“รองนายกฯ ประเสริฐ” ลุยพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สั่งหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้ง-น้ำท่วม ควบคู่กับส่งเสริมการท่องเที่ยว

รองนายกฯ ประเสริฐ

“รองนายกฯ ประเสริฐ” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ โดยให้กรมชลประทานเร่งเตรียมความพร้อมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง เพิ่มน้ำต้นทุน ลดปัญหาภัยแล้ง และส่งเสริมการท่องเที่ยว…

รองนายกประเสริฐ” ลุยพื้นที่ .ศรีสะเกษ สั่ง กรมชลฯ-สทนช. เตรียมพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้งน้ำท่วม ควบคู่กับส่งเสริมการท่องเที่ยว

รองนายกฯ ประเสริฐ
ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม (ดีอี)

ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม (ดีอี) ลงพื้นที่กำกับ และติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เขตตรวจราชการที่ 14 ณ จังหวัดศรีสะเกษ ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์น้ำ ณ พื้นที่โครงการแก้มลิงห้วยไร่ ตำบลบก อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ

โดยมี พัชรวีร์ สุวรรณิก รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ พร้อมเข้าเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ณ ที่ว่าการอำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ

โดยมี อนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รายงานสถานการณ์ทั่วไปของอำเภอ พร้อมด้วยรองเลขาธิการ สทนช. หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

รองนายกฯ ประเสริฐ

“การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำของอำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมรับฟังสภาพปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการด้านน้ำของประชาชนในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางสนับสนุน หรือแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

โดยกรมชลประทานต้องเร่งเตรียมความพร้อม และขอตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อช่วยลดปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ และให้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนแหล่งใหม่ของจังหวัด” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี กล่าว

รองนายกฯ ประเสริฐ

ทั้งนี้ หากสามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดได้ ให้ร่วมกับจังหวัดหารือเพื่อจัดทำแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบ ใช้สำหรับกิจกรรมสันทนาการ และส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อไป พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ สทนช. ประสานร่วมกับกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำ

ทั้งการระบายน้ำ และการกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ เพื่อให้สามารถเป็นแหล่งเก็บกักน้ำในฤดูน้ำหลาก บรรเทาปัญหาอุทกภัย และใช้ประโยชน์จากน้ำที่เก็บกักไว้ในฤดูแล้งหน้าได้ รวมถึงให้จังหวัด กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

เร่งรัดตรวจสอบสภาพของแหล่งน้ำ อาคารชลศาสตร์ และบ่อบาดาลต่าง ๆ หากพบว่ามีการชำรุดเสียหาย หรือยังไม่พร้อมใช้งาน ให้ดำเนินการซ่อมแซมหรือปรับปรุง เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำในฤดูฝนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ฟื้นฟูแหล่งน้ำบาดาลให้ใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ

พร้อมกันนี้ ให้จังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างกระบวนการรับรู้สถานการณ์น้ำ เฝ้าระวังแจ้งเตือน เพื่อเตรียมพร้อมรับมือฤดูฝน ปี 2568 โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย เพื่อป้องกัน และลดผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนให้ได้มากที่สุด

สทนช. พร้อมดำเนินการตามมาตรการรับมือ ภัยแล้งน้ำท่วม

รองนายกฯ ประเสริฐ

พัชรวีร์ สุวรรณิก รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาจังหวัดศรีสะเกษมักประสบปัญหาน้ำหลากจากแม่น้ำมูล และพื้นที่ตอนบน โดยเฉพาะมวลน้ำจากห้วยสำราญ ซึ่งไหลผ่านเขตชุมชนเมืองที่มีลำน้ำแคบ ส่งผลให้บางพื้นที่เกิดอุทกภัย

ขณะเดียวกัน ยังมีบางพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุนในจังหวัดมีจำกัด ดังนั้น กรมชลประทานจึงได้ดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขะยุง ซึ่งเป็นโครงการสำคัญของจังหวัดศรีสะเกษ โดยหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 40 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.)

และมีพื้นที่ป้องกันน้ำท่วม 1,725 ไร่ พื้นที่ได้รับประโยชน์ 42,500 ไร่ และครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์ 2,874 ครัวเรือน โดยปัจจุบัน กรมชลประทานอยู่ระหว่างขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขาพนมดงรัก โดยมีแผนดำเนินการในปี 2570 นอกจากนี้ ยังมีแผนงานโครงการด้านน้ำต่าง ๆ

รองนายกฯ ประเสริฐ

อาทิ โครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองศรีสะเกษ ระยะที่ 1 โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของอ่างเก็บน้ำกุดเตอะ-กุดหวาย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมอาคารประกอบ โครงการขุดลอกคลองบ้านหนองคำถึงบ้านหัวนา พร้อมอาคารประกอบ เป็นต้น

เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งอุทกภัย และภัยแล้ง และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยมุ่งเน้นการสร้างประโยชน์อย่างยั่งยืน สำหรับสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ขณะนี้อ่างเก็บน้ำทุกแห่งของจังหวัดศรีสะเกษมีปริมาตรน้ำรวม 129.24 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 43% ของความจุเก็บกัก

ซึ่ง สทนช. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดการณ์ทั้งพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย และพื้นที่เสี่ยงฝนทิ้งช่วงในตลอดฤดูฝนนี้ เพื่อติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 อย่างเคร่งครัด

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay