ไปรษณีย์ไทย (Thailand Post) ขานรับนโยบาย Quick Win ภาครัฐ อัดแคมเปญลดค่าขนส่ง หนุนเกษตรกร และผู้ประกอบการ ดันสินค้าชุมชนสู่ตลาดโลก…
highlight
- ไปรษณีย์ไทย ดินหน้าขับเคลื่อนมาตรการเชิ
งรุก ขานรับนโยบายของรั ฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดภาระค่าครองชีพ และเพิ่มรายได้ให้ประชาชน หรือ Quick Win โดยเฉพาะ การสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกร และ SME ให้เข้าถึงโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ด้วยการใช้ศักยภาพด้านการขนส่ งและโลจิสติกส์ของไปรษณีย์ไทย ที่มีเครือข่ายครอบคลุ มรวมมากกว่า 50,000 จุดทั่วประเทศ และต่างประเทศครอบคลุมกว่า 193 ประเทศ 205 ปลายทางเมืองสำคัญ รวมถึงโอกาส ในการกระจายสินค้ าคอมเมิร์ซที่ยังคงเป็นเทรนด์ การค้าสำคัญ
Thailand Post ขานรับนโยบาย Quick Win ภาครัฐ อัดแคมเปญส่วนลดเร่งดันสินค้าชุมชนสู่ตลาดโลก

ดร. ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) พร้อมขานรับนโยบายของรัฐบาลที่ได้ แถลงมาตรการเร่งด่วน (Quick Win) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี 2568
โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนภาคธุรกิจ รายย่อย เกษตรกร และผู้ประกอบการท้องถิ่นให้สามารถแข่งขันได้ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งภาคการขนส่ง และโลจิสติกส์ถือเป็นกลไกสำคัญในการช่วยลดต้นทุนขยาย ช่องทางตลาด และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว ไปรษณีย์ไทย จึงเตรียมดำเนินมาตรการระยะเร่งด่วน ด้วยการปรับบริการและโครงสร้างราคาที่เอื้อต่อประชาชน และผู้ประกอบการทุกระดับ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก และฟื้นภาคการส่งออกของไทยอย่างเป็นรูปธรรม ดังนี้
ลดค่าขนส่งทั่วประเทศ : ไปรษณีย์ไทย ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ และลูกค้าธุรกิจ ด้วย “โปรลับ EMS ส่งด่วน” ที่มอบอัตราค่าบริการพิเศษเฉพาะกลุ่ม เพื่อช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการส่งสินค้า
ให้สอดคล้องกับลักษณะธุรกิจของแต่ละราย โดยผู้ประกอบการสามารถออกแบบรูปแบบบริการได้ตามความต้องการ เช่น ความถี่ในการส่ง ปริมาณพัสดุ หรือพื้นที่จัดส่ง พร้อมระบบบริหารต้นทุนแบบคงที่ในระยะยาว
สนับสนุนมาตรการเฉพาะด้านของหน่วยงานภาครัฐ : โดยมีความร่วมมือกับ สภาเกษตรกรแห่งชาติ จัดโปรโมชัน EMS ส่งด่วนผลไม้ ส่ง 3 กก. ราคาเพียง 45 บาท เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง ของเกษตรกร พร้อมด้วยความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ที่ออกโปรโมชัน EMS ส่งด่วนผลไม้ ส่ง 3 กก. ราคา 48 บาท และยังมีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่สนับสนุนกล่องผลไม้ และตะกร้า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และลดต้นทุนบรรจุภัณฑ์ของเกษตรกรพร้อมสนับสนุนเชิงระบบ
และความร่วมมือแบบบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เกษตรกรมั่นใจได้ว่าจะยังสามารถส่งออกผลผลิตเข้าสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปีนี้
หนุนสินค้าชุมชนขึ้นแพลตฟอร์มออนไลน์ : ไปรษณีย์ไทย เร่งส่งเสริมให้สินค้า OTOP และ สินค้าชุมชนไทยเข้าสู่แพลตฟอร์ม ThailandPostMart เพื่อเปิดช่องทางจำหน่ายจากท้องถิ่นสู่ตลาดออนไลน์ พร้อมทั้งขยายตลาดไปสู่ผู้บริโภค 23 ประเทศทั่วโลกให้เข้าถึงสินค้าคุณภาพตัวท็อปได้โดยตรงจากผู้ผลิต
ทั้งยังเป็นช่องทางที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นและธุรกิจ SME ให้เติบโตไปพร้อมกับโลกยุคดิจิทัล โดยยกระดับมาตรฐาน การคัดเลือกสินค้าให้มีคุณภาพ บริหารระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจรตั้งแต่การรับเข้า จัดเก็บ แพ็กจิ้ง ขนส่งที่รวดเร็ว และปลอดภัย
รวมถึงระบบติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทั้งผู้ขาย และผู้บริโภคว่าสินค้าจะถูกส่งถึงมืออย่างสมบูรณ์แบบ และมีคุณภาพในทุกคำสั่งซื้อ
ขยายตลาดสินค้าสู่ต่างประเทศ : ใช้เครือข่ายครอบคลุมกว่า 193 ประเทศ 205 ปลายทางในการส่งออกสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์ SME และสินค้านวัตกรรม พร้อมให้บริการแบบ End-to-End ตั้งแต่ให้คำปรึกษาการส่งออก จัดทำเอกสารศุลกากร การจัดเก็บ และแพ็กกิ้งตามมาตรฐานสากล
ไปจนถึงการเลือก บริการขนส่งที่เหมาะสม เช่น EMS World, ePacket และบริการโลจิสติกส์เฉพาะทางตามประเภทสินค้า พร้อมบริการหลังการขายเพื่อสร้างความมั่นใจตลอดเส้นทาง
ในขณะเดียวกันไปรษณีย์ไทยยังได้จัดโปรโมชัน “Courier Saver” สำหรับการส่งต่างประเทศ ลดราคาสูงสุดถึง 34% สำหรับปลายทางสหรัฐอเมริกา เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ด้วยต้นทุนที่เข้าถึงได้มากขึ้น
“ไปรษณีย์ไทย เดินหน้ามาตรการครั้งนี้ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน คือการช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งให้กับผู้ประกอบการทุกกลุ่ม พร้อมสร้างเครือข่ายการตลาดที่เข้มแข็งขึ้น ทั้งในมิติภายในประเทศ และการเชื่อมต่อสู่ต่างประเทศ การขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมนี้จะมีส่วนสำคัญในการเสริมสภาพคล่อง
และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในทุกระดับจากศักยภาพเครือข่ายของ ไปรษณีย์ไทย ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่มีโครงสร้างบริการที่ปรับให้เข้ากับความต้องการของภาคธุรกิจ
และความพร้อมในการเชื่อมโยงสินค้าสู่ตลาดโลกอันเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนต่อทั้งประเทศ” ดร. ดนันท์ กล่าว
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th