Thailand Post เผยมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวด้วยบริการ D/ID ที่ปลอดภัย และง่ายขึ้น

Thailand Post

ไปรษณีย์ไทย (Thailand Post) เผยมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวด้วยบริการ “ดี-ไอ-ดี” (D/ID) ปลอดภัย-ง่ายขึ้น ในปี 2025…

Thailand Post เผยมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวด้วยบริการ D/ID ที่ปลอดภัย และง่ายขึ้น เพื่อประชาชน และผู้ประกอบการ

ในวันที่โลกเดินทางมาถึงยุคไซเบอร์อย่างรวดเร็ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าความล้ำสมัยของเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการติดต่อสื่อสาร การขนส่ง-โลจิสติกส์ การศึกษา ความก้าวหน้าทางการแพทย์ ตลอดจนถึงการดำเนินธุรกรรมออนไลน์

โดยเฉพาะประเด็นหลังที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของใครหลาย ๆ คน และด้วยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องของธุรกรรมออนไลน์ ทำให้ข้อมูลสำคัญเข้าไปอยู่บนระบบต่าง ๆ ตามไปด้วย เนื่องจากจำเป็นจะต้องกรอกทั้งข้อมูลส่วนบุคคล/ ที่อยู่ เพื่อให้สะดวกต่อการดำเนินเรื่องต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ

แต่ก็นำมาซึ่งเรื่องที่น่ากังวลเกี่ยวกับการเกิดปัญหาการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่คาดคิด และอาจนำมาสู่การเกิดภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต หรืออาชญากรรมไซเบอร์ในท้ายที่สุด

Thailand Post

จากแนวโน้มของภัยไซเบอร์ และการตั้งคำถามด้านความปลอดภัยจากหลายภาคส่วน ทำให้ทั้งภาครัฐ และเอกชนได้ตระหนักถึงการสร้างเกราะคุ้มภัยเตรียมพร้อมรับมือ และป้องกันในทุกมิติ เช่นเดียวกันกับ “ไปรษณีย์ไทย” หน่วยงานสื่อสาร และขนส่งของชาติ ภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ที่ให้ความสำคัญในการยกระดับความปลอดภัย การคุ้มครองข้อมูลความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการ และประชาชน โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ/ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ e-Commerce Platform และได้ผลักดันให้เป็นวาระระดับชาติ เรียกได้ว่านับเป็นอีกเทรนด์ที่ทุกองค์ก ให้ความสำคัญกันอย่างเข้มข้นในปี 2025 นี้

Thailand Post

D/ID เกราะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตลอดเส้นทางขนส่งของไปรษณีย์ไทย สะดวกปลอดภัยข้อมูลไม่รั่วไหล

ปกติในการส่งพัสดุหรือจดหมาย สิ่งที่ต้องทำคือเขียนหรือพิมพ์ข้อมูล ซึ่งประกอบไปด้วยชื่อ-ที่อยู่ ผู้รับ และผู้ส่ง เบอร์โทรศัพท์ รหัสไปรษณีย์ แต่ในอนาคตที่กำลังจะก้าวสู่สังคม และเศรษฐกิจดิจิทัลข้อมูลเหล่านี้จะไม่ต้องถูกกรอกแบบเดิมอีกต่อไป เพราะไปรษณีย์ไทยได้พัฒนา “ดีไอดี” (Digital Post ID หรือ D/ID)   

ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ในการจ่าหน้าแบบใช้รหัสให้เป็นรูปแบบดิจิทัล ช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างการจัดส่งสิ่งของ โดยข้อมูลที่อยู่ผู้ส่ง-ผู้รับจะถูกแปลงเป็นรหัส 6 หลัก (ตัวอักษรภาษาอังกฤษผสมกับตัวเลข) เพื่อบอกตำแหน่งพิกัดที่อยู่

Thailand Post

ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเขียนรหัส 6 หลัก นี้บนหน้ากล่องพัสดุ หรือแจ้งรหัส 6 หลักกับเจ้าหน้าที่ ณ ที่ทำการฯ เพื่อแปลงเป็น QR code แปะลงบนหน้ากล่องพัสดุได้เช่นกัน โดยหลักการทำงานของบริการ D/ID นั้นต่อยอดมาจากการใช้รหัสไปรษณีย์ 5 หลัก

และจะเป็นเป็นส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับการส่งเอกสารและพัสดุ โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกแปลงเป็นพิกัดที่ตั้งบนพื้นผิวโลก และใช้หลักการทำงานเดียวกันกับระบบการหาตำแหน่งทั่วโลก (Global Positioning System : GPS) ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยในการเซตระบบการขนส่งพัสดุ-ไปรษณียภัณฑ์ที่ล้ำสมัยอย่างมาก

Thailand Post

เพราะ QR code นี้จะมาช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลในระหว่างการจัดส่งสิ่งของ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัย นอกจากนี้ QR code ดังกล่าวจะสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียว และมีเพียงผู้รับ และเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไทยเท่านั้นที่สามารถสแกน QR Code

เพื่อเข้าถึงข้อมูลจ่าหน้าที่มีข้อมูลที่อยู่ผู้รับ และผู้ส่งได้ จึงคลายข้อกังวลหากบุคคลอื่น หรือมิจฉาชีพมาสแกนขโมยข้อมูล และ D/ID ยังสามารถบ่งชี้พิกัดในแนวดิ่งทำให้สามารถระบุที่อยู่ของผู้ใช้บริการที่อาศัยในอาคารสูง ซึ่งปัจจุบันสามารถระบุได้เพียงพิกัดของสถานที่ในแนวราบเท่านั้น

Thailand Post

สำหรับในปี 2568 บริการ D/ID จะถูกเริ่มนำมาเป็นทางเลือกในการขนส่งในช่องทางของ ไปรษณีย์ไทย แต่ยังไม่ได้เข้ามาแทนที่การจ่าหน้ารูปแบบเดิมที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันทั้งหมด จึงเชื่อมั่นได้ว่า บริการ D/ID จะเป็นตัวกระตุ้นให้สตาร์ทอัพ นักพัฒนาเทคโนโลยีเกิดความสนใจที่จะสร้างโซลูชันที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลง

และความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว พร้อมปูพรมให้คนทั่วไปหันมาให้ความสำคัญ กับการป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล-การรั่วไหลของข้อมูล ซึ่งนับเป็นความเสี่ยง และความท้าทายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยในขณะนี้

Thailand Post

“ไปรษณีย์ไทยเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่นเดียวกัน กับองค์กรชั้นนำของไทยและของโลก โดยการพัฒนาโซลูชัน D/ID สอดรับกับเป้าหมาย ESG ในมิติของ Governance ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลอย่างมีธรรมาภิบาล และยังเป็นอีกหนึ่งพลังขับเคลื่อนที่ช่วย ติดความพร้อมในการก้าวสู่การเป็น “Information Logistics” อย่างเต็มขั้น”

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay