Ford สานต่อโครงการพัฒนาทักษะเยาวชน สร้างคนนวัตกรรมอย่างยั่งยืน

Ford

ฟอร์ด (Ford) จับมือ PDA และ NIA เดินหน้าจัด Ford Smart Mobility Challenge สานต่อโครงการพัฒนาทักษะเยาวชน สร้างคนนวัตกรรมอย่างยั่งยืน…

Ford จับมือ PDA และ NIA สานต่อโครงการพัฒนาทักษะเยาวชน สร้างคนนวัตกรรมอย่างยั่งยืน

ฟอร์ด ประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนจาก ฟอร์ด ฟิแลนโทรพี (Ford Philanthropy) และพันธมิตรหลักอย่าง สมาคมพัฒนาประชากร และชุมชน (PDA), สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และบริษัท ทีวีบูรพา จำกัด. เดินหน้าจัด Ford Smart Mobility Challenge สานต่อโครงการพัฒนาทักษะเยาวชน

โดยโครงการ Ford Smart Mobility Challenge 2025 เป็นโครงการที่ ฟอร์ด ประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรที่มีแนวคิดนวัตกรรมยกระดับชุมชน และคุณภาพชีวิตของผู้คน โดยเปิดโอกาสให้เยาวชนอายุ 15-25 ปี ทั้งนักเรียนระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษาทั่วประเทศ ได้ร่วมส่งผลงาน เพื่อชิงรางวัลเงินทุนพัฒนาผลงานรวม 840,000 บาท

Ford

เจน ฮอลโลเวย์ ผู้จัดการ ฟอร์ด ฟิแลนโธรพี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาร่วม 11 ปีที่ผ่านมา มีเยาวชนไทยกว่า 2,000 คน จากกว่า 100 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะด้านนวัตกรรมผ่านโครงการนี้ ในปีนี้ ทางโครงการได้เล็งเห็นว่านวัตกรรมเข้ามามีบทบาทสำคัญ

ในการขับเคลื่อนชีวิตของทุกคนในสังคม ช่วยแก้ไขปัญหา และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น จึงได้ปรับชื่อจาก Ford Innovator Scholarship เป็น Ford Smart Mobility Challenge เพื่อสะท้อนแนวคิด “การขับเคลื่อน” อันเป็นหัวใจสำคัญของ ฟอร์ด และสอดคล้องกับการพัฒนาทักษะเยาวชน

ที่ดำเนินการในหลายประเทศทั่วโลก โครงการปี 2568 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่ออนาคตของการเดินทาง” (Driving Innovation to Power the Future of Movement) โดยมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมใน 3 มิติหลัก

  1. นวัตกรรมด้านการเข้าถึง และส่งเสริมความหลากหลาย (Mobility | Access & Inclusion)
  2. นวัตกรรมด้านความปลอดภัย (Mobility | Danger & Safety)
  3. นวัตกรรมด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี (Mobility | Wellbeing)

Ford

โครงการเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 4 สิงหาคม-24 กันยายน 2568 และได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักเรียน และนักศึกษาทั่วประเทศ รวม 138 ทีม ที่ส่งผลงานพร้อมคลิปการนำเสนอเข้าประกวด โดยคณะกรรมการได้พิจารณาจากศักยภาพในการต่อยอดผลงาน และการตอบโจทย์การยกระดับชุมชน

และคุณภาพชีวิตของผู้คน ใน 3 มิติ ของการขับเคลื่อน ก่อนคัดเลือก 10 ผลงาน จาก 10 ทีม ที่โดดเด่น ไปฝึกอบรมพัฒนาทักษะจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อยกระดับผลงาน และเสริมแกร่งทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และพัฒนาทักษะก่อนรอบชิงชนะเลิศในหัวข้อต่าง ๆ ได้แก่

  • เทคนิคการผลิตสื่อยังไง ให้ปัง!!” โดยทีวีบูรพา
  • Smart Mobility โดยวิศวกรด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฟอร์ด ที่ร่วมถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์เชิงลึกเกี่ยวกับเทคโนโลยี และความท้าทายในโลกของการเคลื่อนที่อัจฉริยะ
  • STEAM 4 INNOVATOR จากผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ที่ร่วมเสริมสร้างรากฐานความคิดสร้างสรรค์ที่จะบ่มเพาะทักษะที่จำเป็นในการเป็นนวัตกรยุคใหม่

โดยผลงานนวัตกรรมจาก 10 ทีมสุดท้าย มีดังนี้

Ford

Ford

ผ้าปิดแผลรักษ์โลกจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร จาก โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ : นวัตกรรมสำหรับวิเคราะห์คุณภาพของเส้นใยจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ได้แก่ ผ้าปิดแผลจากเส้นใยใบหญ้าคา เส้นใยใบอ้อย เส้นใยเปลือกข้าวโพด เส้นใยฝ้ายและเส้นใยสังเคราะห์

โดยทำการเคลือบด้วยสารสกัดจากใบชะมวง และผักติ้ว เพื่อพัฒนาเป็นผ้าปิดแผลที่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อบริเวณแผล

ระบบเฝ้าระวังไฟป่าอัจฉริยะบนพื้นที่เสี่ยง จาก โรงเรียนวารีเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ : โครงงานนี้พัฒนา “แพลตฟอร์มเฝ้าระวังไฟป่าเชิงรุก” สำหรับพื้นที่เสี่ยง โดยผสานข้อมูลจากเซ็นเซอร์ภาคพื้น (อุณหภูมิ ความชื้น ความเร็ว/ทิศทางลม และ CO2) กล้องภาพ ข้อมูลอุตุนิยมวิทยา และระบบตรวจสอบระยะไกล

เพื่อทำนายความเสี่ยงการติดไฟ ตรวจจับควัน/เปลวไฟแบบเรียลไทม์ และคาดการณ์การลุกลาม พร้อมแจ้งเตือนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีระบบตรวจจับภาพเรียนรู้จากชุดข้อมูลไฟ และควันป่า รวม 10,000 ภาพ

เครื่องตรวจคัดกรองโรคเบาหวานเบื้องต้น จาก โรงเรียนเฉลิมขวัญสตรี จังหวัดพิษณุโลก : นวัตกรรมด้านสุขภาพที่พัฒนาขึ้น เพื่อให้สามารถคัดกรองโรคเบาหวานเบื้องต้นได้ง่ายขึ้นที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพัฒนาร่วมกับเซนเซอร์ TGS1820 และสารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์จากฟ้าทะลายโจร

เพื่อเพิ่มความจำเพาะต่อการตรวจจับอะซิโตนซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญในลมหายใจของผู้ที่มีภาวะโรคเบาหวาน โดยออกแบบให้ระบบสามารถแสดงผลแบบเรียลไทม์ผ่านหน้าจอ OLED บนตัวเครื่อง และผ่าน Web Application และเก็บข้อมูลต่อเนื่อง

BEDCARE เตียงอัจฉริยะ จาก โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ : นวัตกรรม BEDCARE ถูกออกแบบให้มีระบบตรวจวัดอุณหภูมิด้วยเซนเซอร์อินฟราเรด กลไกพลิกตัวอัตโนมัติ และระบบพัดลมระบายความร้อนเฉพาะจุด โดยควบคุมการทำงานผ่าน PLC และ HMI

ที่สามารถปรับค่าการใช้งานได้ตามความเหมาะสม จุดเด่นของนวัตกรรมนี้คือการผสานการทำงานของหลายระบบเข้าด้วยกันอย่างครบวงจร เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความสะดวกสบาย และปลอดภัยสูงสุด

Smart Walk อุปกรณ์ช่วยฟื้นฟูการฝึกเดิน จาก วิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ : โครงงานนี้พัฒนา “Smart Walk” อุปกรณ์กายภาพบำบัดช่วยฝึกเดินกึ่งอัตโนมัติ โดยใช้แผงบอร์ดควบคุมเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย เป็นตัวประมวลผล สามารถควบคุมผ่านจอ Touch Screen

และแอปพลิเคชัน พร้อมระบบเชื่อมต่อออนไลน์ เก็บข้อมูลการใช้งาน และแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดภาระผู้ดูแล และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ในชุมชน

เครื่องซีลผัก และผลไม้สุญญากาศด้วยพลังแรงดันน้ำ จาก วิทยาลัยเทคนิคสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี : นวัตกรรมสร้างเครื่องการซีลผักใส่ถุงสุญญากาศ โดยนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำอยู่แต่มีความยุ่งยาก ไม่ปลอดภัย และใช้เวลาเยอะ นักประดิษฐ์คิดสร้างเครื่องซีลผักใส่ถุงสุญญากาศ

ที่ใช้พลังงานแรงดันของน้ำในการรีดเอาอากาศออกโดยไม่ใช้ไฟฟ้า ไม่ทำให้ผักช้ำ สามารถล้างก่อนการซีลใส่ถุง และรักษาความสดของผักได้นานถึง 1-2 อาทิตย์ สะดวกในการขนย้าย และสามารถพัฒนาต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ต่อไป

HKA เครื่องกายภาพบำบัด จาก วิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ : เครื่องกายภาพบำบัดช่วยฟื้นฟูสะโพก ข้อเข่าและข้อเท้า แบบ CPM (Continuous Passive Motion) ระบบกึ่งอัตโนมัติ พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในชุมชนที่มีผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลโรงพยาบาล ซึ่งการเดินทางไปทำกายภาพบำบัดมีค่าใช้จ่ายสูง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลไม่มีเครื่องช่วยฟื้นฟู

Honeycomb Speed Bump จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ : โครงงานนี้มีเป้าหมายในการยกระดับลูกระนาดธรรมดาให้ก้าวสู่การเป็นโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ ที่ตอบโจทย์ทั้งความปลอดภัย พลังงานสะอาด และความยั่งยืน ลูกระนาดถูกออกแบบด้วยโครงสร้างรังผึ้งแนวตั้ง (Out-of-Plane Honeycomb)

ที่สามารถดูดซับแรงกระแทก ลดความเสียหายต่อรถ และเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ถนน พร้อมทั้งผสานระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแรงกดทับ ด้วยหลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า พลังงานที่ได้จะถูกเก็บไว้ใน หน่วยเก็บ

และจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้ในปริมาณมาก และรวดเร็ว (Supercapacitor) และแบตเตอรี่ LiFePO4 เพื่อจ่ายไฟให้กับไฟส่องสว่าง ป้ายจราจรอัจฉริยะ และอุปกรณ์ IoT

Graphene Battery from Leonardite Waste จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กรุงเทพมหานคร : โครงงานนวัตกรรมนี้มีจุดมุ่งหมายในการนำ Leonardite ซึ่งเป็นของเสียจากเหมืองถ่านหินในประเทศไทย มาสร้างมูลค่าใหม่ผ่านการผลิต Graphene และต่อยอดสู่การพัฒนา Graphene Iodine Battery เพื่อสนับสนุนความปลอดภัยในการใช้งานแบตเตอรี่ พลังงานหมุนเวียน และการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

FloodNav ระบบนำทางอัจฉริยะเพื่อการกู้ภัย จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร : FloodNav เป็นนวัตกรรมแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ถูกออกแบบมาเพื่อปฏิวัติกระบวนการวางแผน และปฏิบัติการกู้ภัยในสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่

โดยมุ่งแก้ไขปัญหาสำคัญที่ทีมกู้ภัยต้องเผชิญ นั่นคือการขาดข้อมูลแผนที่ที่เป็นปัจจุบัน และความล่าช้าในการประสานงานที่เกิดจากข้อมูลที่ไม่ตรงกัน แพลตฟอร์มนี้ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางอัจฉริยะที่รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง

ทั้งภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูง ข้อมูลภูมิสารสนเทศจาก GISTDA และข้อมูลภาคสนามแบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์เส้นทางที่ปลอดภัย และเหมาะสมที่สุด

โครงการ Ford Smart Mobility Challenge 2025 จะมอบทุนการศึกษาแก่ผู้ชนะในรอบชิงชนะเลิศ จำนวน 12 ทุน และทุนสนับสนุนการพัฒนาโครงงานสำหรับสถาบันการศึกษา จำนวน 4 ทุน รวมทั้งสิ้น 840,000 บาท ดังนี้

  • รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ : ทุนการศึกษา 150,000 บาท และทุนสนับสนุนสถาบัน 50,000 บาท (รวม 200,000 บาท)
  • รองชนะเลิศอันดับที่ 1 : ทุนการศึกษา 100,000 บาท และทุนสนับสนุนสถาบัน 40,000 บาท (รวม 140,000 บาท)
  • รองชนะเลิศอันดับที่ 2 : ทุนการศึกษา 80,000 บาท และทุนสนับสนุนสถาบัน 30,000 บาท (รวม 110,000 บาท)
  • รองชนะเลิศอันดับที่ 3 : ทุนการศึกษา 60,000 บาท และทุนสนับสนุนสถาบัน 20,000 บาท (รวม 80,000 บาท)
  • รางวัลชมเชย (6 รางวัล) : ทุนการศึกษารางวัลละ 40,000 บาท (รวม 240,000 บาท)
  • รางวัลพิเศษ : Social Popular Vote: ทุนการศึกษา 35,000 บาท
  • รางวัลพิเศษ : Best of Team Work: ทุนการศึกษา 35,000 บาท

พัฒนาทักษะ และ วิธีคิด เตรียมความพร้อมให้เยาวชน

Ford
เจน ฮอลโลเวย์ ผู้จัดการ ฟอร์ด ฟิแลนโธรพี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

“การจัดงาน Ford Smart Mobility Challenge 2025 ในปีนี้ ได้มีการปรับแนวคิดของโครงการ (Focus Concept) ให้มีความชัดเจน และเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นที่โครงการที่ตอบโจทย์ด้าน “Mobility” โดยเฉพาะ เนื่องจากวัตถุประสงค์หลักของโครงการคือการ พัฒนาทักษะ (Skill) และ วิธีคิด

ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งโครงการที่ผ่านเข้ารอบจะต้องสามารถตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจนว่า จะสามารถ ต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ (Value Creation) ได้ในแง่มุมใดบ้าง ซึ่งเป็นมุมมองที่ต่อยอดจากบทเรียนของโครงการในปีก่อน ๆ เพื่อให้ผลงานมีศักยภาพในการใช้งานจริง 

สำหรับ ฟอร์ด การลงทุนในโครงการนี้ไม่ใช่เพื่อนำนวัตกรรมของเยาวชนไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์โดยตรง แต่เป็นการทำเพื่อ ชุมชน และสังคม ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจระยะยาวของฟอร์ด ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริงของโครงการนี้คือการเห็นว่า โครงการที่เยาวชนคิดขึ้นมานั้นมีประโยชน์ต่อสังคมอย่างไร

และที่สำคัญยิ่งกว่าคือการสร้างโอกาสในอนาคตให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ เราต้องการเห็นอนาคตของเยาวชนมากกว่า ว่าเยาวชนที่ผ่านโครงการนี้ไปสามารถเข้าไปทำงานในด้านไหนบ้าง โครงการที่พวกเขาทำเปิดโอกาสให้เขาในการสมัครงาน หรือไม่ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า

วันนี้ บัณฑิตจบใหม่ และผู้สำเร็จการศึกษาประสบปัญหาในการหางาน การมีทักษะและผลงานที่เป็นรูปธรรมจากโครงการนี้จึงเป็นแต้มต่อที่สำคัญในตลาดแรงงานที่ให้ความสำคัญกับ ความสามารถ และทักษะเฉพาะ (Specific Skills) อย่างยั่งยืนมากขึ้น” เจน ฮอลโลเวย์ กล่าว

Ford

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay