์ม การกรองโฆษณาที่ทำและสินค้าที่จะนำเสนอหรือขายว่ามีความปลอดภัยหรือไม่อย่างไร และหากไม่ปลอดภัยจะต้องมีแนวทางในการจัดการความเสี่ยงอย่างไร รวมถึงแนวทางการแจ้งเตือนทั้งทางฝั่งของผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้าเอง
ตลอดจนผู้บริโภค ให้ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น เป็นต้น โดย เอ็ตด้า ได้มีการประชุมหารือกับทั้งผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สคบ., มอก., อย., DBD, ธปท. และ คปภ. เป็นต้น
พร้อมผนวกความร่วมมือกับ ศูนย์ช่วยเหลือ และจัดการปัญหาออนไลน์ หรือ 1212 เอ็ตด้า ทั้งในมุมสถิติที่เกิดขึ้น กระบวนการจัดการปัญหาในปัจจุบัน และแนวทางการดำเนินงานที่ เอ็ตด้า จะเสนอเป็นมาตรการในการดูแลโฆษณาบนบริการต่าง ๆ เป็นต้น
ซึ่งการดำเนินงานในระยะต่อไป ก่อนเข้าสู่กระบวนการรับฟังความคิดเห็นต่อ “ร่าง Code of Conduct” เพื่อปรับปรุงร่าง และประกาศใช้เร็ว ๆ นี้ ยังมีการดำเนินงานในหลาย ๆ ส่วนที่ เอ็ตด้า ได้เร่งทำงานแบบคู่ขนานทั้งการเร่งตรวจสอบข้อมูลของแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ได้มีการแจ้งเข้ามา
เพื่อการจัดแบ่งประเภทเพิ่มเติมทั้งในส่วนของแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ แพลตฟอร์มเสี่ยงสูงและแพลตฟอร์มเฉพาะด้าน ที่จะต้องมีการออกมาตรการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นความท้าทายในการดำเนินงาน แต่ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างความเชื่อมั่น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นทั้งในมุมของผู้ประกอบการ และผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น…
แม้หลายคนอาจจับตาว่าการมีกฎหมาย DPS จะเข้ามาช่วยให้ชีวิตดิจิทัลดีขึ้น ไม่ถูกหลอก ไม่ถูกโกง และสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม ได้จริงหรือไม่?
คำตอบที่ได้ คือ ความมุ่งมั่นในการทำงานของ เอ็ตด้า เป็นอีกสิ่งที่จะช่วยสร้างความมั่นใจ และที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ เอ็ตด้า ก้าวไปคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคนที่ต้องร่วมเดินไปด้วยกัน
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th