Sony ลุยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้ง BRAVIA XR และ หูฟังสำหรับเล่นเกม รับครึ่งปีหลัง

Sony

โซนี่ ประเทศไทย (Sony Thai) ลุยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้ง BRAVIA XR รุ่นใหม่ประจำปี 2022 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีประมวลผลอัจฉริยะ Cognitive Processor XR™ และ หูฟังสำหรับเล่นเกม ภายใต้แบรนด์ “INZONE” โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์พร้อมส่งคุณภาพเสียงจากเทคโลยีเสียง 360 Spatial Sound…

Sony ลุยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้ง BRAVIA XR และ หูฟังสำหรับเล่นเกม รับครึ่งปีหลัง

บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ทีวีบราเวีย (BRAVIA) รุ่นใหม่ประจำปี 2022 กว่า 21 รุ่น นำโดย BRAVIA XR OLED TV (บราเวีย เอ็กซ์อาร์ โอแอลอีดี ทีวี) ในซี่รี่ส์ A90K, และ A80K รวมถึง BRAVIA 4K LED TV (บราเวีย โฟร์เค แอลอีดี ทีวี) ในซี่รี่ส์ X90K, X85K, X80K และ X75K 

ทั้งนี้ยังได้ประกาศเดินหน้ารุกตลาดเกมมิ่งเกียร์ นำร่องเปิดตัวผลิตภัณฑ์หูฟังเกมมิ่ง รุ่น ภายใต้แบรนด์ อินโซน(INZONE) ได้แก่ INZONE H9, INZONE H7 และ INZONE H3 โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ มาพร้อมเทคโนโลยี 360 Spatial Sound ที่ส่งมอบพลังเสียงที่คมชัด และแม่นยำ

Sony

จุดเด่นของ BRAVIA XR Lineup ปี 2022 มีดังต่อไปนี้

ระบบประมวลผล Cognitive Processor XR™ : เป็นระบบประมวลผลที่อยู่บน โซนี่ BRAVIA XR™ ที่พร้อมจะนำคุณไปสู่อีกระดับของภาพ และเสียง โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อจำลองแบบการมองเห็น และการได้ยินของมนุษย์ พร้อมสร้างประสบการณ์เสียงที่สมจริงได้อย่างน่าอัศจรรย์ ทั้

งยังสามารถวิเคราะห์ปรับปรุงองค์ประกอบของภาพโดยเฉพาะจุดโฟกัส เพื่อให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับคอนทราสต์ของภาพที่โดดเด่น รวมถึงให้สีสันที่สดใสสมจริงในทุกมุมมอง

เทคโนโลยี Acoustic Surface Audio+™/ Acoustic MultiAudio: จะทำหน้าที่เปลี่ยนหน้าจอให้เป็นลำโพงแบบ Multi-Channel ทำให้คุณได้ยินเสียงที่ตรงกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้อย่างแม่นยำ พร้อมมอบประสบการณ์ภาพ และเสียงที่ชวนดื่มด่ำได้อย่างแท้จริง

เทคโนโลยี 360 Spatial Sound Personalizer : เมื่อใช้ร่วมกับทีวี BRAVIA XR™ จะมอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่ปรับให้เหมาะสมที่สุดเมื่อคุณใช้งานร่วมกับลำโพงไร้สายแบบคล้องคอ (Neckband) อาทิ SRS-NS7 รวมถึงหูฟังโซนี่ในรุ่นอื่น ๆ ที่รองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์เสียงของโซนี่ : BRAVIA XR™ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์เสียงของโซนี่ อาทิ ระบบโฮมเธียเตอร์ และซาวด์บาร์ระดับเรือธงในตระกูล “HTA Series ได้แก่ HTA9 และ HTA7000 รวมถึง HTA5000 (วางจำหน่ายตุลาคม 65) 

ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี 360 Spatial Sound Mapping ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่อยู่ในรุ่น HT-A7000 และ HT-A5000 จะสร้างลำโพง Phantom ที่ได้รับการจัดเรียงอย่างเหมาะสมจะช่วยสร้างสนามเสียงที่กว้าง และสมจริงยิ่งขึ้น

ผสานการทำงานร่วมกับ Acoustic Center Sync จะเป็นช่องสัญญาณกลางระหว่างระบบโฮมเธียเตอร์หรือซาวด์บาร์จะช่วยให้เสียงตรงกับการเคลื่อนไหวบนหน้าจอได้อย่างสมบูรณ์แบบ

รองรับ BRAVIA CAM : รองรับการเชื่อมต่อ BRAVIA XR TV เข้ากับ BRAVIA CAM ที่จำหน่ายแยกต่างหาก พร้อมมอบประสบการณ์การรับชมที่สมจริงยิ่งขึ้น โดย BRAVIA CAM จะจดจำวาคุณอยู่ตำแหน่งใดในห้องและคุณอยู่ห่างจากทีวีเท่าใด

