Home Apllication แกร็บ จับมือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ร่วมผลักดัน Smart Mobility เพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

แกร็บ จับมือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ร่วมผลักดัน Smart Mobility เพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

แกร็บ จับมือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA)

ร่วมผลักดัน Smart Mobility เพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

ดร. ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) (ซ้าย) และ นางสาวมนรวี อำพลพิทยานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย (ขวา) ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงพหุภาคีพันธมิตรเมืองอัจฉริยะ (Smart City Alliance) ว่าด้วยความร่วมมือและการส่งเสริมโครงการการพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้านการเดินทาง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศไทย ในโอกาสนี้ แกร็บ ยังประกาศเตรียมพร้อมนำร่องบริการ Mobility as a Service (MaaS) ด้วยฟีเจอร์วางแผนการเดินทาง (Trip Planner) เป็นเจ้าแรกในไทย

กรุงเทพฯ, 5 เมษายน 2562 – แกร็บ ประเทศไทย จับมือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงพหุภาคีพันธมิตรเมืองอัจฉริยะ (Smart City Alliance) ว่าด้วยความร่วมมือและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมส่งเสริมและสนับสนุนเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล การแลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ด้านระบบขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ตามนโยบายของภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างทางพื้นฐาน ณ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ลาดพร้าว และเพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนระบบขนส่งอัจฉริยะของภาครัฐ แกร็บได้ประกาศเตรียมนำร่องโครงการ Mobility as a Service (MaaS) ผ่านฟีเจอร์วางแผนการเดินทาง (Trip Planner) ซึ่งจะเชื่อมโยงโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะเข้ากับแอพพลิเคชั่นเป็นเจ้าแรกในไทย โดยที่ผู้ใช้งานสามารถใช้บริการการเดินทางแบบออนดีมานด์ ในการเดินทางจากต้นทางและสู่ปลายทาง (FMLM – First Mile/Last Mile) ร่วมกับระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

 ดร. ภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กล่าวว่า“สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงครั้งนี้นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่แกร็บ ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันแบบ Smart Mobility ซึ่งจะเป็น 1 ใน 7 ลักษณะของเมืองที่จะได้รับการประกาศเป็นเมืองอัจฉริยะตามนโยบายส่งเสริมของภาครัฐ (www.smartcitythailand.or.th) บนแนวคิดซูเปอร์แอพ และส่งเสริมบริการ MaaS ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนต่างๆ ที่ได้เริ่มดำเนินการนำร่องไปแล้วใน 7 จังหวัด นอกจากนี้ DEPA มีแผนจับมือกับแกร็บเพื่อร่วมเดินสายในงาน Smart City Thailand Roadshow ไปยังภูมิภาคต่างๆ ในปีนี้”

นางสาวมนรวี อำพลพิทยานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำด้านซูเปอร์แอพของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แกร็บมีความยินดีและมีความพร้อมอย่างยิ่งในการให้ความร่วมมือต่อการผลักดันเมืองอัจฉริยะของประเทศไทยร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) เนื่องจากในการสร้างเมืองอัจฉริยะนั้น การขนส่งและจราจรถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญที่เราสามารถนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อทำให้เกิดการเดินทางที่เชื่อมโยง สะดวก และปลอดภัย ด้วยศักยภาพความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ตอบรับระบบขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) ผ่านบริการที่หลากหลายที่สุด และเครือข่ายผู้ใช้งานกว่า 144 ล้านทั่วภูมิภาคของแกร็บ เราจึงถือเป็นบริษัทที่มีความพร้อมมากสุดทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค ที่จะร่วมผลักดันการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและยกระดับขีดความสามารถเชิงดิจิทัลของประเทศไทย พร้อมมอบบริการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันแก่ผู้ที่สัญจรไปมาในแต่ละวันรวมถึงนักท่องเที่ยว เพื่อการพัฒนาเมืองอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนในอนาคต อีกทั้งยังถือเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ ผ่านการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ”

“นอกจากนี้ แกร็บยังมีแผนในการศึกษาและพัฒนา ‘Mobility as a Service’ (MaaS) ซึ่งเป็นแนวคิดที่นำเสนอระบบคมนาคมขนส่งในรูปแบบการให้บริการ ผ่านการนำร่องฟีเจอร์วางแผนการเดินทาง (Trip Planner) โดยเชื่อมโยงหลากบริการเดินทางแบบออนดีมานด์ในแอพพลิเคชั่นเข้ากับโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะของประเทศเป็นเจ้าแรกในไทย หลังจากที่ได้เปิดตัวในกรุงจาการ์ต้าไปเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะผสานข้อมูลการเดินทางจากบริการของแกร็บ รวมถึงบริการรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน และรถประจำทาง เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการเดินทางให้มีความคล่องตัว เข้าถึงง่าย และมีราคาเหมาะสมสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยลดการใช้รถส่วนตัว และบรรเทาปัญหารถติดและมลพิษในประเทศไทย อีกทั้งยังถือเป็นการพัฒนาและขับเคลื่อนระบบขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) อันเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของประเทศอีกทางหนึ่ง” นางสาวมนรวี กล่าวเสริม

ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ  แกร็บ ประเทศไทย ได้ดำเนินโครงการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาชาติตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล อาทิเช่น ความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยและวิชาการเพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนเทคโนโลยีและอนาคตของประเทศไทยร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โครงการสนับสนุนการพัฒนาและจัดทำระบบบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะด้านการท่องเที่ยวของประเทศร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และความร่วมมือกับจังหวัดบุรีรัมย์ในการเป็นจังหวัดนำร่องใช้แอพพลิเคชั่นเรียกรถโดยสารพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) ในการแข่งขันโมโตจีพี เป็นต้น

NO COMMENTS

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.