Fortinet เปิดแผน 2023 ตั้งเป้าก้าวขึ้นสู่ที่ปรึกษาด้านภัยคุกคามทุกมิติด้วยไอที-โอที

Fortinet

ฟอร์ติเน็ต (Fortinet) เปิดแผน 2023 ก้าวสู่บทบาทที่ปรึกษาที่ลูกค้ามั่นใจได้ ช่วยอุดช่องภัยคุกคามทุกมิติ ด้วยโซลูชันครบวงจรทั้งไอที-โอที…

highlight

  • ฟอร์ติเน็ตผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบอัตโนมัติและครบวงจร เผยการปฏิรูปทางดิจิทัล (Digital Transformation) ในองค์กรธุรกิจ และการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลจะนำไปสู่การเปิดพื้นที่โจมตี (Attack Surface) ที่เพิ่มมากขึ้นในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป
  • เปิดแผนดำเนินธุรกิจปี 2023 เตรียมมุ่งหน้าตอบโจทย์ความต้องการระบบการรักษาความปลอดภัยสำหรับ OT (Operational Technology) กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงขึ้น ชู Fortinet Security Fabric ช่วยภาคธุรกิจและจัดการความเสี่ยง และการรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ดียิ่งขึ้น และเตรียมจับมือภาคการศึกษา หน่วยงานด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ในการปั้นมืออาชีพรองรับความต้องการบุคลากรไซเบอร์ในประเทศไทย

Fortinet เปิดแผน 2023 ตั้งเป้าก้าวขึ้นสู่ที่ปรึกษาด้านภัยคุกคามทุกมิติ

Fortinet
ภัคธภา ฉัตรโกเมศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฟอร์ติเน็ต

ภัคธภา ฉัตรโกเมศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฟอร์ติเน็ต กล่าวว่า เป็นที่คาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลจะมีส่วนใน GDP หรือผลิตภัณฑ์รวมในประเทศทั้งหมดของประเทศไทย ถึง 30% ภายในปี 2030 ซึ่งยิ่งเศรษฐกิจดิจิทัลมีการเติบโต

การเฝ้าระวัง และการรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ยิ่งทวีความสำคัญ ยิ่งการทรานส์ฟอร์มในธุรกิจ และอุตสาหกรรมมีมากขึ้น เราก็จะยิ่งได้เห็นความถี่ และความซับซ้อนของการโจมตีที่เพิ่มขึ้น จากรายงานล่าสุดของ ฟอร์ติการ์ด แล็บ (FortiGuard Labs) ทีมงานศึกษา และวิจัยภัยคุกคามไซเบอร์ระดับโลก

ชี้ให้เห็นว่าในปี 2022 ที่ผ่าน มัลแวร์ และแรนซัมแวร์ ยังคงเป็นภัยคุกคามหลักที่องค์กรทั้งหลายต้องเตรียมรับมือ แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปก็คือรูปแบบการโจมตีที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแต่ตัวมัลแวร์ และแรนซัมแวร์เท่านั้น แต่วิธีการในการส่งมัลแวร์ไปยังเป้าหมายก็ยังมีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น

โดยในส่วนของประเทศไทยช่วงไตรมาส 4 ของปี 2022 ทาง ฟอร์ติการ์ด แล็บ ได้ ตรวจพบว่ามีเหตุการณ์ (Incident) ที่เกี่ยวข้องกับไวรัสเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากถึง 1.5 ล้านครั้ง ในทุก ๆ วัน หรือประมาณ 132 ล้านครั้งตลอดทั้งไตรมาส ซึ่งนับเป็น 2.25% การเกิดขึ้นของมัลแวร์ที่ตรวจพบทั่วโลก

ในขณะที่กลุ่มบอทเน็ตนั้นมีจำนวนตรวจพบมากกว่า 224 ล้านครั้ง นับเป็น 2.45% ที่ตรวจพบทั่วโลก ส่วนที่สำคัญอีกส่วนคือช่องโหว่ที่ถูกตรวจพบทั้งซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นพบมากถึง 57,651 ล้านครั้ง ซึ่งนับเป็น 1.94% จากที่ตรวจพบทั่วโลก โดยยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเนื่อง และจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นด้วย

ความซับซ้อนของการโจมตีที่ต้องรับมือ

การโจมตีที่เพิ่มความซับซ้อนมากขึ้น : ทั้งในรูปของแรนซัมแวร์ การละเมิดการทำงานของระบบไอที (IT) และเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติงาน หรือ OT (Operational Technology) ด้วยการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) การโจมตีการทำงานของ IoT ตลอดจน CryptoJacking ภัยคุกคามไซเบอร์รูปแบบใหม่

