หัวเว่ย (Huawei) จับมือ จุฬาฯ (Chulalongkorn University) ยกระดับความร่วมมือด้าน 5.5 G และพัฒนาบุคลากรรองรับคลาวด์ (Cloud)…
Huawei จับมือ Chulalongkorn ยกระดับความร่วมมือด้าน 5.5 G และบุคลากร Cloud
ในงาน Asia-Pacific ICT Summit -Thailand หัวเว่ย ประเทศไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกันประกาศขยายความร่วมมือโดยเน้นด้านนวัตกรรม 5.5G และพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถเพื่อรองรับเทคโนโลยีคลาวด์ ภายใต้โครงการ Ignite Cloud Talent Program โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างการร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และตอบสนองเป้าหมายของประเทศไทยที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่สังคมดิจิทัลในขอบเขตที่กว้างกว่าเดิม
การร่วมมือดังกล่าวนี้ เป็นกลยุทธ์ในการนำพาประเทศไทยไปสู่การเป็นแถวหน้าในด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของโลก จากการที่โลกได้ก้าวสู่การเป็นยุคแห่งดิจิทัล เทคโนโลยี 5.5G และคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) นับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ นวัตกรรม และความสามารถในการแข่งขัน
การร่วมมือระหว่าง หัวเว่ย และจุฬาฯ จะช่วยนำจุดแข็งของทั้งสองฝ่าย คือการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และมีประสบการณ์ระดับโลกของหัวเว่ย ผสานกับการเป็นเลิศด้านวิชาการ และความสามารถทางการวิจัยของจุฬาฯ มาช่วยยกระดับ และสนับสนุนความต้องการของประเทศไทย
ในการที่จะก้าวไปสู่การเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจดิจิทัลในระดับภูมิภาค ด้วยการส่งเสริมนวัตกรรมในจุดหลัก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างระบบนิเวศที่เอื้ออำนวยต่อการเสริมสร้างทรัพยากรบุคคลที่มีความสามารถ และการกระตุ้นให้เกิดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ล้วนส่งผลให้เกิดสังคมที่มีความเป็นอัจฉริยะ และเป็นแนวทางดิจิทัลมากขึ้น

รองศาสตราจารย์ ดร. วิทยา วัณณสุโภประสิทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ความร่วมมือกับหัวเว่ย นับเป็นขั้นตอนสำคัญในภารกิจที่จะทำให้ประเทศไทยมีความก้าวหน้าด้าน Technology Landscape
ความร่วมมือนี้ไม่ใช่เพียง เพื่อเท่าทันการพัฒนาด้านเทคโนโลยีล่าสุดเท่านั้น แต่เป็นการมุ่งมั่นสร้างอนาคตของประเทศไทยในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ด้วยการนำความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่ายมารวมกัน เราได้เสริมสร้างนวัตกรรมทางด้าน 5.5G และเทคโนโลยีคลาวด์
อีกทั้งยังส่งเสริมคนรุ่นถัดไปให้มีความสามารถด้านคลาวด์ พร้อมที่จะขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวไปสู่โลกดิจิทัลในอนาคต จุฬาฯ มีความตื่นเต้นที่จะได้เห็นความร่วมมือนี้เปิดกว้างสำหรับทั้งนิสิตของเรา และอุตสาหกรรมโดยรวม การร่วมมือนี้ได้เน้นสองส่วน คือ นวัตกรรมด้าน 5.5G และการพัฒนาผู้มีความสามารถด้านคลาวด์
โดยในด้าน 5.5G ความร่วมมือจะเน้นศึกษาศักยภาพในการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีแห่งอนาคตเพื่อปฏิวัติเครือข่ายการสื่อสารของประเทศไทย โดยให้บริการที่เชื่อมต่อฉับไว และเชื่อมั่นได้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นพื้นฐานหลักของเศรษฐกิจดิจิทัล

ในส่วนของโครงการ Ignite Cloud Talent Program จะครอบคลุมถึงการพัฒนาร่วมกันด้านเนื้อหาการเรียนการสอนด้านคลาวด์ การแข่งขันผู้พัฒนาคลาวด์ และการส่งเสริมศูนย์กลางนวัตกรรมเพื่อให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพ โดยศูนย์ฯ นี้จะเป็นแพลท์ฟอร์มสำคัญที่จะเสริมสร้างนวัตกรรมของประเทศ และความเป็นผู้ประกอบการ
ผนวกกับทีมคนไทยที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคตและทักษะความรู้ที่ต้องมี เพื่อนำพาประเทศไทยให้มีความพร้อมที่จะก้าวหน้ารุ่งเรืองในโลกที่มุ่งไปสู่การเป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดย หัวเว่ย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นับเป็นความร่วมมือแรก ๆ ที่ประสานด้านวิชาการเข้ากับด้านธุรกิจ และดำเนินต่อมาอย่างแน่นแฟ้นร่วมทศวรรษ
โดยได้มีผลงานความสำเร็จมากมายไม่ว่าจะเป็นในด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่าย เทคโนโลยีคลาวด์ และโซลูชั่นด้านพลังงานสีเขียว ช่วยขับเคลื่อนให้ไทยมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นที่ประจักษ์ ทั้งนี้ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่าย ยังได้กระชับความสัมพันธ์โดยร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ด้านการเปลี่ยนผ่าน และพัฒนาผู้มีความสามารถด้านดิจิทัลเพิ่มเติมอีกด้วย
การริเริ่มโครงการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานตามข้อตกลงดังกล่าว ที่มีวิสัยทัศน์ร่วมในการที่จะกระตุ้นให้เกิดการเร่งตัวทางการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมดิจิทัล และตอกย้ำจุดยืนของการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th