ฟูจิตสึ พลิกโฉมรูปแบบการทำงานด้วยโซลูชั่นใหม่ “Fujitsu Work Life Shift”

Fujitsu

ฟูจิตสึ พลิกโฉมรูปแบบการทำงานด้วยโซลูชั่นใหม่ “Fujitsu Work Life Shift” ที่ผสานรวมความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้ากับองค์ความรู้เชิงปฏิบัติ…

highlight

  • ฟูจิตสึพัฒนาโซลูชั่นใหม่ ปรับเปลี่ยนสถานที่ทำงานอย่างครบวงจร ผสานรวมประสบการณ์จากการดำเนินโครงการปฏิรูปภายในองค์กรเพื่อรองรับพนักงานของฟูจิตสึ 130,000 คนทั่วโลก
  • โซลูชั่นใหม่ครอบคลุมบริการที่หลากหลาย รองรับการทำงานแบบ Smart Working พร้อมทั้งปรับปรุงการรักษาความปลอดภัย กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ด้วยการประสานงานร่วมกันผ่านระบบดิจิทัลและระบบวิเคราะห์ข้อมูลบุคลากร พร้อมเปิดตัว “Collaboration Space” บนระบบเสมือนจริง โดยเริ่มต้นที่ญี่ปุ่น ตั้งเป้าปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร
  • รองรับการทำงานหลากหลายรูปแบบอย่างยั่งยืนในโลกวิถีใหม่ โดยฟูจิตสึให้บริการแก่บุคลากรทั่วโลกในงานที่มีความสำคัญต่อสังคม เช่น การแพทย์ และก่อสร้าง

ฟูจิตสึ พลิกโฉมรูปแบบการทำงานด้วยโซลูชั่นใหม่ “Fujitsu Work Life Shift

ฟูจิตสึ ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้กับชุดโซลูชั่นใหม่ Work Life Shift ซึ่งจะพลิกโฉมรูปแบบการทำงานให้สอดรับกับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) โซลูชั่นใหม่นี้ผสานรวมความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของฟูจิตสึ เข้ากับองค์ความรู้เชิงปฏิบัติที่ได้รับจากการพัฒนาโซลูชั่นเพื่อรองรับพนักงานในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

รวมไปถึงการดำเนินโครงการปรับเปลี่ยนสถานที่ทำงานสำหรับพนักงานของฟูจิตสึกว่า 130,000 คนทั่วโลก โดย Work Life Shift จะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการปรับเปลี่ยนสู่การทำงานรูปแบบใหม่ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับองค์กรเพื่อให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ใหม่ ๆ ฟูจิตสึนำเสนอบริการสำหรับสถานที่ทำงาน

 

โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ Smart Working, Borderless Office และ Culture Change พร้อมยืนยันความสำเร็จจากการดำเนินการจริง และสามารถปรับแต่งให้สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละราย 

นอกจากนี้ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ฟูจิตสึเตรียมที่จะเปิดตัวบริการใหม่ที่มีชื่อว่า Collaboration Space ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับทีมงาน โดยจะช่วยให้บุคลากรที่ทำงานนอกสถานที่หรือทำงานจากที่บ้านสามารถประสานงานร่วมกันได้บนพื้นที่ทำงานเสมือนจริง (Virtual Workspace)

ฟูจิตสึมุ่งมั่นที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาโซลูชั่น Work Life Shift เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการให้บริการด้านต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนสถานที่ทำงานได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็วมากขึ้น

Work Life Shift : การปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัลเพื่อเสริมศักยภาพ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

ในการพัฒนาโซลูชั่น Work Life Shift มีข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการปรับเปลี่ยนองค์กรของฟูจิตสึในช่วงระยะเวลา 5 ปี เพื่อสร้างระบบการทำงานที่ยืดหยุ่น รองรับการทำงานนอกสถานที่โดยใช้ระบบมัลติคลาวด์ และตอนนี้ฟูจิตสึพร้อมแล้วที่จะมอบประสบการณ์การทำงานในลักษณะเดียวกันนี้ให้แก่ลูกค้า

Work Life Shift ประกอบด้วยโซลูชั่นหลัก 7 โซลูชั่น และบริการที่เกี่ยวข้อ

Fujitsu

  1. Smart Working (การกำหนดรูปแบบการทำงานที่เหมาะสม)

นับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายๆ องค์กรได้ปรับใช้รูปแบบการทำงานจากที่บ้านกันอย่างกว้างขวาง แต่ประเด็นเรื่องคุณภาพ และความปลอดภัยยังคงเป็นปัญหาสำคัญ นอกเหนือจากบริการสนับสนุนนอกสถานที่เพื่อรองรับการติดตั้ง และใช้งานระบบอย่างเหมาะสมแล้ว ฟูจิตสึจะนำเสนอโซลูชั่นดังต่อไปนี้

  • Modern Workspace นำเสนอบริการด้านการติดต่อสื่อสาร รวมถึง Microsoft 365, Microsoft Teams และ Box โดยใช้เวลาเตรียมการเพียง 5 วันทำการ และใช้เทมเพลตทั่วไปที่ใช้กันทั่วโลก
  • Secure Remote Working นำเสนอบริการ Virtual Desktop บนระบบคลาวด์ โดยใช้เวลาเตรียมการเพียง 5 วันทำการ  เนื่องจากไม่มีการจัดเก็บข้อมูลไว้บนอุปกรณ์ Thin Client ที่ใช้ในการเข้าถึง Virtual Desktop ดังนั้นจึงป้องกันความเสี่ยงที่ข้อมูลอาจรั่วไหลเพราะอุปกรณ์สูญหายหรือถูกโจรกรรม
  • Zero Trust Network (ปัจจุบันเปิดให้บริการเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น) จัดหาสภาพแวดล้อมเครือข่ายแบบ Zero Trust ในรูปแบบของบริการคลาวด์ พร้อมความยืดหยุ่นในการปรับเพิ่มหรือลดขนาด และลดการพึ่งพา VPN ช่วยให้องค์กรสามารถตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อคำร้องขอในกรณีเร่งด่วน เช่น การปรับเพิ่มจำนวนบุคลากร และการประสานงานร่วมกับบุคคลภายนอก

Fujitsu

2Borderless Office (ปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติในสำนักงาน)

ในอนาคตอันใกล้ บุคลากรจะสามารถทำงานในรูปแบบที่ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยจะทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาตามความเหมาะสม แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มภาระให้แก่ฝ่ายไอทีในการตอบข้อซักถาม และให้บริการซัพพอร์ตอย่างทันท่วงทีฟูจิตสึให้บริการสนับสนุนได้ทุกที่ทุกเวลา

ด้วยการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้เป็นรูปแบบดิจิทัล โดยใช้ระบบบริการช่วยเหลือ Service Desk แบบดิจิทัลในญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก พร้อมด้วยบริการนอกสถานที่ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ฟูจิตสึมีความเชี่ยวชาญเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

  • Customer Experience Center ฝ่ายบริการช่วยเหลือ Service Desk ของฟูจิตสึทำหน้าที่ให้บริการตอบข้อซักถามและแก้ไขปัญหาผ่านทางโทรศัพท์ เว็บ แชท ฯลฯ แก่บุคลากรที่ทำงานนอกสถานที่  ศูนย์บริการแบบหลายช่องทางจะพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง
  • Workplace Support บริการนอกสถานที่ เช่น การจัดส่งและซ่อมแซมอุปกรณ์ในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก  สำหรับในญี่ปุ่น ฟูจิตสึยังให้บริการซัพพอร์ตในกรณีที่อุปกรณ์ทำงานผิดปกติเนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากผู้ใช้ (เช่น กาแฟหรือน้ำหกใส่ พีซีตกพื้น ฯลฯ) ซึ่งในอดีตไม่ได้รับความคุ้มครองภายใต้บริการบำรุงรักษา และบริษัทฯ จะเริ่มให้บริการเก็บรวบรวมอุปกรณ์ตามบ้านสำหรับพนักงานที่ทำงานจากที่บ้าน

Fujitsu

3Culture Change (ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร)

ปัจจุบัน รูปแบบการทำงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เนื่องจากสังคมมีการปรับตัวให้เข้ากับชีวิตวิถีใหม่ และจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในส่วนของการทำงานร่วมกันเป็นทีม การบริหารจัดการ และวัฒนธรรมการทำงานขององค์กรฟูจิตสึให้บริการที่จะช่วย

เพิ่มความสะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่างพนักงานที่ทำงานร่วมกันในแต่ละโครงการ แสดงผลข้อมูลการทำงานร่วมกันในสถานการณ์ต่าง ๆ และรองรับรูปแบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก

  • Virtual Collaboration (ปัจจุบันเปิดให้บริการเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น) ฟูจิตสึจะจัดหาสภาพแวดล้อมสำหรับการทำงานร่วมกันผ่านบริการใหม่ Collaboration Space ซึ่งเป็นบริการพื้นที่เสมือนจริงสำหรับการทำงานร่วมกัน ช่วยเสริมศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และประสิทธิภาพให้กับทีมงาน
  • Workforce Analytics (ปัจจุบันเปิดให้บริการเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น) ชุดเทคโนโลยี AI Zinrai และโซลูชั่น Microsoft 365 AI ของฟูจิตสึ แสดงข้อมูลรูปแบบการทำงานของบุคลากร รองรับการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

บริการใหม่ “Collaboration Space

ฟูจิตสึใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เฟซผู้ใช้เชิงพื้นที่จากห้องปฏิบัติการของฟูจิตสึ (Laboratories) เพื่อจัดหาสภาพแวดล้อมการทำงานนอกสถานที่ ซึ่งสมาชิกจะสามารถทำงานในพื้นที่เสมือนจริงเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ สมาชิกหลายคนจะสามารถอินพุต/เอาต์พุตข้อมูลได้ในเวลาเดียวกัน ทั้งยังสามารถแชร์และแก้ไขข้อมูลต่างๆ เช่น ไฟล์ข้อความ ภาพยนตร์ เสียง ตัวอักษรที่เขียนด้วยลายมือ และข้อมูล CAD

ยอดขายที่ตั้งเป้าไว้

ฟูจิตสึตั้งเป้ารายได้ 100,000 ล้านเยนสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ FUJITSU Work Life Shift ภายในปีงบประมาณ 2566

ฟูจิตสึมุ่งมั่นพัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานอย่างต่อเนื่อง

ในปี 2558 ฟูจิตสึได้ผนวกรวมโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารสำหรับพนักงานทั่วโลก และตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา บริษัทฯ ได้เปลี่ยนย้ายไปสู่สภาพแวดล้อมมัลติคลาวด์ เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการปรับใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำอย่างยั่งยืน ในปี 2560 ฟูจิตสึได้เริ่มต้นใช้งานระบบการทำงานนอกสถานที่ (Remote Working) อย่างครบวงจร

สำหรับพนักงานในญี่ปุ่น เพื่อรองรับรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นในทุกสถานที่ และตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้การดำเนินงานของบริษัทต่างๆ หยุดชะงัก ฟูจิตสึจึงได้เร่งติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือเสมือนจริง

เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการ Work Life Shift ในญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นหลักไมล์สำคัญสำหรับการพัฒนาการปรับปรุงองค์กร

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th