เพื่อการขโมยทรัพยากรคอมพิวเตอร์ รวมทั้ง Deepfake ที่เป็นเทคโนโลยีที่ใช้สร้างสื่อสังเคราะห์ เพื่อปลอมแปลงลักษณะบุคคลต่าง ๆ ผ่านสื่อวิดีโอ รวมถึงภาพถ่าย และการบันทึกเสียง โดยใช้ประโยชน์จาก AI ที่ถูกพัฒนาด้วย Deep Learning เป็นต้น

ความเสี่ยงที่หลากหลาย : ทั้งบนคลาวด์ เน็ตเวิร์ก อุปกรณ์ปลายทาง (End Point) แอปพลิเคชัน การทำงานของ OT และอื่น ๆ ที่นำไปสู่การใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จากเวนเดอร์ต่าง ๆ กัน

ความท้าทายในการแบ่งเครือข่ายออกเป็นส่วน (Network Segmentation) : เนื่องเพราะการปรับตัวของบริษัทต่าง ๆ ในการทำงานในรูปแบบของไฮบริด ทำให้เกิดความยากลำบากในการแบ่งเครือข่ายออกเป็นส่วนๆ (Segments) เพื่อป้องกันการเชื่อมต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต

ภัยคุกคามของ OT และซัพพลายเชน : เกิดขึ้นจากการพึ่งพาบริการ และเครื่องมือดิจิทัลที่มากขึ้น ทำให้เผชิญกับความเสี่ยงต่าง ๆ ผ่านทางเวนเดอร์ และพันธมิตรที่ใช้บริการ

Fortinet

ความซับซ้อนของระบบ IT : มากับจำนวนดีไวซ์ที่มากขึ้น การใช้งานแอปพลิเคชันและบริการในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริด ก่อให้เกิดความท้าทายในการจัดการ และรักษาความปลอดภัยทั้งหมดโดยรวม

การมองเห็นที่จำกัด (Limited Visibility) : ด้วยปริมาณของดีไวซ์และบริการที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้นในพื้นที่ห่างไกล เป็นเรื่องยากสำหรับองค์กรธุรกิจในการเฝ้าระวังและตรวจสอบภัยคุกคามความปลอดภัย

“ในปีนี้ นอกเหนือจากการรุกเพื่อให้บริการด้านความปลอดภัยทางไอทีแก่องค์กรธุรกิจต่าง ๆ แล้ว ฟอร์ติเน็ตยังเล็งในการขยายการทำธุรกิจเข้าสู่ตลาดด้าน OT มากยิ่งขึ้นเนื่องจากภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปทางดิจิทัล

เพื่อปรับกระบวนการทำงานทั้งในส่วน IT และ OT เข้าด้วยกันทำให้องค์กรมีพื้นที่เสี่ยงต่อการโดนโจมตีเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อความต้องการการรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน” ภัคธภา กล่าว

จากรายงานของ สถานการณ์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์และเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติงานทั่วโลกประจำปี 2022 (Global 2022 State of Operational Technology and Cybersecurity Report) ระบุว่า 88ของสภาพแวดล้อมด้านระบบควบคุมอุตสาหกรรม

ในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยี OT ต่างเคยมีประสบการณ์กับการบุกรุก โดยผลการศึกษาได้ชี้ถึงปัญหาที่ก่อเกิดจากการโจมตี OT ซึ่งรวมถึงการขาดความสามารถในการมองเห็นกิจกรรมด้าน OT แบบรวมศูนย์ ทำให้ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้น

“การบุกรุกความปลอดภัย OT ส่งผลกระทบสำคัญต่อประสิทธิผลขององค์กร และส่งผลถึงกำไร โดยท็อป 3 ของการบุกรุกที่องค์กรในประเทศไทยต้องเผชิญได้แก่ มัลแวร์ แรนซัมแวร์ และแฮ็กเกอร์ ส่งผลต่อการสูญเสียรายได้ การสูญหายของข้อมูล และยังได้รับผลกระทบในเรื่องของการกำกับดูแล ไปจนถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์

อันเป็นผลมาจากการบุกรุกด้านความปลอดภัย ฟอร์ติเน็ตในฐานะผู้นำอันดับ 1 และผู้ให้คำปรึกษาด้านซีเคียวริตี้ที่ลูกค้ามั่นใจได้ (Trusted Advisor) พร้อมในการให้คำปรึกษา และในการทำงานงานร่วมกับพันธมิตรที่เรามีในการมอบการปกป้องระบบควบคุมอุตสาหกรรม รวมถึงระบบควบคุมกำกับดูแลและเก็บข้อมูลให้กับภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบ” ภัคธภา กล่าว

Fortinet Security Fabric เพื่อการรักษาความปลอดภัยที่สมบูรณ์

Fortinet

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการระบบการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพทั้งสำหรับภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม ฟอร์ติเน็ต มุ่งเน้นในการรวมเวนเดอร์ต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์เพื่อการทำงานในแต่ละจุด (Point Products) ทั้งในส่วนของการรักษาความปลอดภัย และระบบเครือข่ายเป็นหนึ่งเดียวกัน

เพื่อให้สามารถลดความซับซ้อนเพื่อปิดช่องว่างด้านความปลอดภัย (Security Gap) ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ปรับประสบการณ์ผู้ใช้ให้เหมาะสม และเร่งผลลัพธ์ในการทำงาน แนวคิดของฟอร์ติเน็ต คือ

การรวมกันของ ระบบเครือข่าย และความปลอดภัย, การบูรณาการ Point Products เข้ากับแพลตฟอร์มความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบบูรณาการ และ การนำระบบข่าวกรองภัยคุกคามไซเบอร์ และบริการด้านความปลอดภัยมาใช้กับทุกภาคส่วนอย่างสม่ำเสมอ และการผสานรวมทั้งหมดนี้มีอยู่ใน Fortinet Security Fabric แล้ว

Fortinet Security Fabric ช่วยให้ธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมมีแนวทางที่มีประสิทธิภาพ และไม่เกิดการหยุดชะงัก โดยช่วยให้มั่นใจว่าสภาพแวดล้อมทั้ง IT และ OT จะได้รับการปกป้องและดำเนินการภายใต้ข้อกำหนด ซึ่งการผสานรวมการทำงานได้อย่างเต็มรูปแบบรวมถึงการแบ่งปันความรู้เท่าทันเกี่ยวกับภัยคุกคาม

จะช่วยให้องค์กรด้านอุตสาหกรรมในทุกภาคส่วนสามารถดำเนินการตอบสนองต่อภัยคุกคามโดยอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ Fortinet Security Fabric จะครอบคลุมเครือข่ายควบรวมทั้ง IT และ OT ทั้งหมดเพื่อปิดช่องว่างด้านความปลอดภัย OT โดยให้ความสามารถด้านการมองเห็นได้อย่างสมบูรณ์อีกทั้งให้การบริหารจัดการที่เรียบง่ายยิ่งขึ้น

Fortinet
ภัคธภา ฉัตรโกเมศ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฟอร์ติเน็ต

“เราเชื่อมต่อทุกอย่างเข้าด้วยกันเป็นส่วนหนึ่งของ Fortinet Security Fabric ด้วยการนำข้อมูลภัยคุกคามเข้ามาผสานกับระบบนิเวศแบบเปิด (Open Ecosystem) ที่มีโซลูชันมากกว่า 500 รายการ จากผู้จำหน่ายกว่า 350 ราย เพื่อสร้างการมองเห็น (Visibility) ที่ครอบคลุมอีกทั้งสามารถป้องกันการโจมตีทางดิจิทัลทั้งหมด

เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น และโซลูชันในแบบบูรณาการนี้ยังช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการและการแบ่งปันข่าวกรองด้านภัยคุกคาม และระบบเครือข่ายสามารถรักษาตัวเอง (Self-Healing) ได้อัตโนมัติพร้อมการรักษาความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อการดำเนินการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” ภัคธภา กล่าว

นอกจากโซลูชันการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ ฟอร์ติเน็ตเล็งเห็นอีกปัจจัยที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือการสร้างบุคลากรด้านความปลอดภัยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ที่จะสามารถมองเหตุถึงปัญหาหรือความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในระบบ

อีกทั้งสามารถตรวจสอบ วิเคราะห์ แก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีเพื่อรองรับทั้งความต้องการ เพื่อรับมือกับการขยายตัวของภัยคุกคามและการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดังนั้นในปีนี้ ฟอร์ติเน็ตจะเพิ่มการทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษา หน่วยงาน และองค์กรด้านซีเคียวริตี้ของภาครัฐเพิ่มมากขึ้น เพื่อร่วมสร้างมืออาชีพที่มีทักษะ และความรอบรู้ด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ อีกทั้งเพื่อช่วยลดช่องว่างด้านทักษะไซเบอร์ซีเคียวริตี้ (Cybersecurity Skills Gap) อีกด้วย

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay