Canon เปิดตัว “EOS R6 Mark III” เสริมทัพตลาดกล้องไฮบริดเต็มสูบ

Canon

แคนนอน (Canon) เปิดตัวกล้องใหม่สองรุ่นในตระกูล EOS R6 Mark III และ Cinema EOS C50 มุ่งยกระดับการผลิตคอนเทนต์สำหรับสายครีเอเตอร์มืออาชีพ…

highlight

  • แคนนอน เดินเกมรุกตลาดกล้องไฮบริด และกล้องภาพยนตร์เต็มสูบ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เสริมทัพ EOS R system “EOS R6 Mark III” และ Cinema EOS system “EOS C50” ยกระดับเวิร์กโฟลว์สายครีเอเตอร์ ด้วยศักยภาพเหนือชั้น

Canon เปิดตัว “EOS R6 Mark III” และ Cinema EOS C50 เสริมทัพตลาดกล้องไฮบริดเต็มสูบ

Canon

แคนนอน ประกาศรุกตลาดกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม และกลุ่มซีนีม่าเต็มรูปแบบ เปิดตัว 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกลุ่ม EOS R system และ Cinema EOS system ตอบโจทย์สายครีเอเตอร์ และช่างวิดีโอระดับมืออาชีพ ทั้งกล้องซีนีม่าไฮบริดฟูลเฟรม Canon EOS C50 ที่ผสานเทคโนโลยีการถ่ายภาพนิ่

และวิดีโอระดับมืออาชีพไว้ในเครื่องเดียว และสมาชิกล่าสุดในตระกูล EOS R กับ EOS R6 Mark III กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมเจนเนอเรชันใหม่ ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพ และช่างภาพที่ต้องการยกระดับผลงานอีกขั้น เสริมทัพด้วยเลนส์ไพร์มรูรับแสงกว้าง RF45mm f/1.2 STM

และ Cinema Lens CN5 x 11 IAS T สำหรับงานวิดีโอโปรดักชันระดับอาชีพ ที่ช่วยเติมเต็มไลน์อัปซีนีม่าให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น พร้อมส่งเสริมให้เล่าครีเอเตอร์สามารถยกระดับประสบการณ์ด้านภาพ และวิดีโอ และถ่ายทอดเรื่องราวในแบบของตนเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด

Canon
ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด

ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า แคนนอนมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัว EOS R6 Mark III และ Cinema EOS C50 กล้องไฮบริดรุ่นใหม่ที่ยกระดับสมรรถนะทั้งด้านภาพนิ่งและวิดีโออย่างไร้ขีดจำกัด

ตอบโจทย์ทั้งมืออาชีพและครีเอเตอร์รุ่นใหม่ที่ต้องการอิสระในการสร้างสรรค์อย่างแท้จริง โดย EOS R6 Mark III เป็นกล้องเจนที่ 3 ของซีรีส์ สานต่อความสำเร็จจากรุ่น EOS R6 Mark II ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2566 โดยอัปเกรดเพื่อปลดล็อกประสิทธิภาพการถ่ายภาพนิ่งสู่ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล

พร้อมการทำงานที่รวดเร็ว ประสิทธิภาพ และคุณภาพที่มั่นใจได้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น และรองรับเวิร์กโฟลว์ระดับมืออาชีพเต็มรูปแบบ ในขณะที่ EOS C50 เป็นกล้องซีนีม่าที่มีขนาดเล็กที่สุดในซีรีส์ ออกแบบมาเพื่อกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลาย

ทั้งกลุ่มครีเอเตอร์ หรือ Production house ขนาดเล็กที่ต้องการกล้อง และไฟล์วิดีโอที่มีความยืดหยุ่นสูงแบบมืออาชีพ พร้อมรองรับเทรนด์ตลาดในปัจจุบันที่มีความต้องการผลิตวิดีโอคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มที่หลากหลายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พร้อมกันนี้ แคนนอนยังประกาศเปิดตัว RF45mm f/1.2 STM เลนส์ไพร์มรูรับแสงกว้างในขนาดกะทัดรัด และ Cinema Lens CN5 x 11 IAS T เพื่องานวิดีโอโปรดักชันคุณภาพสูง

พัฒนาเทคโนโลยีเลนส์อย่างต่อเนื่อง

Canon
ทาคาชิ อิชิโนมิยะ รองประธานอาวุโส บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด

ทาคาชิ อิชิโนมิยะ รองประธานอาวุโส บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า นอกจากกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้อง แคนนอน ยังมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเลนส์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ประกาศความสำเร็จในการผลิตเลนส์ EF/RF มาแล้วกว่า 170 ล้านเลนส์

เมื่อเดือนตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการพัฒนาเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ล้ำหน้าเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำด้านการสร้างสรรค์ภาพถ่าย และภาพยนตร์ในใจของผู้บริโภค โดยในครั้งนี้ เราภูมิใจนำเสนอ RF45mm f/1.2 STM เป็นเลนส์ไพร์มราคาที่เอื้อมถึงง่าย

ที่มีรูรับแสงกว้างที่สุดในซีรีส์ R ทางยาวโฟกัสที่ 45 มม. ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้าง f/1.2 ได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์ผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพบุคคลที่ต้องการโบเก้ละลายฉากหลังสวยงาม และ Cinema Lens CN5 x 11 IAS T

ออกแบบมาเพื่อเสริมทัพเลนส์ซีรีส์ Cine-Servo ด้วยมุมกว้างระยะ 11-55 มม. รองรับการบันทึกระดับ 8K HDR เพื่องานถ่ายทอดสด และการผลิตภาพยนตร์คุณภาพสูงโดยเฉพาะ การเปิดเลนส์สองรุ่นนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแคนนอนในการขยาย Cinema Line อย่างเต็มรูปแบบ

ตอกย้ำบทบาทผู้นำเทคโนโลยีภาพถ่ายที่มุ่งพัฒนาโซลูชันเพื่อทลายขีดจำกัดแห่งจินตนาการ และเสริมศักยภาพของผู้ใช้ให้ก้าวสู่มิติใหม่แห่งการถ่ายภาพ และภาพยนตร์ในอนาคต

Canon
เนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด

ด้าน เนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ความต้องการในการสร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ คอนเทนต์ครีเอเตอร์

รวมถึงผู้ใช้งานกล้องในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้กล้องดิจิทัลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ และกล้องตระกูลซีนีม่า EOS แคนนอน ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ จึงทุ่มงบลงทุนด้านนวัตกรรมเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

ทั้งกล้องไฮบริด 2 รุ่น อย่าง EOS R6 Mark III และ Cinema EOS C50 ซึ่งมีประสิทธิภาพการใช้งานที่โดดเด่นคนละด้าน รวมถึงเลนส์ไพร์ม RF45mm f/1.2 STM และ Cinema Lens CN5 x 11 IAS T ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน

ทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะช่วยยกระดับการทำงานของช่างภาพในเมืองไทย และมีส่วนช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมการถ่ายภาพ และอาชีพการสร้างคอนเทนต์ให้มีมาตรฐานสูงยิ่งขึ้น

Canon

Cinema EOS C50” กล้องไฮบริดฟูลเฟรม Cinema EOS ที่เล็กที่สุด แต่ทรงพลังขั้นสุด

EOS C50 คือการผสานอย่างลงตัวระหว่างคุณภาพระดับ Cinema EOS กับความคล่องตัวในการทำงาน มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ฟูลเฟรม พร้อมรองรับการถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล มาพร้อมหน่วยประมวลผล DIGIC DV 7 Processor ที่สามารถบันทึกวิดีโอไฟล์ RAW สูงสุดที่ระดับ 7K 60P

รวมถึงการถ่ายสโลว์ที่ 4K 120P / 2K 180P นอกจากนี้ EOS C50 ออกแบบมาเพื่อกลุ่มผู้ใช้งานที่หลากหลาย ทั้ง คอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรือกลุ่ม Production house ขนาดเล็กที่ต้องการกล้อง และไฟล์วิดีโอที่มีความยืดหยุ่นสูงแบบมืออาชีพ

โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Open Gate ทำให้สามารถโพสต์งานในหลากหลายแพลตฟอร์มได้เต็มเฟรม และรวดเร็ว  รวมถึง Production house ระดับกลาง และยังสามารถใช้เป็นกล้อง insert หรือเป็นกล้องที่ 2 ในงานภาพยนตร์ ในซีนที่มีพื้นที่จำกัด หรือกล้องใหญ่ ๆ เข้าไม่ถึงได้อีกด้วย 

Canon

ฟีเจอร์ไฮไลต์ที่ตอบโจทย์โปรดักชันยุคใหม่ใน “EOS C50

  • ระบบ Open Gate Recording ครั้งแรกใน Cinema EOS : ใช้พื้นที่เต็มเซ็นเซอร์อัตราส่วน 3:2 ทำให้ได้ไฟล์ขนาดใหญ่ที่ยืดหยุ่น เหมาะกับงานตัดต่อ สามารถนำไปผลิตคอนเทนต์ทั้งแนวตั้งและแนวนอนได้จากการถ่ายครั้งเดียว ทั้งยังรองรับเลนส์ Anamorphic เพื่อให้ได้ภาพสไตล์ Cinema ที่กว้างและมีมิติสมจริง
  • กล้องไฮบริดที่แท้จริง ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอคุณภาพสูง : สามารถสลับโหมดการทำงานระหว่างถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ พร้อมการแสดงผลหน้าจอที่ปรับให้เหมาะสมตามการใช้งาน
  • ดีไซน์แนวโมดูลาร์ น้ำหนักเบา : EOS C50 มีขนาดกะทัดรัดที่สุดในกลุ่ม Cinema EOS พร้อมจุดยึดเสริมอุปกรณ์ รองรับการใช้งานทั้งกับกิมบอลหรือถือถ่ายด้วยมือเปล่า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกองถ่ายที่ต้องการความคล่องตัวสูง

การเชื่อมต่อระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ

  • Livestream คุณภาพสูง : ผ่าน USB-C เพียงสายเดียว รองรับสัญญาณภาพ UVC/UAC ที่ระดับ 60P
  • Remote Control : เชื่อมต่อผ่าน XC Protocol และรองรับอุปกรณ์เสริม เช่น RC-IP1000
  • ครบครันทั้งพอร์ต และการ์ด : XLR, Timecode, HDMI Type-A, CFexpress + SD Card

“EOS R6 Mark III” กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ครบจบทั้งงานภาพนิ่ง และวิดีโอ

EOS R6 Mark III กล้องเจนเนอเรชันที่ 3 ของซีรีส์ EOS R “6” ที่โดดเด่นด้านโฟกัสแม่นยำในการถ่ายภาพที่แสงน้อย มาพร้อมความสามารถด้านวิดีโอขั้นสูงที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Cinema EOS C50 แต่เน้นเรื่องฟังก์ชันการถ่ายภาพนิ่งเป็นหลัก ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของครีเอเตอร์ที่ใส่ใจในคุณภาพ

รวมถึงช่างภาพงานอีเวนต์ งานแต่งงาน งานคอนเสิร์ต ช่างภาพสายไฮบริด และสายท่องเที่ยว พร้อมมอบสมรรถนะและความยืดหยุ่นสูงสุดสำหรับการถ่ายทำในทุกสถานการณ์ อัดแน่นด้วยพลังแห่งสมรรถนะ มาพร้อมเซนเซอร์ฟูลเฟรมความละเอียดสูง 32.5 ล้านพิกเซล ระบบออโต้โฟกัสและการถ่ายภาพนิ่งที่ได้รับการปรับปรุงให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น

Canon

ฟีเจอร์ไฮไลต์ใน “EOS R6 Mark III

  • รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงแบบ 7K 60p RAW และ 7K/ 30p แบบ Open Gate ให้อิสระในการปรับสเกลภาพได้ตามต้องการ ทั้งงานภาพยนตร์ซีเนมาติกและวิดีโอแนวตั้ง เป็นกล้องตระกูล EOS R รุ่นแรกที่รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ Open Gate ในอัตราส่วน 3:2
  • เทคโนโลยีการติดตามรุ่นล่าสุดในระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF II
  • มาพร้อม Canon Log 2 และ Log 3 ให้การเกรดสีและโทนได้ไร้ขีดจำกัด
  • บันทึกวิดีโอความละเอียด 4K/ 30p (7K oversampling) และถ่ายสโลว์โมชัน 4K/ 120p
  • สมรรถนะการถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงที่เหนือระดับ เพียงเสี้ยววินาทีก่อนกดชัตเตอร์ก็ไม่พลาด ด้วยโหมด Pre-continuous shooting ที่ความเร็วสูงสุด 40 FPS พร้อมผสานฟีเจอร์การถ่ายงานวิดีโอขั้นสูงเพื่อรองรับเวิร์กโฟลว์ระดับมืออาชีพเต็มรูปแบบ

Canon

แคนนอนยังเติมเต็มชุดอุปกรณ์สร้างสรรค์ด้วยผลิตภัณฑ์เลนส์ใหม่ 2 รุ่น ทั้งเลนส์ไพร์มสำหรับถ่ายภาพบุคคล RF45mm f/1.2 STM รูรับแสงกว้างที่สุดของซีรีส์ RF ในราคาที่เข้าถึงง่าย เมื่อใช้งานร่วมกับกล้องฟูลเฟรมให้ทางยาวโฟกัสที่ 45 มม. และเมื่อใช้กับกล้องเซนเซอร์ APS-C อย่างรุ่น EOS R50

จะให้มุมมองเทียบเท่าระยะ 72 มม. เหมาะสมกับการถ่ายภาพบุคคลที่สวยงาม และเลนส์ Cinema Lens CN5 x 11 IAS T สำหรับงานบรอดคาสต์ เสริมทัพเลนส์ซีรีส์ Cine-Servo ด้วยมุมกว้าง ระยะ 11–55mm รองรับ 8K HDR เพื่องานถ่ายทอดสด และการผลิตภาพยนตร์คุณภาพสูง

ราคา และกำหนดวางจำหน่ายในประเทศไทย (ปลายเดือนพฤศจิกายน 2568) 
Cinema EOS C50
  • Cinema EOS C50 ตัวเครื่องพร้อม Handle ราคา 121,390 บาท
EOS R6 Mark III วางจำหน่ายทั้งหมด 3 ชุดคิท
  • EOS R6 Mark III เฉพาะตัวเครื่อง (Body) ราคา 87,990 บาท
  • EOS R6 Mark III ตัวเครื่องพร้อมเลนส์คิท RF24-105mm IS STM ราคา 99,990 บาท
  • EOS R6 Mark III ตัวเครื่องพร้อมเลนส์คิท RF24-105mm f/4L ราคา 129,990 บาท

เลนส์ RF45mm f/1.2 STM ราคา 15,390 บาท

เลนส์ CN5 x 11 AS T (เมาท์ RF และ PL) ราคา 1,163,900 บาท

Canon

โปรโมชันช่วงเปิดตัว ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 สิ้นสุดวันที่ 15 มกราคม 2569

EOS C50 รับโปรโมชัน 3 ต่อ

  • ฟรี HOMAN CFexpress Card (Type-B) ความจุ 512 GB มูลค่า 6,290 บาท
  • ฟรี Battery เสริม รุ่น LPE6P จำนวน 2 ก้อน มูลค่ารวม 7,800 บาท
  • ขยายเวลารับประกันสินค้า จาก 12 เดือน เป็น 24 เดือน
EOS R6 Mark III รับโปรโมชัน 2 ต่อ
  • ฟรี HOMAN CFexpress Card (Type-B) ความจุ 512 GB มูลค่า 6,290 บาท
  • ขยายเวลารับประกันสินค้า จาก 12 เดือน เป็น 24 เดือน
ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay