บราเดอร์ (brother) โชว์ศักยภาพสร้างอัตราการเติบโต 20% สวนกระแสเศรษฐกิจ -มั่นใจเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้น เตรียมพร้อมเติมสินค้าสู่ตลาด หวังกวาดกำลังซื้อที่อั้นมาระยะยาวหลังโควิด-19 เริ่มกลายเป็นเรื่องปกติ…
brother สวนกระแสเศรษฐกิจเติบโต 20 % มั่นใจเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้น
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด. กล่าวว่า เกิดจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยได้เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเห็นสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ของปี 2565 เป็นต้นมา กลไกการทำงานภายในสำนักงานขององค์กรต่าง ๆ
กลับมาเป็นเช่นเดิมเหมือนช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบราเดอร์มียอดสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการปลดล็อคเรื่องการขาดแคลนสินค้าระยะสั้นของบราเดอร์อันเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนก็เริ่มคลี่คลายด้วยเช่นกัน ที่สำคัญการปรับกลยุทธ์ด้านการกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภค
ทั่วประเทศอย่างทั่วถึงก็ทำให้เกิดความสะดวกในการซื้อเพิ่มขึ้น เมื่อความต้องการในตลาดเพิ่ม และบราเดอร์สามารถเติมเต็มความต้องการดังกล่าวได้อย่างถูกที่ถูกเวลา
จึงทำให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565 (เม.ย.-มิ.ย.) บราเดอร์สามารถสร้างอัตราการเติบโตทางธุรกิจได้สูงถึง 20 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด.
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บราเดอร์ได้พบมุมมองใหม่ ๆ ในการดำเนินธุรกิจ อุปสรรคที่เราต้องเผชิญทำให้เรามองเห็นโอกาสใหม่ ๆ ในตลาดเพิ่มขึ้น เมื่อเราต้องประสบกับพฤติกรรมการทำงานที่เปลี่ยนไปจากการรวมศูนย์ในองค์กรมาเป็นการกระจายตัว (decentralized working) ในแบบ work from home
หรือ social distancing ภายในองค์กร หรือแม้กระทั่งปัญหาสินค้าขาดแคลนระยะสั้น เราก็ต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าวที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่บราเดอร์มุ่งขยายธุรกิจในส่วนฮาร์ดแวร์ มาเพิ่มในส่วนการขายวัสดุสิ้นเปลือง (consumables) เพิ่มขึ้น” ธีรวุธ กล่าว
โควิด-19 คือ ตัวเร่งให้ไทยก้าวสู่ยุค Digital Transformation
โควิด-19 ถือเป็นตัวเร่งให้สังคมไทยก้าวสู่ยุค digital transformation เร็วยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าย่อมส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจไอทีโดยรวมเช่นกัน บทพิสูจน์ที่เห็นชัดคือการเติบโตของบราเดอร์ ประเทศไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย
แม้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจะยังชะลอตัว แต่เรายังสามารถสร้างอัตราการเติบโตได้เพิ่มขึ้น และมียอดขายสูงสุดในอาเซียน เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ณ ปัจจุบัน สังคมไทยได้ก้าวสู่สังคมแห่งโลก digital transformation อย่างเต็มตัว
ภาคธุรกิจต้องนำมาทบทวน และปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือ ปัญหาเรื่องต้นทุน
บราเดอร์ยังเชื่อมั่นว่าสินค้าไอทียังคงเป็นกลุ่มสินค้าที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ทั้งในส่วนภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ ตลอดจนภาครัฐหรือองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ก็ล้วนให้ความสำคัญเช่นกัน สิ่งที่เราพบคือช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กระแส work from home ทำให้ยอดขายสินค้าไอทีที่ตอบโจทย์ภาคครัวเรือน (home use)
เติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ปัจจุบันการกลับมาของตลาดกลุ่มองค์กร และภาครัฐก็เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นเช่นกัน บราเดอร์จึงต้องพร้อมในการปรับแผนเพื่อรับมือกับตลาดที่มีการปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็วนี้อยู่เสมอ
ซึ่งเชื่อว่าการเติบโตในตลาดกลุ่มภาครัฐ และองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2565 จะเติบโตมากขึ้นเพื่อรองรับการกลับเข้าสู่การทำงานตามปกติหลังจากที่ตลาดดังกล่าวชะลอตัวในช่วงโควิด-19
“ในปีนี้นอกเหนือจากเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตทางธุรกิจของสินค้าเส้นเลือดหลักอย่างเครื่องพิมพ์แล้ว บราเดอร์ยังมุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจของกลุ่มสินค้า non print ที่บราเดอร์เรียกกลุ่มธุรกิจนี้ว่า BX (business expansion) เพราะช่วงที่ผ่านมาเราเห็นศักยภาพของตลาดกลุ่มนี้ที่ยังมีโอกาสทางธุรกิจอีกมาก
หากเราทำตลาดได้ตรงตามความต้องการ ที่สำคัญอีกประการคือบราเดอร์จะเดินหน้าสานต่อการส่งมอบความคุ้มค่าให้แก่ผู้บริโภค ดังเช่นที่เราพยายามให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับความคุ้มค่าที่จะได้รับจากการเลือกใช้หมึกแท้ที่นอกจากจะทำให้เครื่องพิมพ์สามารถใช้งานได้ในระยะยาวแล้ว
เรายังสื่อสารให้เห็นว่าหมึกแท้นั้นมีการกำหนดปริมาณการพิมพ์ไว้อย่างชัดเจน เพราะเวลาผู้บริโภคซื้อจะไม่เห็นปริมาณหมึก หากมองที่ราคาเป็นตัวตั้งผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่คุ้มค่า” ธีรวุธ กล่าวเสริม
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด.
บุคลากรปรับตัวของจนเป็นส่วนสำคัญให้เกิดการทำงานเชิงสร้างสรรค์ ฉีกกรอบ และสร้างวิธีการทำงานใหม่ ๆ
การเปิดกว้างให้พนักงานสามารถแสดงความสามารถด้านการทำงานนอกเหนือจากส่วนงานที่ตนรับผิดชอบ เป็นเรื่องที่บราเดอร์สนับสนุนมาโดยตลอด เพราะการไม่ปิดกั้นดังกล่าวทำให้องค์กรได้รับความคิดเห็นใหม่ ๆ แม้เราต้องเผชิญอุปสรรคต่าง ๆ มากมายตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
แต่ความคิดใหม่ ๆ เหล่านี้ จะเป็นตัวจุดประกายให้เกิดการปรับ เปลี่ยนแผนงานได้อย่างเหมาะสม เรามองว่าบุคคลากรคือสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุด หากเรามีบุคลากรที่มากด้วยคุณภาพแล้ว การขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตก็ไม่ใช่อุปสรรค์อีกต่อไป
ส่วนขยาย
* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th