จากนั้นจึงทำการปรับการตั้งค่าเสียงและภาพให้เหมาะสม เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับประสบการณ์ที่สนุกสนานด้วย BRAVIA CAM รวมถึงสามารถสั่งการผ่านท่าทาง, แชท, วิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมายอีกด้วย

Ambient Optimization Pro : ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ BRAVIA XR TV กับ BRAVIA CAM เพื่อให้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมได้อย่างมีอรรถรส ด้วยเทคโนโลยี Ambient Optimization Pro ที่ไม่เหมือนใครพร้อมเซนเซอร์แสงจะปรับภาพ และเสียงให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของคุณได้โดยอัตโนมัติ

ระบบปฏิบัติการ Google TV : สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่จาก Google TV ในการรวบรวมภาพยนตร์ และรายการที่ถ่ายทอดสดมากกว่า 700,000 รายการมาไว้ในแอปพลิเคชั่น ในขณะที่การสมัครรับข้อมูลและการจัดระเบียบคอนเทนต์ เพื่อให้ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการรับชมได้อย่างง่ายดาย

โดยมาพร้อมคำแนะนำส่วนบุคคล และการบันทึกรายการ และภาพยนตร์ไว้ในเพลย์ลิสต์ สำหรับการติดตามและรับชมก็สามารถทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยผู้ใช้สามารถเพิ่มรายการที่ชื่นชอบลงในโทรศัพท์มือถือหรือแล็ปท็อปได้ด้วย Google Search อีกด้วย

รีโมทระดับพรีเมี่ยม : รีโมทอลูมิเนียมรูปแบบใหม่มาพร้อมปุ่มที่ใช้งานง่ายและไฟ Backlight ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจนแม้ในที่มืด หมดกังวลในการทำรีโมทหายอีกต่อไป ด้วยฟังก์ชัน Finder โดยผู้ใช้สามารถบอกให้ทีวีค้นหารีโมทได้อีกด้วย

โหมด BRAVIA CORE Calibrated : เป็นบริการสตรีมมิ่งที่มีภาพยนตร์จำนวนมากรอให้คุณรับชม ซึ่งถูกติดตั้งไว้เรียบร้อยแล้วบน BRAVIA XR รุ่นปี 2022 โดยคุณสามารถ Redeem ภาพยนตร์ได้สูงสุดถึง 10 เรื่อง และสตรีมมิ่งแบบไม่จำกัดสูงสุดถึง 24 เดือน ผ่านทาง BRAVIA XR TV นอกจากนี้เทคโนโลยี BRAVIA XR,

Pure Stream™ และ IMAX® Enhanced ยังทำให้ทุกสิ่งที่คุณรับชมได้รับการถ่ายทอดด้วยภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจและคุณภาพเสียงที่น่าประทับใจ ด้วยโหมด BRAVIA CORE Calibrated จะทำการปรับการตั้งค่าภาพได้โดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่บ้านได้อย่างยอดเยี่ยม 

โหมด Netflix Adaptive Calibrated : เป็นโหมดการแสดงผลใหม่ที่ใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์วัดแสงรอบข้างที่อยู่ใน BRAVIA XR ของโซนี่ ผสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง Sony กับ Netflix 

จะทำให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับเนื้อหา Netflix ในคุณภาพระดับสตูดิโอที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยสีและคอนทราสต์ที่แม่นยำ รวมถึงการเคลื่อนไหวที่สมจริง ไม่ว่าเนื้อหาที่รับชมจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือมีแสงสว่างเพียงพอก็ตาม

Perfect for PlayStation®5 : เมื่อจับคู่ BRAVIA XR TV กับคอนโซล PlayStation®5 คุณจะได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม รวมถึงสามารถปรับแต่งภาพให้เหมาะสมกับคอนโซล PlayStation®5 โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าคุณจะเล่นเกม หรือชมภาพยนตร์ คุณจะได้ภาพ และเสียงที่สมจริงราวกับอยู่ในเกม

หรือภาพยนตร์นั้น ๆ เลยทีเดียว ทั้งยังมาพร้อมจอแสดงผลแบบ 4K ที่ 120fps พร้อมช่องต่อแบบ HDMI ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเคลื่อนไหวในเกมที่ราบรื่นและประสิทธิภาพในการตอบสนองที่ฉับไว

การออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม : โซนี่มุ่งมั่นในการพัฒนาตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงประสบการณ์ในการรับชม โดยในปีนี้โซนี่เลือกใช้พลาสติกรีไซเคิล SORPLAS™ ที่พัฒนาโดยโซนี่ ซึ่งเป็นวัสดุรีไซเคิล 99% ช่วยให้ลดปริมาณการใช้พลาสติกบริสุทธิ์ลงไปได้ถึง 60%

นอกจากนี้ขนาดบรรจุภัณฑ์สำหรับทีวียังลดลงประมาณ 15% ทำให้สามารถลดการใช้หมึกลงได้ถึง 90% และลดพลาสติกลงไปได้ถึง 35% เลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน BRAVIA CAM ยังช่วยประหยัดพลังงานในขณะที่ผู้ชมไม่ได้อยู่ที่หน้าทีวีอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ทีวีบราเวียรุ่นใหม่จากโซนี่ ประกอบด้วย

RAVIA XR OLED TV รุ่น A90K เป็นทีวีระดับพรีเมี่ยมในตระกูล BRAVIA XR OLED TV ขนาดพิเศษ 48” ที่มาพร้อมชิปประมวลผลอันชาญฉลาดอย่าง Cognitive Processor XR ซึ่งเป็นระบบประมวลผลแบบใหม่ที่เหนือกว่า AI ทั่วไป ได้รับการออกแบบมาเพื่อจำลองแบบการมองเห็นและการได้ยินของมนุษย์

อีกทั้งยังทำการวิเคราะห์ข้อมูลปรับปรุงภาพในลักษณะเดียวกับที่สายตามนุษย์โฟกัส ทั้งยังผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี XR OLED Contrast Pro ที่จะทำหน้าที่ปรับความสว่างให้สว่างเจิดจรัสในที่แสงจ้าและเงาในส่วนมืดที่ดำสนิท รวมถึง XR Triluminos Pro™ 

ช่วยให้จอแสดงผลที่เป็นเอกลักษณ์สามารถเข้าถึงขอบเขตสีที่กว้างขึ้น ทำให้การแสดงสีมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยได้อย่างครบถ้วน ทำให้เฉดสีสดใส และพื้นผิวที่สมจริงอีกด้วย ในขณะที่โหมด BRAVIA CORE Calibrated จะทำหน้าที่ปรับการตั้งค่าภาพได้โดยอัตโนมัติ

พื่อสร้างประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่บ้านได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงเทคโนโลยี Acoustic Surface Audio+ และ Acoustic Center Sync ยังมอบตำแหน่งเสียงที่แม่นยำยิ่งขึ้น และให้เสียง เซอร์ราวด์แบบภาพยนตร์ ทำให้ภาพ และเสียงมีความกลมกลืนกันอย่างสมบูรณ์แบบ 

ทั้งยังรองรับอุปกรณ์เสริมอย่าง BRAVIA CAM และเทคโนโลยี Ambient Optimization Pro ที่ทำหน้าที่ปรับคุณภาพของภาพ และเสียงให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อมของผู้รับชมโดยอัตโนมัติ อีกทั้งสามารถรับชมประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่จากระบบปฏิบัติการ Google TV ที่รวบรวมภาพยนตร์

และรายการที่ถ่ายทอดสดมากกว่า 700,000 รายการ มาไว้ในแอปพลิเคชั่น โดยผู้ใช้สามารถเพิ่มรายการที่ชื่นชอบลงในโทรศัพท์มือถือหรือแล็ปท็อปได้ด้วย Google Search อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังรองรับ Hand Free Voice Capabilities เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมได้อย่างมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น

โดยมาพร้อมรีโมทแบบพรีเมี่ยมที่ได้รับการออกแบบมาให้มีปุ่มกดที่ใช้งานง่ายและไฟ Backlight ช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจนแม้ในที่มืด

หมดกังวลในการทำรีโมทหายอีกต่อไป ด้วยฟังก์ชัน Finder ทำให้ผู้ใช้สามารถบอกให้ทีวีค้นหารีโมทได้อีกด้วย โดย BRAVIA XR OLED TV Master Series รุ่น A90K ขนาดพิเศษ 

Sony

BRAVIA XR OLED TV รุ่น A80K เป็นทีวีระดับพรีเมี่ยมในตระกูล BRAVIA XR OLED TV ที่มอบคุณภาพของภาพที่ดีที่สุดด้วยความละเอียดหน้าจอ 8 ล้านพิกเซล และ 4K HDR ที่ให้คุณรับชมภาพที่เป็นธรรมชาติ สีสันสมจริง และคอนทราสต์ที่แม่นยำ มาพร้อมชิปประมวลผลภาพอันทรงพลัง

อย่าง Cognitive Processor XR ซึ่งเป็นระบบประมวลผลแบบใหม่ที่เหนือกว่า AI ทั่วไป ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อจำลองแบบการมองเห็นแ ละการได้ยินของมนุษย์ อีกทั้งยังทำการวิเคราะห์ข้อมูลปรับปรุงภาพในลักษณะเดียวกับที่สายตามนุษย์โฟกัส ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี XR OLED Contrast Pro 

ทำหน้าที่ปรับความสว่างให้สว่างอย่างสูงสุดในที่แสงจ้าและเงามืดที่ดำสนิท รวมถึง XR Triluminos Pro ที่ช่วยให้จอแสดงผลที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ภาพมีสีสันสดใสและพื้นผิวที่สมจริงมีมิติเหมือนต้นฉบับ อีกทั้งยังมาพร้อมโหมด BRAVIA CORE Calibrated ที่จะทำการปรับการตั้งค่าภาพได้โดยอัตโนมัติ

เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่บ้านได้อย่างยอดเยี่ยม  ในขณะที่เทคโนโลยี Acoustic Surface Audio+ ที่ใช้ Actuators แบบพิเศษในการเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นลำโพงแบบ Multi-Channel เพื่อให้ได้ยินเสียงที่ตรงกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้อย่างแม่นยำ

โดยทีวีจะประกอบไปด้วย Actuators ถึงสามตัว และซับวูฟเฟอร์สองตัว ซึ่ง Actuators สองตัวใช้สำหรับเสียงแหลม พร้อมมอบเสียงเซอร์ราวด์แบบโรงภาพยนตร์ ทำให้ภาพ และเสียงมีความกลมกลืนกันอย่างสมบูรณ์แบบ

ยิ่งไปกว่านั้นยังมาพร้อม Acoustic Center Sync จะช่วยในการปรับเอาท์พุตจากเสียงทีวี และซาวด์บาร์ให้เหมาะสม เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงรองรับอุปกรณ์เสริมอย่าง BRAVIA CAM และเทคโนโลยี Ambient Optimization Pro ที่ทำหน้าที่ปรับคุณภาพของภาพ และเสียง

ให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อมของผู้รับชมโดยอัตโนมัติ อีกทั้งสามารถรับชมประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่จากระบบปฏิบัติการ Google TV ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายได้ด้วยการออกคำสั่งด้วยเสียงภาษาไทยโดยไม่ต้องใช้รีโมทคอนโทรล ระบบจะส่งคอนเทนต์ต่างๆจากสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตให้ไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้

ผ่านทาง Chrome Cast และ Apple Airplay ได้อย่างสะดวก ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆภายในบ้านที่รองรับ Internet of Things ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่เทคโนโลยี XR 4K Upscaling ซึ่งเป็นการยกระดับสัญญาณ 2K ให้ใกล้เคียงกับคุณภาพ 4K ที่แท้จริง

เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดสมจริงและมีรายละเอียดอย่างน่าอัศจรรย์ ทั้งยังรองรับ Hand Free Voice Capabilities เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมได้อย่างมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น โดย BRAVIA XR OLED TV รุ่น A80K  พร้อมวางจำหน่าย 3 รุ่น 3 ขนาด 

Sony

BRAVIA XR 4K LED TV รุ่น X90K นับเป็น 4K LED TV ที่อยู่ในตระกูล BRAVIA XR Series ที่โดดเด่นด้วยจอแสดงผลในระดับ 4K ที่ 120fps สามารถรองรับความละเอียด และความคมชัดได้แม้ในฉากที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการรับชมกีฬา และวิดีโอแอ็คชั่นได้อย่างยอดเยี่ยม

พร้อมขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลใหม่ล่าสุดอย่าง Cognitive Processor XR™ ที่ถูกออกแบบมาให้เข้าใจการมองเห็นและการได้ยินของมนุษย์ รวมถึงสามารถวิเคราะห์ตำแหน่งเสียงสัญญาณ เพื่อให้เสียงตรงกับสิ่งที่อยู่บนหน้าจอได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังสามารถแปลงเสียงให้เป็นเสียงเซอร์ราวด์แบบ 3 มิติ

เพื่อให้ได้ภาพและเสียงที่สมจริง ผสานการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Full Array LED และ XR Contrast Booster ซึ่งเป็นแผงหลอดไฟที่อยู่บริเวณด้านหลังจอ ที่จะช่วยเพิ่มระดับความสว่างบนหน้าจอทีวีให้มากขึ้น พร้อมควบคุมระดับความดำของภาพให้เข้มกว่าการรับชมจากทีวี LED ทั่วไป

โดยนำความลึก และรายละเอียดของภาพออกมา เพื่อให้ได้ภาพที่สมจริงสูงสุดด้วยสีดำเข้มและความสว่างสูงสุด รวมถึงเทคโนโลยี XR TRILUMINOS PRO ที่จะทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจไปกับเฉดสีต่างๆได้อย่างละเอียดและคมชัดมากยิ่งขึ้น ทำให้ได้คุณภาพของภาพที่น่าประทับใจและเป็นธรรมชาติ

ในขณะเดียวกันยังมอบสุดยอดความคมชัดที่เหนือกว่าด้วยระบบประมวลผลภาพแบบ XR 4K Upscaling ที่มาพร้อม 4K Resolution เพื่อเพิ่มความละเอียดของภาพให้มากกว่าระดับ Full HD เท่านั้นยังไม่พอยังรองรับ Acoustic MultiAudio ที่ทำงานร่วมกับลำโพง X-Balanced 

รวมถึงทวีตเตอร์ควบคุมตำแหน่งเสียง ทำให้เสียงเข้ากันได้ดีกับสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอได้อย่างแม่นยำ เสมือนเสียงออกจากหน้าจอทีวีเลยทีเดียว

ในขณะเดียวกัน X90K ยังมาพร้อม Acoustic Center Sync จะช่วยในการปรับเอาท์พุตจากเสียงทีวีและซาวด์บาร์ให้เหมาะสม เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงโหมด BRAVIA CORE Calibrated ที่จะทำการปรับการตั้งค่าภาพได้โดยอัตโนมัติ เพื่อสร้างประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่บ้านได้อย่างยอดเยี่ยม    

อีกทั้งสามารถรับชมประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่จากระบบปฏิบัติการ Google TV ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายได้ด้วยการออกคำสั่งด้วยเสียงภาษาไทยโดยไม่ต้องใช้รีโมทคอนโทรล ระบบจะส่งคอนเทนต์ต่าง ๆ จากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้ไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้ผ่านทาง Chrome Cast และ Apple Airplay 

ได้อย่างสะดวก ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆภายในบ้านที่รองรับ Internet of Things ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับอุปกรณ์เสริมอย่าง BRAVIA CAM และเทคโนโลยี Ambient Optimization Pro ที่ทำหน้าที่ปรับคุณภาพของภาพและเสียงให้เข้ากับทุกสภาพแวดล้อมของผู้รับชม

โดยอัตโนมัติ รวมถึงรองรับการถ่ายทอดสัญญาณภาพ Dolby Vision และระบบเสียง Dolby Atmos เพื่อให้คุณเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นยังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่เรียบง่ายในสไตล์ Minimalist One Slate ด้วยการขยายหน้าจอให้ใหญ่ที่สุด และลดกรอบให้เล็กลง

เพื่อให้ผู้ใช้จดจ่ออยู่กับภาพในจอซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรับชมโดยไม่รบกวนสมาธิแต่อย่างใด มาพร้อมรีโมทที่ใช้งานง่ายและทำความสะอาดง่าย รวมถึงขาตั้งแบบสองทางให้คุณเลือกวางได้อย่างสวยงาม

โดย BRAVIA XR 4K LED TV รุ่น X90K พร้อมวางจำหน่าย 4 รุ่น 4 ขนาด 

Sony

BRAVIA 4K LED TV รุ่น X85K เป็นทีวีระดับพรีเมี่ยมที่มาพร้อมความละเอียดหน้าจอ 8 ล้านพิกเซล และจอแสดงผลในระดับ 4K ที่ 120fps สามารถรองรับการเล่นเกมที่มีความละเอียดสูงและเฟรมเรตที่รวดเร็ว พร้อมมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริงได้อย่างมีอรรถรส ผสานชิปประมวลผล 4K HDR Processor X1 

ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของโซนี่ ทำให้ภาพมีมิติได้อย่างน่าอัศจรรย์มาพร้อมความละเอียดของภาพที่คมชัดและสมจริงและคอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งยังโดดเด่นด้วยระบบประมวลผลภาพ 4K XReality Pro เพื่อมอบความคมชัดที่เหนือกว่า ที่มาพร้อม 4K Resolution 

เพื่อเพิ่มความละเอียดของภาพให้มากกว่าระดับ Full HD  รวมถึง TRILUMINOS PRO™ ที่ สามารถแสดงผลให้ภาพที่มีสีสันสมจริงในเฉดสีที่หลากหลา ยและกว้างขึ้นกว่า LED TV ปกติ ในขณะที่ยังให้คุณเพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงที่ชัดเจน

และเสียงเบสที่ลงลึกด้วยเทคโนโลยีของลำโพง XBalanced Speaker มาพร้อมขุมพลังจากระบบ ปฏิบัติการ Google TV ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายได้ด้วยการออกคำสั่งด้วยเสียงภาษาไทยโดยไม่ต้องใช้รีโมทคอนโทรล

เพียงพูดคำว่า Hey Google และพูดสิ่งที่คุณต้องการรับชมออกมา ระบบจะส่งคอนเทนต์จากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้ไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้ผ่านทาง Chrome Cast และ Apple Airplay 

