NIA เปิดเวทีให้ผู้นำรุ่นใหม่โชว์นวัตกรรมเชิงนโยบายแก้ 4 โจทย์ใหญ่ของประเทศ

NIA

เอ็นไอเอ (NIA) เปิดเวทีในหลักสูตร PPCIL ปีที่ 6 ให้ผู้นำรุ่นใหม่โชว์นวัตกรรมเชิงนโยบายแก้ 4 โจทย์ใหญ่ของประเทศ…

highlight

  • กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ เอ็นไอเอ (NIA) เปิดพื้นที่ให้ผู้นำรุ่นใหม่จาก PPCIL 6 ร่วมนำเสนอนวัตกรรมเชิงนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาประเทศไทยใน 4 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ ด้านกำลังคน ด้านความมั่นคงทางเทคโนโลยี ด้านสาธารณสุข และด้านเศรษฐกิจ ในกิจกรรมพิธีปิดหลักสูตรอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาความสามารถทางนวัตกรรมสำหรับกลุ่มผู้นำรุ่นใหม่ของภาครัฐ และเอกชน รุ่นที่ 6 (PPCIL#6) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นสร้างศักยภาพผู้นำ บ่มเพาะทักษะและกระบวนทัศน์จนเกิดเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดเชิงนวัตกรรม เกิดการทำงานร่วมกันแบบเครือข่าย และพร้อมเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ชาตินวัตกรรมในทุกมิติ

NIA เปิดเวทีให้ผู้นำรุ่นใหม่โชว์นวัตกรรมเชิงนโยบายแก้ 4 โจทย์ใหญ่ของประเทศ

NIA
ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า เอ็นไอเอ ภายใต้บทบาท “ผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม” (Focal Conductor) ให้ความสำคัญในการสร้างระบบนวัตกรรมแห่งชาติ เพื่อยกระดับทักษะและความสามารถทางด้านนวัตกรรม ซึ่งระบบนวัตกรรมที่เข้มแข็งจะต้องอาศัย

องค์ประกอบหลายมิติ ทั้งเครือข่าย นวัตกร และองค์กรแห่งนวัตกรรม ดังนั้น การพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Change Maker) จากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคความมั่นคง ภาคการเมือง และสื่อมวลชน จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเร่งขับเคลื่อนประเทศในอนาคต

หลักสูตรที่สร้างผู้นำสู่การวางรากฐาน “Policy Innovation

NIA

หลักสูตร PPCIL หนึ่งในหลักสูตรที่สร้างผู้นำการเปลี่ยนจึงได้จัดต่อเนื่องจนถึงรุ่นที่ 6 โดยมุ่งปรับเปลี่ยนชุดความคิดของกลุ่มผู้บริหารระดับกลางที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดสู่ผู้บริหารระดับสูง เพื่อวางรากฐานการคิดนวัตกรรมเชิงนโยบาย (Policy Innovation) ก่อให้เกิดข้อเสนอนวัตกรรมเชิงนโยบาย

ที่ครอบคลุมประเด็นสำคัญของประเทศ สามารถให้ผู้เข้าอบรมสามารถออกแบบนวัตกรรม และวางแผนการจัดการเชิงนโยบาย โดยคาดการณ์และคิดเชิงอนาคต ร่วมกับหลักการออกแบบนโยบายที่ต้องเข้าใจผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด เพื่อสร้างแนวปฏิบัติความร่วมมือแบบใหม่ เกิดการสร้างเครือข่ายระหว่างหน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ

ซึ่งปีนี้มีผู้นำจากภาครัฐและเอกชนผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมการอบรมทั้งสิ้น 85 คน แบ่งเป็นภาครัฐ 35 คน ภาคเอกชน 39 คน ภาคความมั่นคง 5 คน ภาคการเมือง 1 คน และภาคสื่อมวลชน 5 คน เกิดผลสัมฤทธิ์เป็น 5 ข้อเสนอนวัตกรรมเชิงนโยบายที่คลอบคลุม 4 ประเด็น ประกอบด้วย

NIA

นวัตกรรมพัฒนากำลังคน : เน้นการพัฒนากำลังคนสายอาชีวศึกษารุ่นใหม่ เนื่องจากปัจจุบันประชากรรุ่นใหม่ยังขาดทักษะที่ตรงกับงาน ดังนั้น จึงควรมุ่งเน้นการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ของความร่วมมือทุกภาคส่วน สร้าง Global Workforce สมรรถนะสูง

เพื่อให้เกิด Lifelong Learning เข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น เพื่อให้บุคลากรมีทักษะและความสามารถที่สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจยุคใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง และผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างยั่งยืน

นวัตกรรมความมั่นคงทางเทคโนโลยี : ส่งเสริมการเข้าถึงและการใช้งานเทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยในกลุ่มผู้สูงอายุ สร้างภูมิคุ้มกันเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันได้อย่างเท่าทันและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การนำ AI มาใช้ในการเรียนรู้ พัฒนาโปรแกรมการศึกษา

จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ดิจิทัล สนับสนุน และปรับปรุงเทคโนโลยีให้ดีขึ้น จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีภูมิคุ้มกันที่ปลอดภัยมากขึ้น และการส่งเสริมการใช้ “ไทยบาทดิจิทัล” เพื่อป้องกันและต่อต้านมิจฉาชีพออนไลน์ โดยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการทำธุรกรรมทางการเงินดิจิทัล

เช่น เงินรูปแบบดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางที่รองรับการเขียนโปรแกรม ที่สามารถแจ้งเตือน ตรวจสอบ และติดตามได้ ซึ่งจะทำให้ลดความเสี่ยงจากการถูกฉ้อโกงทางออนไลน์

นวัตกรรมด้านสาธารณสุข : ยกระดับคุณภาพโภชนาการของอาหารริมทาง (Street Food) ให้มีมาตรฐานด้านสุขอนามัยและคุณค่าทางโภชนาการที่ดีขึ้น เพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชนห่างไกลจากโรค NCDs รวมทั้งสร้างความมั่นใจในการบริโภคอาหารริมทาง

โดยเริ่มตั้งแต่การผลิตวัตถุดิบ มีมาตรฐานควบคุมตั้งแต่ต้นทางจนถึงมือผู้บริโภค โดยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการผลิตอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สามารถสั่งผ่านช่องทางออนไลน์ จนเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคช่วยให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น

นวัตกรรมเศรษฐกิจ : เน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ให้สามารถเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาเมือง โดยการพัฒนาทักษะและการสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เช่น การทำบัตรสวัสดิการผู้ค้า เพื่อให้พวกเขามีโอกาสสร้างรายได้ที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

การปรับภาพลักษณ์ สร้างมาตรฐานบริการ เกิดเครือข่ายพัฒนาขีดความสามารถทางการค้าที่เพิ่ม GDP ดึงดูดนักลงทุน และนักท่องเที่ยว รวมทั้งมีส่วนช่วยประเทศให้เกิดเศรษฐกิจรากฐานที่เป็นธรรม

NIA

“ข้อเสนอนวัตกรรมนโยบายเหล่านี้ สะท้อนถึงประเด็นความท้าทายของประเทศไทย ซึ่ง เอ็นไอเอ พร้อมที่จะส่งเสริม เชื่อมโยง และสนับสนุนนวัตกรรมเชิงนโยบายจากทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับพัฒนาการของประเทศไทย

ทั้งนี้ เอ็นไอเอ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอนวัตกรรมเชิงนโยบายจากผู้เข้าร่วมอบรม PPCIL รุ่นที่ 6 จะเป็นหนึ่งในข้อเสนอที่ถูกนำไปส่งเสริม และสนับสนุนเพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมต่อไปร่วมกัน” ดร. กริชผกา กล่าว

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay