เอ็นทีที เดต้า (NTT DATA) เผยรายงาน NTT DATA Technology Foresight 2025 เจาะลึก 5 เทรนด์สำคัญของเทคโนโลยีพลิกเกมธุรกิจแห่งอนาคต…
NTT DATA เผย 5 เทรนด์สำคัญของเทคโนโลยีพลิกเกมธุรกิจแห่งอนาคต
ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเต็มไปด้วยความท้าทายทางสังคมที่ซับซ้อน การวางแผนกลยุทธ์ระยะยาวเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถรักษาความแข็งแกร่ง และความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก เอ็นทีที ดาต้า วิเคราะห์สภาพแวดล้อมทางธุรกิจปัจจุบัน
ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคง และได้พัฒนา เอ็นทีที ดาต้า เทคโนโลยี ฟอร์ไซท์ 2025 ขึ้นเพื่อเป็นเข็มทิศนำทางให้องค์กรต่าง ๆ นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยข้อมูลใหม่ ๆ
ใน เอ็นทีที ดาต้า เทคโนโลยี ฟอร์ไซท์ 2025 ยังคงอัดแน่นด้วยข้อมูลเชิงลึกเช่นเดียวกับปีก่อน ๆ และเสริมด้วยจุดเด่นใหม่เพื่อให้การวิเคราะห์แนวโน้มเทคโนโลยีครอบคลุม และแม่นยำยิ่งขึ้น โดยมุมมองอีก 2 ประการ ได้แก่
มุมมองระดับโลกที่กว้างขึ้น : ด้วยโครงสร้างองค์กรแบบ Global One Team ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รายงานฉบับนี้สามารถสะท้อนเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุดและมุมมองจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกได้มากกว่าที่เคย โดยนำลักษณะเฉพาะของแต่ละภูมิภาคมาประกอบการวิเคราะห์ ทำให้สามารถระบุแนวโน้มได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
ระบุเทรนด์สู่แนวทางปฏิบัติ : แทนที่จะนำเสนอเทรนด์เพียงอย่างเดียวเหมือนในรายงานฉบับก่อน ๆ รายงานฉบับปีนี้ได้เพิ่มข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติสำหรับการดำเนินงานตามเทรนด์ที่ระบุ ด้วยขั้นตอนที่ชัดเจน ให้องค์กรสามารถนำไปใช้จริงเพื่อเชื่อมโยงเทคโนโลยีกับผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5 เทรนด์ ที่บ่งชี้ทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่มีเทคโนโลยีเป็นจุดศูนย์กลาง
โดยผลการศึกษา เอ็นทีที ดาต้า เทคโนโลยี ฟอร์ไซท์ 2025 นี้จะชี้ให้เห็นถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่มีเทคโนโลยีเป็นจุดศูนย์กลาง โดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยี ธุรกิจ และสังคม รายงานแต่ละบทนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย และกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้อง
พร้อมแนะแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อให้องค์กรธุรกิจเตรียมความพร้อมสู่อนาคต โดยเน้นให้ภาคธุรกิจสามารถนำไปใช้ได้จริง โดยผ่าน 5 เทรนด์ ที่บ่งชี้ถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลง ได้แก่
มนุษย์เสริมศักยภาพ (Enhanced Humans) : จินตนาการถึงอนาคตที่ศักยภาพของคุณไม่ถูกจำกัดด้วยเวลา งาน หรือความรู้
เทรนด์ Enhanced-Humans กำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้โลกธุรกิจ ด้วยการนำ AI เข้ามาเสริมศักยภาพของมนุษย์ พนักงานสามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ และองค์กรสามารถปรับตัวได้รวดเร็วสอดรับกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ประสบการณ์สภาพแวดล้อมอัจฉริยะ (Ambient Intelligent Experiences) : ลองนึกถึงโลกที่ปลดล็อกประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการบริการที่ถูกปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคลในทุกช่องทางที่ลูกค้าสัมผัสกับแบรนด์หรือบริการ และเปลี่ยนทุกปฏิสัมพันธ์ให้เป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
เทรนด์ Ambient Intelligent Experiences กำลังพลิกโฉมวิธีที่ธุรกิจมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า และปรับปรุงกระบวนการทำงานขององค์กร โดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อสร้างการตอบสนองที่ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ และปรับแต่งตามลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคลในทุกแพลตฟอร์ม
องค์กรที่ออกแบบเทคโนโลยีโดยเน้นระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ และ ประสบการณ์ที่ผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความพึงพอใจ พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความยั่งยืนทางดิจิทัลเพื่อความยืดหยุ่น พร้อม ตอบสนอง และปรับตัวฉับไวทางเศรษฐกิจ (Digital Sustainability for Economic Resilience) : จินตนาการถึงความยืดหยุ่นและปรับตัวฉับไวที่ถูกกำหนดใหม่ด้วยเทคโนโลยี ซึ่งจะเชื่อมโยงผู้คน โลก และความมั่นคงทางเศรษฐกิจเข้าด้วยกัน
เทรนด์ Digital Sustainability for Economic Resilience ผสานแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แนวโน้มสำคัญนี้กำลังพลิกโฉมธุรกิจด้วยโซลูชันนวัตกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร
ยกระดับความโปร่งใส และส่งเสริมแนวปฏิบัติที่มีจริยธรรม ซึ่งองค์กรที่ผสานความยั่งยืนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลักจะสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ มีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อม และเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว
การผสานรวมของเทคโนโลยีเชิงปัญญากับระบบคลาวด์ (Cognitive Cloud Convergence) : ลองวาดภาพโลกที่เต็มไปด้วยโอกาสไร้ขีดจำกัด ณ จุดที่เทคโนโลยี และความคิดมาบรรจบกัน
การผสานรวม เทคโนโลยีเชิงปัญญา เข้ากับ โครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมหาศาล ประมวลผลด้วยความเร็วและความชาญฉลาดที่เหนือชั้น เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงแบบเรียลไทม์
การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ทำให้องค์กรสามารถปรับปรุงกรอบการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และเร่งกระบวนการที่สนับสนุนการสร้างนวัตกรรม โดยการรวมเทคโนโลยีเชิงปัญญากับระบบคลาวด์เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานผ่านการประมวลผลข้อมูลที่ดีขึ้น ระบบงานแบบอัตโนมัติ และการตัดสินใจที่ขับเคลื่อน
ด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) องค์กรที่ใช้การวิเคราะห์ขั้นสูงสามารถปรับปรุงกระบวนการภายใน จัดสรรทรัพยากรอย่างเหมาะสม และเสริมสร้างความร่วมมือภายในทีมให้ดียิ่งขึ้น
ทำให้สามารถคาดการณ์ความต้องการในการดำเนินงาน รับมือกับความท้าทายเชิงรุก และส่งเสริมความคล่องตัวและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
เร่งผสานความปลอดภัย (Accelerated Security Fusion) : จินตนาการถึงอนาคตที่ความปลอดภัยกลายเป็นพลังที่มองไม่เห็น และปรับตัวได้ล่วงหน้าหนึ่งก้าวเสมอ
การเร่งผสานความปลอดภัยกำลังกำหนดทิศทางใหม่ให้กับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ด้วยการผสานเทคโนโลยีและระเบียบวิธีขั้นสูงเพื่อสร้างระบบป้องกันที่สามารถปรับตัว และตอบสนองเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางนี้ขจัดการทำงานแบบแยกส่วนภายในองค์กร
และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านความปลอดภัย พร้อมใช้ประโยชน์จากนวัตกรรม เช่น ระบบความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นด้วยแนวทางที่ แม่นยำ ยืดหยุ่น พร้อมตอบสนอง และปรับตัวฉับไว
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ NTT DATA Technology Foresight 2025
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th