SAP ประกาศวิสัยทัศน์ต่อธุรกิจในยุคเทคโนโลยี AI ณ งาน Sapphire 2566

SAP

เอสเอพี (SAP) ประกาศวิสัยทัศน์ต่อธุรกิจแห่งอนาคตในยุคทองของเทคโนโลยี AI ณ งาน Sapphire 2566 ช่วยลูกค้าแก้ไขปัญหาความท้าทายอย่างรวดเร็ว…

SAP ประกาศวิสัยทัศน์ต่อธุรกิจในยุคเทคโนโลยี AI ณ งาน Sapphire 2566

เอสเอพี ประกาศเปิดตัว นวัตกรรม และการร่วมมือกัน ที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอนได้อย่างมั่นใจที่งาน เอสเอพี แซฟไฟร์ (SAP Sapphire) ณ เมืองออร์แลนโด โดยภายในงาน เอสเอพี ได้ประกาศถึงความก้าวหน้าของระบบ AI ที่มีความแม่นยำสูงเพื่อใช้เป็นโซลูชันธุรกิจ

ตั้งแต่เทคโนโลยีบัญชีจัดเก็บข้อมูลแยกประเภทเพื่อการติดตามคาร์บอน และเครือข่ายเฉพาะอุตสาหกรรมเพื่อสนับสนุนความยืดหยุ่นของกระบวนการการจัดการการผลิต

ซึ่ง เอสเอพี จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของตนในระบบคลาวด์ได้ จัดให้ความยั่งยืนเป็นศูนย์กลางของการดำเนินงาน และเพิ่มความคล่องตัวเพื่อบรรลุเป้าหมายท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

ในโลกที่ตลาดได้รับผลกระทบตลอดเวลา มีการเปลี่ยนแปลงของระเบียบข้อบังคับ และการขาดแคลนทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ลูกค้ายังคงหันมาใช้ SAP เพื่อหาโซลูชันที่ต้องการเพื่อแก้ไขปัญหาที่เร่งด่วนด้านต่าง ๆ”

SAP
คริสเตียน ไคลน์ (Christian Klein) ประธานกรรมการบริหาร ของ เอสเอพี

คริสเตียน ไคลน์ (Christian Klein) ประธานกรรมการบริหาร ของ เอสเอพี กล่าวว่า นวัตกรรมที่เราได้เปิดตัวในงาน เอสเอพี แซฟไฟร์ นั้นต่อยอดมาจากชื่อเสียงอันยาวนานด้านการพัฒนาองค์กรด้วยเทคโนโลยีที่ออกแบบจากประสบการณ์หลายทศวรรษในอุตสาหกรรม และความเชี่ยวชาญด้านกระบวนการ เพื่อเป็นการรับประกันว่าลูกค้าของเราจะประสบความสำเร็จทั้งในปัจจุบัน และในอนาคต

AI สำหรับภาคธุรกิจ (AI Built for Business)

ในยุคของ AI ที่กำลังก้าวหน้า เอสเอพี มุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งของเทคโนโลยี AI สมรรถภาพสูงไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าลูกค้าจะสามารถแก้ไขปัญหาความท้าทายในทุก ๆ ด้านที่สำคัญต่อกระบวนการการทำงานของธุรกิจได้อย่างทันท่วงที

องค์กรสามารถใช้ เอสเอพี บิสสิเนส เอไอ (SAP Business AI) ได้อย่างมั่นใจเนื่องจากโซลูชันนี้ถูกสร้างมาอย่างพิถีพิถันและมีความน่าเชื่อถือ และปัจจุบัน เอสเอพี ได้ประกาศถึงการเติบโตและความก้าวหน้ามากมายสำหรับ เอสเอพี บิสสิเนส เอไ ซึ่งรวมถึงนวัตกรรมที่สามารถปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า

SAP

ทำให้การจัดซื้อมีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถขยายกำลังขององค์กรในการค้นหา และพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถในทรัพยากรบุคคลทั้งหมด นอกจากนี้ เอสเอพี ยังใช้ความแข็งแกร่งของระบบนิเวศที่หลากหลายเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้า

โดยเมื่อวานนี้ บริษัทได้ประกาศถึงการพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งขั้นร่วมกับ บริษัทพันธมิตรอย่าง Microsoft ทั้ง 2 บริษัท จะร่วมมือกันผสานรวมโซลูชัน SuccessFactors กับ Microsoft 365 Copilot และ Copilot ใน Viva Learning รวมถึง Azure OpenAI Service ของ Microsoft

เพื่อเข้าถึงโมเดลภาษาที่มีประสิทธิภาพที่สามารถวิเคราะห์และสร้างภาษาได้แบบธรรมชาติ การผสานรวมโซลูชันเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงวิธีที่องค์กรดึงดูด รักษา และพัฒนาทักษะบุคลากรของตน

SAP
อาตุล ตูลี (Atul Tuli) กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า

อาตุล ตูลี (Atul Tuli) กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า กล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยน และเพื่อให้ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนความสำเร็จอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง ข้อมูลคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้องค์กรมีความได้เปรียบในการแข่งขัน

นอกจากนี้ บริษัทต่าง ๆ ยังจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เชิงสร้างสรรค์ เพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนต่าง ๆ ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ทำให้กระบวนการเป็นไปอย่างอัตโนมัติ สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้เร็วยิ่งขึ้น และสามารถสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่นและคล่องตัว ในขณะที่ยังให้ความยั่งยืนเป็นศูนย์กลางของการดำเนินงาน

ก้าวสู่การใช้ระบบ Green Ledger 

เมื่อ 50 ปีก่อน เอสเอพี สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้านระบบการเงิน ด้วย Enterprise Resource Planning (ERP) ปัจจุบัน เอสเอพี นำเสนอ R ใน ERP รูปแบบใหม่ ด้วยการเพิ่มคำนิยามของคำว่า Resource ให้ครอบคลุมไปถึงคาร์บอนด้วย

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของกฎเกณฑ์และแรงกดดันที่มากขึ้นของบอร์ดบริหารในด้านการดำเนินงานอย่างยั่งยืน องค์กรต่าง ๆ ต้องการระบบบัญชีสำหรับชี้วัดการปล่อยมลพิษที่ตรวจสอบได้ โปร่งใส และน่าเชื่อถือ เปรียบเสมือนและเทียบเท่ากับบัญชีทางการเงิน

ด้วยระบบ green ledger แบบใหม่ จะช่วยให้องค์กรเปลี่ยนจากการประมาณค่าคาร์บอนไปสู่ข้อมูลจริง บริษัทต่าง ๆ สามารถจัดการอุตสาหกรรมสีเขียวของพวกเขาอย่างชัดเจน แม่นยำ และมั่นใจ เปรียบเสมือนกับรายได้และผลลัพธ์ทางธุรกิจขององค์กร

เอสเอพี ประกาศการพัฒนาของ Sustainability Footprint Management โซลูชันเดียวในการคำนวณ และจัดการการปล่อยมลพิษแบบครบวงจรทั้งระดับองค์กร ภาพรวมของกระบวนการ และระดับผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ เอสเอพี ยังประกาศเปิดตัว Sustainability Data Exchange ซึ่งเป็นโซลูชันใหม่สำหรับองค์กรเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการจัดการความยั่งยืนอย่างปลอดภัยกับคู่ค้าและผู้ผลิต เพื่อให้พวกเขาสามารถลดคาร์บอนจากกระบวนการการผลิตได้เร็วขึ้น

SAP

นวัตกรรมที่ทั่วถึงในพอร์ตโฟลิโอ แพลตฟอร์ม และระบบนิเวศ ส่งเสริมความยืดหยุ่นขององค์กร

เอสเอพี ได้ประกาศถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ในพอร์ตโฟลิโอ อาทิ ความสำเร็จของ เอสเอพี บิสสิเนส เน็ตเวิร์ค (SAP Business Network) แพลตฟอร์มที่ครอบคลุมการทำงานร่วมกันของ B2B ซึ่งมีการค้าขายมูลค่ากว่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี นอกจากนี้ เอสเอพี ได้ประกาศเปิดตัว เอสเอพี บิสสิเนส เน็ตเวิร์ค สู่อุตสาหกรรม

ซึ่งข้อเสนอนี้ได้รวบรวมประโยชน์ของเครือข่ายกระบวนการจัดการการผลิตกับความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่ไม่เหมือนใครเข้าด้วยกัน ทำให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค เทคโนโลยีชั้นสูง อุตสาหกรรมการผลิต และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ จะสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นของกระบวนการจัดการการผลิตได้อย่างคล่องตัว

นวัตกรรมที่เปิดตัวใน อสเอพี บิสสิเนส เทคโนโลยี แพลตฟอร์ม (SAP Business Technology Platform) ช่วยเร่งการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทางธุรกิจได้เป็นอย่างมาก และจะเปิดใช้ระบบกระบวนการทำงานอัตโนมัติ ความก้าวหน้าของ เอสเอพี Signavio จะช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลกระบวนการที่สำคัญแบบเชิงลึก

ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง การปรับเปลี่ยน เอสเอพี Integration Suite นำไปสู่การรวมตัวของทุกภาคส่วนในระบบ เอสเอพี และนอกเหนือจาก เอสเอพี ทั้งในระดับองค์กรและในระบบคลาวด์

นอกจากนี้ ความสามารถในการรวบรวมข้อมูลในระบบการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ลดกระบวนการลงอย่าง เอสเอพี Build จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจมีอำนาจในการกระตุ้นการใช้งานแบบระบบอัตโนมัติในกระบวนการทางธุรกิจทั้งหมด

ในขณะที่องค์กรต้องเผชิญกับภาพรวมของข้อมูลที่แยกตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ เอสเอพี จึงต่อยอดจากความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งเสริมองค์กรให้มีศักยภาพในการเฟ้นหาข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริงด้วยการขยายความร่วมมือกับ Google Cloud 

SAP

โดยการนำเสนอข้อมูลแบบเปิดที่ครอบคลุมเหล่านี้ จะช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างระบบคลาวด์ข้อมูลแบบ endtoend ที่นำมาซึ่งข้อมูลจากทั่วทั้งองค์กรด้วยการใช้โซลูชันของ เอสเอพี Datasphere ร่วมกับระบบคลาวด์ข้อมูลของ Google

เอสเอพี มี ความมุ่งมั่นกับความตั้งใจที่จะเพิ่มทักษะให้กับคน 2 ล้านคนทั่วโลกภายในปี .2568 เนื่องจากความต้องการของนักพัฒนามืออาชีพระดับแนวหน้ายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับความก้าวหน้าของนวัตกรรมทางเทคโนโลยี

อีกทั้งยังประกาศเปิดตัวโปรแกรมใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้เชี่ยวชาญ เอสเอพี ทั่วทั้งระบบนิเวศ เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องของลูกค้าในระบบคลาวด์ (Cloud)

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.