Meta ชูโซลูชัน AI สำหรับธุรกิจ เสริมพลังเศรษฐกิจดิจิทัลดันซอฟต์พาวเวอร์ไทย

Meta

เมตา (Meta) ชูโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ช่วยพลิกโฉมการทำธุรกิจ และสร้างการเติบโตพร้อมยกระดับพลังเศรษฐกิจไทยบนเวทีโลก…

Meta ชูโซลูชัน AI สำหรับธุรกิจ เสริมพลังเศรษฐกิจดิจิทัลดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยบนเวทีโลก

งาน Meta Marketing Summit ประจำปี เมตา (Meta) นำเสนอนวัตกรรมด้านการตลาดล่าสุดสำหรับธุรกิจไทย ผู้ประกอบการ และนักการตลาด พร้อมเสริมพลังให้กับธุรกิจไทยด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย เอไอ (AI) ที่จะเข้ามาพลิกโฉมการทำธุรกิจ และสร้างการเติบโตพร้อมยกระดับพลังเศรษฐกิจไทยบนเวทีโลก

ลงทุนเพื่ออนาคต : ประสิทธิภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI กับ Advantage

การลงทุนด้าน เอไอ ของ เมตา กำลังปฏิวัติวิธีการที่ธุรกิจเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานประจำวันกว่า 3.27 พันล้านคนบนแพลตฟอร์มปัจจุบัน เมตา ลงทุนไปแล้ว 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน เอไอ ทั่วทั้งบริษัท โดย 81% ของการลงทุนนี้ได้ถูกนำไปใช้ในการปรับปรุงแอปพลิเคชันหลัก ซึ่งรวมถึง Facebook, Instagram และ Messenger ตลอดจนบริการอื่น ๆ สำหรับผู้ใช้งาน ครีเอเตอร์ และธุรกิจต่าง ๆ

ในงานประจำปีด้านการตลาดของ เมตา ได้โชว์เคสชุดโซลูชัน เอไอ ล่าสุด สำหรับภาคธุรกิจ นำโดย เมตา Advantage+ ชุดเครื่องมือด้านการตลาดที่ครอบคลุม ออกแบบมาเพื่อเสริมพลังให้กับธุรกิจทุกขนาด ด้วยโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย เอไอ ที่ปรับแต่งเฉพาะ

เช่น Advantage+ Shopping Campaigns หรือ Advantage Apps+ Campaigns บริการนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาพร้อมทั้งสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนด้านโฆษณา (ROAS) ที่สูงขึ้น โดยนำระบบ เอไอ เข้ามาใช้ตั้งแต่การระบุกลุ่มเป้าหมาย

ไปจนถึงการปรับปรุงกระบวนการเชิงกลยุทธ์ การวางตำแหน่งโฆษณา และการทำความเข้าใจเส้นทางของผู้บริโภค ซึ่ง Advantage ช่วยเสริมพลังให้กับธุรกิจด้วยการปรับปรุงที่วัดผลได้ ประสิทธิภาพจากการใช้งาน Advantage+ สร้างผลลัพธ์ที่โดดเด่นให้กับธุรกิจ : Advantage+ Shopping Campaigns

ช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการใช้จ่ายด้านโฆษณา (ROAS) ถึง 32% และสำหรับโซลูชัน Advantage+ app campaigns ผลศึกษาชี้ว่าช่วยลดต้นทุนต่อการดำเนินการ (cost per action) ลงกว่า 9%

นอกจากนั้น ยังพบว่าทุก ๆ 1 ดอลลาร์ ที่ใช้จ่ายใน Advantage+ Shopping Campaigns สามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 4.52 ดอลลาร์สหรัฐ กลับคืนมาให้กับธุรกิจ หรือคิดเป็นสัดส่วนของ ROAS ที่เพิ่มขึ้นกว่า 22% ในช่วงปีที่ผ่านมา

Generative AI : ยุคใหม่แห่งความคิดสร้างสรรค์ในการโฆษณา

การสร้างชิ้นงานโฆษณา (creative) นับเป็นกลยุทธ์สำคัญยิ่ง ในการดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและมีส่วนในการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้เป็นผู้ซื้อ (conversion) เมตา ได้เปิดตัวการอัปเดตที่น่าสนใจหลายอย่างสำหรับชุดบริการและเครื่องมือ Advantage+ Creative ซึ่งรวมถึง เมตา เจน เอไอ (Meta Gen AI)

ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการเวลา ทรัพยากร และประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยเครื่องมือ เมตา เจน เอไอ นักสร้างสรรค์สามารถออกแบบเนื้อหาโฆษณาที่หลากหลายได้อย่างง่ายดายและสร้างรูปแบบโฆษณาที่แตกต่างกันให้เหมาะสมกับความชอบของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด 

เมตา เจน เอไอประโยชน์ที่ธุรกิจไทยจะได้รับ
  • การสร้างภาพแบบเต็มรูปแบบ (Full image generation) ที่ผู้ใช้สามารถอัปโหลดผลงานต้นฉบับของตนเอง และ เอไอ จะช่วยสร้างภาพที่หลากหลายในรูปแบบต่างๆ เช่น การเปลี่ยนพื้นหลังหรือการแสดงมุมมองใหม่ๆ
  • การสร้างข้อความ (Text generation) ที่ผู้ใช้สามารถสร้างตัวเลือกหัวข้อเรื่องและข้อความหลักได้ในทันที
  • การขยายภาพ (Image expansion) ที่ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพที่มีขนาดใดก็ได้ และ AI จะช่วยขยายภาพให้พอดีกับรูปแบบแนวตั้ง เช่น 9:16 ซึ่งเหมาะสําหรับ Stories และ Reels บนอุปกรณ์มือถือ
Meta
แพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย

แพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยรูปแบบกระบวนการสร้างสรรค์แบบอัตโนมัติ และเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ธุรกิจสามารถสร้างเนื้อหาคอนเทนต์ที่หลากหลายได้ง่ายขึ้น ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และเพิ่มอัตราการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้เป็นผู้ซื้อ

จึงช่วยประหยัดเวลา และทรัพยากร ทำให้ เมตา เป็นโซลูชันที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือสร้างสรรค์อันทรงพลัง และโซลูชันที่สร้างผลลัพธ์ได้จริง

Meta
แพร ดํารงค์มงคลกุล Country Director ประจำ Facebook ประเทศไทย

เครื่องมือ และนวัตกรรมเพื่อการค้นพบ (discovery engine) ที่ขับเคลื่อนด้วย เอไอ ของเราได้พลิกโฉมวิธีที่ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และสร้างผลลัพธ์ที่แท้จริง เครื่องมือด้าน เอไอ ของ เมตา ตั้งแต่แชทบอท เอไอ ที่สามารถฝึกฝนได้สำหรับการส่งข้อความทางธุรกิจ

ไปจนถึงผู้ช่วยเสมือนฟรีที่สามารถถามคำถามเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงเทคโนโลยีที่ให้บริการผ่านชุดเครื่องมือ Advantage+ ของเรา มุ่งสร้างการเชื่อมต่อเชิงลึก และมีความหมายมากขึ้นผ่านการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมแพร กล่าว

Meta Llama 3.1 : ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ และเศรษฐกิจซอฟต์พาวเวอร์ของไทย

Meta Llama 3.1 (ลาม่า) เวอร์ชันล่าสุดของ เอไอ แบบโอเพ่นซอร์สของ เมตา มีทิศทางที่จะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากโมเดลประมวลผลด้วยภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) ล่าสุดเพิ่มการรองรับภาษาไทย มอบความยืดหยุ่น การควบคุม และความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้ให้กับนักพัฒนาในประเทศไทย

Meta
ดร. ราฟาเอล แฟรงเคิล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ เมตาประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ดร. ราฟาเอล แฟรงเคิล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ เมตาประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงแผนการของ เมตา สำหรับ Llama 3.1 ในประเทศไทยว่า Llama 3.1 เวอร์ชันล่าสุดของเรากำลังยกระดับมาตรฐานใหม่สำหรับโมเดล เอไอ ที่เปิดให้ใช้งานได้อย่างอิสระ

ซึ่งทั้งหมดนี้รองรับภาษาไทยแล้ว การเปิดให้โมเดลของเราเป็นโอเพ่นซอร์สทำให้นักพัฒนาทั่วทุกมุมโลก รวมถึงในประเทศไทย สามารถพัฒนานวัตกรรม และแอปพลิเคชันได้อีกมากมาย ซึ่งพิสูจน์ได้จากตั้งแต่การเปิดตัว Llama รุ่นแรกเมื่อปีที่แล้ว มียอดดาวน์โหลดกว่า 300 ล้านครั้ง

