แคนนอน (Canon) เปิดเกมรุก! ส่ง imageFORCE Series 4 เขย่าตลาดพิมพ์ไทยด้วย AI–OLED–ความปลอดภัย–ความยั่งยืน รับเทรนด์คอนซูมเมอร์ตลาดองค์กรยุคไฮบริด…
highlight
- แคนนอน ตอกย้ำบทบาทผู้นำด้านเทคโนโลยี
อิมเมจจิ้งระดับโลก เปิดเกมรุกธุรกิจงานพิมพ์ไทยเปิ ดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน แคนนอน ตระกูล imageFORCE Series 4 รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมนวัตกรรม AI ล้ำสมัย พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้ งานในโลกธุรกิจภายใต้ 4 แนวคิดหลัก ได้แก่ ความน่าเชื่อถือในคุณภาพ, ความมั่นคงปลอดภัยด้านข้อมูล, การเชื่อมต่อที่ครอบคลุม และการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน เดินหน้าปฏิวัติโซลูชันงานพิมพ์ กับก้าวสำคัญสู่การปรับภาพลั กษณ์จากผู้จำหน่ายเครื่องถ่ ายเอกสารแบบเดิม สู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชั นที่ตอบโจทย์การทำงานในยุคไฮบริ ดมากยิ่งขึ้น พร้อมโชว์ศักยภาพโรงงานแคนนอน จังหวัดปราจีนบุรี สู่การสร้างฐานการผลิตเครื่องพิ มพ์มัลติฟังก์ชันคุณภาพระดั บโลก
Canon เปิดเกมรุก! เครื่องพิมพ์สำหรับองค์กร ส่ง imageFORCE Series 4 เขย่าตลาดพิมพ์ไทย
แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ประกาศเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันรุ่นใหม่ “imageFORCE Series” พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ครบวงจร รองรับการทำงานในยุค AI และ Hybrid Work ด้วยแนวคิด “Make Business Move” ที่ผสานความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย การเชื่อมต่อออนไลน์ และความยั่งยืนไว้ในหนึ่งเดียว

ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า แคนนอน มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์อย่างแท้จริง ซึ่งไม่เพียงแค่ฟีเจอร์ใช้งานที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโซลูชันการพิมพ์ที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจในยุค AI ได้อย่างครับครัน
เพราะในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ ความน่าเชื่อถือ ความมั่นคงปลอดภัย และการเชื่อมต่อออนไลน์ ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญในธุรกิจทุกประเภท เราจึงได้พัฒนา imageFORCE Series เพื่อช่วยสนับสนุนงานพิมพ์ได้อย่างชาญฉลาด พร้อมกับผสานแนวคิดความยั่งยืนเข้ากับการออกแบบผลิตภัณฑ์

ทั้งในด้านวัสดุ การประหยัดพลังงาน และการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่าในระยะยาว เราจึงมั่นใจว่า imageFORCE Series จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยยกระดับศักยภาพให้กับผู้ประกอบการไทยได้อย่างแท้จริง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกท่านในการเดินหน้าแคมเปญครั้งนี้ร่วมกัน
แคนนอน มีเป้าหมายในการพัฒนานวัตกรรมที่ดีที่สุดสู่ผู้คนทั่วโลก ผ่านการจัดตั้งศูนย์การผลิตระดับโลกในประเทศไทย ซึ่งมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงสุดโดยอาศัยทักษะฝีมือแรงงานไทยที่มีความเชี่ยวชาญเทียบเท่าสากล โรงงานแคนนอนในประเทศไทยดำเนินการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก
ควบคู่กับความเชี่ยวชาญด้านการผลิตขั้นสูง โดยแรงงานท้องถิ่นที่มีความสามารถสูง เพื่อมุ่งเน้นกระบวนการผลิตที่ถูกต้อง แม่นยำ และได้มาตรฐานสากล พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมความยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

ด้าน มาโกโตะ นากามูระ ประธานบริษัท แคนนอน ปราจีนบุรี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน imageFORCE Series นี้ ไม่ใช่แค่ก้าวสำคัญของ แคนนอน แต่ยังสะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีระดับโลก
แคนนอน ให้ความสำคัญกับการส่งมอบนวัตกรรมคุณภาพสูงอย่างยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โรงงานแคนนอนปราจีนบุรีมีการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยและใช้วัสดุรีไซเคิลกว่า 30% นอกจากนี้เรายังคงยึดหลักความละเอียดและแม่นยำในการผลิตควบคู่กับการดูแลพนักงาน เพราะเราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดเริ่มต้น
จากสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ปัจจุบัน โรงงานแคนนอน ปราจีนบุรี ในประเทศไทยผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน รุ่น imageRUNNER และ imageRUNNER Advance DX ทั้งหมด 20 รุ่น และกำลังผลิตเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ในกลุ่ม imageFORCE Series ใหม่เพิ่มเติมอีก 9 รุ่น ภายในปี 2568

กลยุทธ์ของส่วนงาน แคนนอน บิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น (Business Imaging Solution) ยังคงให้ความสำคัญกับการเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ซึ่งครอบคลุมโซลูชันด้านการพิมพ์ การจัดการเอกสาร และระบบการทำงานอัตโนมัติในสำนักงาน
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในการทำงานยุคไฮบริด นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในทุกภาคส่วนขององค์กร เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงาน สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า และสร้างความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัล
นอกจากนี้ แคนนอน ยังคงมุ่งมั่นผสานเทคโนโลยี AI Smart Maintenance และการผสานการทำงานร่วมกับระบบคลาวด์เพื่อช่วยรวบรวมข้อมูลที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างราบรื่น และมีเวิร์กโฟลว์ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น
ธุรกิจยุคใหม่ผสาน AI, คลาวด์ และความยั่งยืนในโซลูชันงานพิมพ์

พงศพร กรอบสนิท ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการทำงานยุคใหม่ชี้ชัดว่า องค์กรให้ความสำคัญกับความร่วมมือในสำนักงาน ความปลอดภัยของข้อมูล ความยั่งยืน และการนำ AI มาใช้มากขึ้น
แคนนอน จึงต้องปรับตัวเพื่อส่งมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกมิติของการเปลี่ยนแปลงนี้ จากผลสำรวจตามรายงาน Quocirca : Print Industry Trends 2025 รายงานว่า กว่า 69% ของลูกค้าคาดหวังให้ซัพพลายเออร์หรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมีส่วนร่วมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในขณะเดียวกันองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก
มีแผน ลงทุนเพิ่มในเทคโนโลยี AI และ Machine Learning แสดงให้เห็นว่าองค์กรในวันนี้ต้องการเทคโนโลยีที่ทั้งชาญฉลาด และยั่งยืน อนาคตโซลูชันด้านการพิมพ์ในอนาคต ต้องไม่เพียงตอบสนองความต้องการด้านประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ต้องผสานความปลอดภัย ระบบคลาวด์
และความยืดหยุ่นของ Hybrid Work ได้อย่างลงตัว โดยเทตโนโลยี Edge AI ที่ฝังไว้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าต่าง ๆ ได้ดีขึ้น เพราะ AI จะเรียนรู้ และแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของระบบที่เกิดจากการติดตั้ง หรือเซ็ตติ้งค่าระบบใหม่ พร้อมแนะนำขั้นตอนที่จำเป็นดำเนินการเมื่อมีการเลี่ยนแปลง
แคนนอน ครองอันดับ 1 ตลาดเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันต่อเนื่อง 7 ปีซ้อนในภูมิภาคเอเชีย
การเติบโตที่สวนกระแสตลาดด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรยุคใหม่ ทำให้ แคนนอน สามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดกลุ่มเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน ในกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารขาวดำ ได้ถึง 28% กลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารสีกว่า 20% แม้ภาพรวมตลาดจะมีการเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า
“ตลาดเครื่องถ่ายเอกสารสีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2568 คาดว่าจะมียอดจำหน่ายสูงถึง 25,000 เครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 127% นอกจากนี้แนวโน้มตลาดในอนาคต ยังคงให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และความปลอดภัยหลัก ดังนั้นโจทย์ของ แคนนอน คือไม่เพียงแต่ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพเท่านั้น
แต่ยังต้องมองเรื่องของความยั่งยืนควบคู่กันด้วย อีกทั้งสถานการณ์ในปัจจุบันผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยังไม่ลดการพิมพ์ลง มีผู้ใช้งานกว่า 60% มองว่าการพิมพ์เป็นสิ่งจำเป็นในการสื่อสารกับลูกค้า และ 57% เชื่อว่าข้อมูลสำคัญควรนำเสนอในรูปแบบสิ่งพิมพ์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดยังคงมีความต้องการอุปกรณ์ที่มี คุณภาพสูง ปลอดภัย และตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งแคนนอนสามารถตอบสนองได้อย่างครอบคลุม” พงศพร กล่าว
ดังนั้นภายในปีพ.ศ 2568 นี้ แคนนอนจึงพร้อมเดินหน้าเปิดตัวเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน imageFORCE Series 4 รุ่น ที่ มาพร้อมระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการทำงาน และฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยขั้นสูงที่ช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กร มอบประสบการณ์การใช้งานที่ทรงพลัง เข้าใจง่าย และช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดดังนี้
- imageFORCE C5100 : เครื่องพิมพ์ A3 สีความเร็วสูง รองรับปริมาณงานพิมพ์มาก พร้อมระบบ AI อัจฉริยะ
- imageFORCE 6100 : เครื่องพิมพ์ A3 ขาวดำ ตอบสนองการใช้งานของทีมงานที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
- imageFORCE C7165 : เครื่องพิมพ์สี รุ่นเรือธงที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุด ครบเครื่องทั้งคุณภาพงานพิมพ์และฟีเจอร์อัจฉริยะแบบจัดเต็ม
- imageFORCE C3150 : เครื่องพิมพ์สี ดีไซน์กะทัดรัดเหมาะสำหรับออฟฟิศขนาดกลาง และรองรับงานพิมพ์ความเร็วสูงได้ กำหนดวางจำหน่ายในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ซึ่งที่ผ่านมาโรงงานแคนนอนสามารถขยายการเติบโตไปยังถูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ อเมริกา 24%, ยุโรป 32%, เอเซีย 19%, ญี่ปุ่น 17% และ โอเชียเนีย 5%
imageFORCE Series มอบโซลูชันเพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชันเจเนอเรชันใหม่ล่าสุดจาก แคนนอน ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Make Business Move” โดยไม่เพียงนำเสนอนวัตกรรมการพิมพ์ประสิทธิภาพสูงเท่านั้น แต่เป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำงานในโลกยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในทุกมิติ โดยครอบคลุม 4 แนวคิดหลัก ได้แก่
- Reliability : มอบคุณภาพที่คุณเชื่อถือได้สูงสุดเพราะผลิตขึ้นในประเทศไทยทั้งหมด ณ โรงงานแคนนอนจังหวัดปราจีนบุรี ภายใต้มาตรฐานระดับโลก และฝีมือแรงงานไทยที่มีคุณภาพ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์วิเคราะห์ข้อมูล AI แบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพ และแจ้งเตือนการบำรุงรักษาเชิงรุก
- Security : มอบความปลอดภัยแบบ 360° เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญผ่านการประเมินความปลอดภัยของระบบอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะนำการตั้งค่าความปลอดภัยที่เหมาะสม ตามสภาพแวดล้อมขององค์กรที่แตกต่างกัน
- Connectivity : การเชื่อมต่อที่ราบลื่นได้หลายช่องทาง สามารถใช้ร่วมกับบริการ Cloud ชั้นนำ เช่น Google Drive™, Dropbox, OneDrive รวมถึงเชื่อมต่อกับ Microsoft Teams, SharePoint Online และแอปพลิเคชันมือถือ Canon PRINT ได้อย่างง่ายดาย จึงสนับสนุนการทำงานทางไกลแบบไร้รอยต่อ
- Sustainability : ตอบโจทย์ความยั่งยืนเพื่ออนาคต โดย imageFORCE Series ทุกรุ่นใช้วัสดุรีไซเคิลมาสูงถึง 30% พร้อมเทคโนโลยีช่วยประหยัดพลังงาน เช่น ผงหมึกจุดหลอมเหลวต่ำ และระบบหลอมรวมแบบตามความต้องการ รวมถึงผสานแนวคิดรักษ์โลกในทุกขั้นตอนตลอดกระบวนการผลิต
พร้อมกันนี้แคนนอนยังได้นำเสนอ 2 นวัตกรรมใหม่ คือ เทคโนโลยี D² Exposure ที่ใช้อุปกรณ์การผลิตจอแสดงผลไดโอดเปล่งแสงอินทรีย์ (OLED) ในการพิมพ์ มอบคุณภาพงานพิมพ์ระดับพรีเมียม ด้วยสีสันคมชัด ตัวอักษรคมชัดทุกมิติ และความละเอียดสูงถึง 4,800 x 2,400 dpi
เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการงานพิมพ์คุณภาพสูงในทุกชิ้นงาน ผลิตภัณฑ์กลุ่ม imageFORCE series คืออีกก้าวสำคัญของ แคนนอน ในการสนับสนุนธุรกิจไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และพร้อมรับมือกับทุกการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคดิจิทัล และยกระดับการบริการไปอีกขั้นด้วย
เทคโนโลยี E2 Analysis การวิเคราะห์ข้อมูล และอัลกอริทึมด้วย AI ช่วยตรวจสอบ และแก้ไขปัญหางานพิมพ์ล่วงหน้าได้จากระยะไกลก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น ถือเป็นการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานพิมพ์ ลดความผิดพลาด ลดเวลาหยุดชะงัก (downtime)
และค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม อีกทั้งการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานนี้จะช่วยให้ระบบสามารถปรับปรุงข้อผิดพลาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งเมื่อใช้ AI ก็จะช่วยลดดาวน์ไทม์ (down time) จากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อาทิ อะไหล่หมดอายุ
รวมถึงสามารถช่วยให้บริหารจัดการรูปแบบการพิมพ์ภายในองค์กร อีกทั้งยังช่วยให้สามารถบริหารจัดการด้านการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสามารถมั่นใจทุกการใข้งานด้วยเทคโนโลยีป้องกันภัยไซเบอร์ของ Trellix (บริการโซลูชันการตรวจจับ และตอบสนองแบบขยาย (XDR) ของแม็คอาฟี อิงค์) ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในอีกด้วย
เดินหน้าสู่พันธกิจเพื่อความยั่งยืนของแคนนอน
แคนนอน ยังคงมุ่งมั่นดำเนินพันธกิจในฐานะผู้นำเทคโนโลยีอิมเมจจิ้งระดับโลก ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบโจทย์ธุรกิจทุกประเภท โดยเฉพาะในยุคที่การเชื่อมต่อออนไลน์ ความปลอดภัย และความยั่งยืนกลายเป็นหัวใจสำคัญ ทำให้ แคนนอน ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างสมดุลในทุกมิติ
ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และผู้คน พร้อมกันนี้ แคนนอน ประเทศไทย (ปราจีนบุรี) ยังเดินหน้ายกระดับกระบวนการผลิตด้วยการนำพลาสติกที่เหลือจากกระบวนการผลิตเดิมมาทำกระบวนการทางเคมี ให้มีความแข็งแรง และนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตใหม่
รวมถึงปรับเปลี่ยนเฟรมภายในจากที่เคยใช้น็อตเพื่อยึดเฟรมเป็นการใช้เทคโนโลยีการเชื่อมด้วยเลเซอร์ (Laser Welding) ทำให้สามารถลดน้ำหนักของตัวเครื่องลงกว่า 30% อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดการสั้นไหวของตัวเครื่องลงซึ่งให้เปอร์เซนต์ของปัญหากระดาษติดลงได้
ทั้งหมดนี้คือเป้าหมายของ แคนนอน ที่ต้องการเดินหน้าสร้างนวัตกรรมเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมงานพิมพ์ไทยให้เติบโตสู่อนาคตอย่างยั่งยืน
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th