ได้อย่างสะดวก พร้อมช่องต่อแบบ HDMI รวมถึงรองรับ Digital TV และ Hand Free Voice Capabilities เพื่อมอบประสบการณ์การรับชมได้อย่างมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น โดย BRAVIA 4K LED TV รุ่น X85K พร้อมวางจำหน่าย 4 รุ่น 4 ขนาดด้วยกัน

Sony

BRAVIA 4K LED TV รุ่น X80K เป็นทีวีระดับพรีเมี่ยมที่มาพร้อมความละเอียดหน้าจอ 8 ล้านพิกเซล ผสานชิปประมวลผล 4K HDR Processor X1 ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของโซนี่ ทำให้ภาพมีมิติได้อย่างน่าอัศจรรย์มาพร้อมความละเอียดของภาพที่คมชัด และสมจริงเหมือนตาเห็น

ทั้งยังโดดเด่นด้วยจอแสดงผลแบบ TRILUMINOS PRO™ ที่สามารถแสดงผลให้ภาพที่มีสีสันสมจริงในเฉดสีที่หลากหลายและกว้างขึ้นกว่า LED TV ปกติ ในขณะที่ยังให้คุณเพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงที่ชัดเจน และเสียงเบสที่ลงลึกด้วยเทคโนโลยีของลำโพง XBalanced Speaker มาพร้อมขุมพลังจากระบบปฏิบัติการ Google TV ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่าย

ได้ด้วยการออกคำสั่งด้วยเสียงภาษาไทยโดยไม่ต้องใช้รีโมทคอนโทรล เพียงพูดคำว่า Hey Google และพูดสิ่งที่คุณต้องการรับชมออกมา นอกจากนี้ยังสามารถส่งคอนเทนต์ต่าง ๆ จากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้ไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้ผ่านทาง Chrome Cast และ Apple Airplay ได้อย่างสะดวก

ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ภายในบ้านที่รองรับ Internet of Things โดยผ่าน Apple Homekit ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังได้รับเครื่องหมาย Netflix Recommended ซึ่งเป็นการ การันตีว่า เป็นทีวีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการรับชม Netflix อีกด้วย

นอกจากนี้ตัวเครื่องยังรองรับระบบ Dolby Vision และ Dolby Atmos เพื่ออรรถรสในการรับชมเสมือนยกโรงภาพยนตร์มาอยู่ในบ้านเลยทีเดียว โดย BRAVIA 4K LED TV รุ่น X80K พร้อมวางจำหน่าย 5 รุ่น 5 ขนาด

Sony

BRAVIA 4K LED TV รุ่น X75K มาพร้อมชิปประมวลผล 4K Processor X1™ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของโซนี่ พร้อมด้วยคุณภาพความละเอียดคมชัด และมีมิติได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยความละเอียดของภาพที่สวยงามในระดับ 4K HDR ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดของสีที่สมจริงและคอนทราสต์ของทุกภาพที่คุณรับชมอย่างแม่นยำ

โดดเด่นด้วยระบบประมวลผลภาพ 4K XReality Pro เพื่อมอบความคมชัดที่เหนือกว่า มาพร้อม 4K Resolution เพื่อเพิ่มความละเอียดของภาพให้มากกว่าระดับ Full HD รวมถึงขุมพลังจากระบบปฏิบัติการ Google TV ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายได้ด้วยการออกคำสั่งด้วยเสียงภาษาไทย

ผ่านรีโมทคอนโทรลนอกจากนี้ยังสามารถส่งคอนเทนต์ต่าง ๆ จากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้ไปแสดงบนหน้าจอทีวีได้ผ่านทาง Chrome Cast และ Apple Airplay ได้อย่างสะดวก ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆภายในบ้านที่รองรับ Internet of Things 

โดยผ่าน Apple Homekit ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่องต่อแบบ HDMI รวมถึงรองรับ Digital TV ทั้งยังช่วยให้คุณจัดระเบียบสายต่างๆที่เชื่อมต่อกับทีวีให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย Cable Management ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย BRAVIA 4K LED TV รุ่น X75K พร้อมวางจำหน่าย 4 รุ่น 4 ขนาด

Sony

ส่ง INZONE รุกตลาดเกมมิ่งเกียร์ลุยลาดไทย

นอกจากนนี้ โซนี่ นำร่องเปิดตัวผลิตภัณฑ์หูฟังเกมมิ่ง รุ่น ภายใต้แบรนด์ อินโซน (INZONE) ได้แก่ INZONE H9, INZONE H7 และ INZONE H3 โดยทุกรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยี 360 Spatial Sound สำหรับการเล่นเกม สามารถตรวจจับคู่ต่อสู้ได้อย่างแม่นยำ

ให้คุณภาพของเสียงที่คมชัดพร้อมไมโครโฟนที่ตอบสนองได้อย่างฉับไว ในขณะที่ตัวหูฟังยังได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ให้สวมใส่สบายเล่นเกมต่อเนื่องได้นานหลายชั่วโมง บวกกับอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานในหูฟังแต่ละรุ่น อีกทั้งยังรองรับการชาร์จเร็วเพื่ออรรถรสในการเล่นเกมต่อเนื่อง

Sony

ผลิตภัณฑ์หูฟังเกมมิ่งรุ่นแรกจากโซนี่ ภายใต้แบรนด์ INZONE ประกอบไปด้วย หูฟังเกมมิ่งแบบไร้สาย (Wireless Headsets) จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ INZONE H9 ที่มาพร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 32 ชั่วโมง และ INZONE H7 ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมตลอดทั้งวัน

ด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 40 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีหูฟังแบบมีสาย (Wired Headsets) อีก 1 รุ่น ได้แก่ INZONE H3 โดยหูฟังเกมมิ่งทั้งสามรุ่นนี้ได้รับการติดตั้งไมโครโฟนบูมคุณภาพสูงที่สามารถปรับรูปทรงให้อยู่ใกล้ปากของคุณมากยิ่งขึ้น 

ทำได้แน่ใจได้ว่าทุกคนจะได้ยินคุณอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชั่นปิดเสียงที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารกับสมาชิกในทีมขณะเล่นเกมได้อย่างง่ายดาย

การตรวจจับเป้าหมายที่แม่นยำ : ด้วยเทคโนโลยี 360 Spatial Sound สำหรับการเล่นเกมที่ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์อย่าง INZONE Hub สามารถแปลงสัญญาณเสียงสเตอริโอ 2ch ให้เป็นเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง 7.1ch ตามที่ผู้สร้างเกมต้องการ ให้ผู้เล่นได้ยินเสียงฝีเท้าและการเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ

พร้อมด้วยแอปพลิเคชั่น 360 Spatial Sound Personalizer ที่อยู่บนสมาร์ทโฟนยังช่วยให้ผู้ใช้ได้รับเสียงรอบทิศทางที่ได้รับการปรับให้เหมาะกับรูปทรงหูของผู้เล่น เพื่อการเล่นเกมที่เป็นส่วนตัวได้อย่างแท้จริง

เทคโนโลยีขั้นสูงในการปรับเสียงให้เหมาะสม : ไดอะแฟรมที่อยู่ในหูฟังรุ่น INZONE H9 และ INZONE H7 ได้รับการพัฒนาจากความเชี่ยวชาญของ โซนี่ในด้านการนำเทคโนโลยีหูฟังสำหรับฟังเพลงที่มีรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ที่ให้เสียงความถี่สูงเป็นพิเศษ ตลอดจนเสียงความถี่ต่ำ

เพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริง ยิ่งไปกว่านั้นท่อในตัวลำโพงที่อยู่ใน INZONE H9, INZONE H7 และ INZONE H3 จะทำหน้าที่ควบคุมและปรับการสร้างเสียงความถี่ต่ำให้เหมาะสมกับเสียงเบสอันทรงพลังที่ทำให้เกิดเสียงทุ้มได้อย่างน่าอัศจรรย์

เล่นเกมนานหลายชั่วโมงได้อย่างสบาย : หูฟัง INZONE ทั้ง 3 รุ่น ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อให้คุณสวมใส่สบายเป็นพิเศษ ด้วยบุรองสายคาดศีรษะที่กว้าง และนุ่มช่วยกระจายน้ำหนักให้ทั่วศีรษะของผู้เล่น และเอียร์แพดแบบหนังนุ่มยังออกแบบมาให้รู้สึกกระชับ

และมั่นคงขณะสวมใส่ พร้อมลดแรงกดทับบริเวณด้านข้างให้น้อยที่สุด เพื่อความสะดวกสบายในการสวมใส่ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี

การตัดเสียงรบกวน และโหมดเสียงรอบข้าง : ด้วยเทคโนโลยี Dual Noise Sensor ที่ใช้ในหูฟังซีรี่ส์ 1000X  และอยู่ในหูฟัง INZONE H9 มาพร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนหลายตัวจะมอบประสิทธิภาพการทำงานในการตัดเสียงรบกวนได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อให้คุณโฟกัสกับเกมที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยที่เสียงของเครื่องทำความร้อน พัดลม คอมพิวเตอร์ ไปจนถึงเสียงก่อสร้างจะไม่สร้างความรำคาญให้กับคุณแต่อย่างใด ในขณะเดียวกันคุณก็จะไม่พลาดกับทุกเสียงรอบข้างด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เสียงโทรศัพท์ เสียงกริ่งประตู หรือแม้กระทั่งเสียงคู่สนทนาที่พูดขณะเล่น เป็นต้น

Sony

การทำงานร่วมกันเพื่อการเล่นเกมที่ดีขึ้น

Perfect forPlayStation®5 : ชุดหูฟัง INZONE H9 และ INZONE H7 ยังให้คุณปรับการตั้งค่าบนชุดหูฟังและดูการตั้งค่าบนหน้าจอใน PlayStation®5 Control Center ได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งผู้เล่นยังสามารถปรับเปลี่ยนความสมดุลระหว่างเสียงของเกม และการแชทด้วยเสียงจากชุดหูฟังได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกระดับการเล่นเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังให้คุณเพลิดเพลินไปกับเสียงที่สมจริงจาก Tempest 3D AudioTech ของ PlayStation®5 เมื่อเล่นเกมด้วยการถ่ายทอดเชิงพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

Sony

ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ INZONE Hubปรับแต่งการเล่นเกมของคุณ ด้วยซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ INZONE Hub ของโซนี่ ได้รับการออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้ในการการควบคุมชุดหูฟัง INZONE ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งการใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงการตั้งค่าเสียงและภาพ เพื่อความชัดเจนและสมจริงมากยิ่งขึ้น

นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม : โซนี่ยังคงให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมโดยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์โซนี่ให้ปลอดพลาสติก และใช้วัสดุรีไซเคิล ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโซนี่เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ และแนวปฏิบัติ อย่างยั่งยืน

Sony

จุดเด่นของชุดหูฟังเกมมิ่งแบบไร้สาย ภายใต้แบรนด์ INZONE

INZONE H9 : เป็นชุดหูฟังไร้สายแบบตัดเสียงรบกวนสำหรับเกมเมอร์ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 360 Spatial Sound สำหรับการเล่นเกม รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงในการปรับแต่งเสียงให้เหมาะสม จะช่วยให้คุณได้ยินเสียงที่ละเอียดที่สุด เพื่อการตรวจจับตำแหน่งของคู่ต่อสู้ได้อย่างแม่นยำ

ทั้งยังได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อให้คุณสวมใส่ได้อย่างสบายในขณะเล่นเกม ใส่เล่นเกมได้ยาวหลายชั่วโมง ด้วยบุรองสายคาดศีรษะที่กว้างและเอียร์แพดที่นุ่มสบาย รองรับระบบตัดเสียงรบกวน และโหมดเสียงรอบข้าง นอกจากนี้ยังให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมได้ตลอดทั้งวันด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 32 ชั่วโมง

จากการชาร์จเพียงครั้งเดียว ในขณะเดียวกันยังรองรับ Quick Charge ที่ให้คุณเล่นเกมได้นานต่อเนื่องได้นานถึง 1 ชั่วโมง เมื่อชาร์จไฟเพียง 10 นาทีเท่านั้น ผ่านการชาร์จด้วย USB จำหน่ายราคา 9,990 บาท

Sony

INZONE H7 : เป็นชุดหูฟังไร้สายสำหรับเล่นเกม ที่มาพร้อมเทคโนโลยี 360 Spatial Soundสำหรับการเล่นเกม รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงในการปรับแต่งเสียงให้เหมาะสม จะช่วยให้คุณตรวจจับคู่ต่อสู้ได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อให้คุณสวมใส่ได้อย่างสบายในขณะเล่นเกม ด้วยบุรองสายคาดศีรษะที่กว้าง

และเอียร์แพดที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังให้คุณเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมได้ตลอดทั้งวันด้วยอายุการใช้งานแบตเตอรี่ 40 ชั่วโมง6จากการชาร์จเพียงครั้งเดียว 

ในขณะเดียวกันยังรองรับ Quick Charge ที่ให้คุณเล่นเกมได้นานต่อเนื่องได้นานถึง 1 ชั่วโมง เมื่อชาร์จไฟเพียง 10 นาทีเท่านั้น ผ่านการชาร์จด้วย USB วางจำหน่ายราคา 7,990 บาท

INZONE H3 : เป็นชุดหูฟังสำหรับเล่นเกมแบบมีสาย ที่มาพร้อม 360 Spatial Soundสำหรับการเล่นเกม รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงในการปรับแต่งเสียงให้เหมาะสม จะช่วยให้คุณตรวจจับคู่ต่อสู้ได้อย่างแม่นยำ

ทั้งยังได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์  เพื่อให้คุณสวมใส่ได้อย่างสบายในขณะเล่นเกม ด้วยบุรองสายคาดศีรษะที่กว้าง และเอียร์แพดที่นุ่มสบาย วางจำหน่ายราคา 3,990 บาท

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th