และมีโมเดลถูกพัฒนาต่อยอดมากว่า 20,000 โมเดล เราเชื่อว่า เอไอ มีศักยภาพมากกว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่อื่นๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพ และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ รวมถึงเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ช่วยปลดล็อกความก้าวหน้าสำหรับธุรกิจ และชุมชนทั่วโลก และในประเทศไทย

Meta

พื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกของ เมตา ลาม่า (Meta Llama) ให้มากยิ่งขึ้น เมตา ได้จัดแคมเปญ และโครงการต่างๆ ทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ ซึ่งออกแบบมา เพื่อสนับสนุนนักพัฒนา และชุมชนผู้ใช้ Llama ประกอบด้วยโครงการให้ความรู้ด้าน เอไอ สำหรับธุรกิจท้องถิ่น

เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เอไอ ในการเพิ่มประสิทธิภาพและขยายธุรกิจ, เงินทุนสนับสนุนเพื่อสร้างประโยชน์สู่สังคม มูลค่าสูงสุด 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, การแข่งขันสำหรับนักพัฒนา Llama ในระดับประเทศและระดับภูมิภาค

โดยผู้เข้าร่วมมีโอกาสชิงเงินทุนสนับสนุนพิเศษมูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำโครงการที่ใช้ เอไอ เพื่อสังคมไปสู่การใช้งานจริง

ความร่วมมือในประเทศไทยของ เมตา : ผลักดันการท่องเที่ยว และการค้าข้ามพรมแดน

นอกเหนือจากการนำเสนอโซลูชัน เอไอ ที่ล้ำสมัยแล้ว เมตา ยังมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการสนับสนุนวาระแห่งชาติของไทยเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจซอฟต์พาวเวอร์ (Economic Soft Power) ของประเทศ ด้วยเหตุนี้ เมตา จึงได้จับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)

เพื่อเสริมพลังให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวด้วยความรู้ และเครื่องมือที่จำเป็นต่อการเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของการทำความเข้าใจเส้นทางความสนใจของผู้บริโภค นอกจากนี้ เมตา ยังประกาศเปิดตัว “คู่มือการท่องเที่ยว” (Travel Playbook) ฉบับสมบูรณ์ ซึ่งจะมอบข้อมูลเชิงลึก และกลยุทธ์ที่ธุรกิจการท่องเที่ยวสามารถ

นำไปปฏิบัติได้จริงในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถดาวน์โหลดคู่มือท่องเที่ยวได้จากช่องบรอดแคสสำหรับธุรกิจ “Meta Thailand for Business” ของเพจ เมตา ไทยแลนด์ ที่ https://m.me/j/Abb33bI6aY9FYiBx/ หรือผ่านทางเพจพันธมิตรได้ ที่นี่ 

Meta
ดร. ราฟาเอล แฟรงเคิล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ เมตาประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกเหนือจากความร่วมมือในภาคการท่องเที่ยวแล้ว เมตา ยังร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ของไทยในการปลดล็อกการค้าข้ามพรมแดนให้กับธุรกิจไทย ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการเจาะตลาดใหม่ ๆ และสร้างการเติบโตได้มากกว่าการดำเนินธุรกิจเฉพาะในตลาดภายในประเทศถึง 2 เท่า

เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เมตา จะเปิดอบรมหลักสูตรการตลาดด้วย เอไอ สำหรับธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมในประเทศไทย เพื่อสอนแนวปฏิบัติเชิงกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตไปสู่ตลาดนอกประเทศ 

Meta

“ประเทศไทยเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ เรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนในการปลดล็อกโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการเติบโตผ่านเทคโนโลยี ด้วยการมอบเครื่องมือและข้อมูลเชิงลึกด้าน เอไอ ที่ล้ำสมัยให้กับธุรกิจไทย

เราไม่เพียงแต่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นกำลังสำคัญให้พวกเขาสามารถแบ่งปันวัฒนธรรม และผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ในระดับโลกอีกด้วย” ดร. ราฟาเอล กล่าว

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay