เอไอเอส (AIS) ผนึกสภากาชาดไทย ส่งต่อความห่วงใย มอบซิม และประกันภัยหนุนการทำงาน อสต. อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว สกัดกั้นโควิด-19 รอบ 2ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ…
AIS ผนึก สภากาชาดไทย หนุนการทำงาน อสต. อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว
เดินหน้าสานต่อภารกิจ “เอไอเอส 5G สู้ภัยโควิด-19″ นำเทคโนโลยี และศักยภาพของเครือข่าย 5G เสริมทัพสาธารณสุขป้องกัน เฝ้าติดตาม และฟื้นฟูประเทศจากโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดผนึกสภากาชาดไทย และภาคีเครือข่าย ติดอาวุธดิจิทัลให้กับ อสต. อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว
เพื่อควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 2 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยสนับสนุนซิม “Sawasdee AEC“ มอบฟรีอินเทอร์เน็ตสำหรับใช้งานแอปพลิเคชัน “พ้นภัย“ พร้อมมอบฟรีประกันภัยโควิด-19 เพื่อความอุ่นใจระหว่างติดตามการระบาด
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย นับได้ว่าอยู่ในแดนบวก ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ และผู้เสียชีวิตอยู่ในระดับคงที่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำงานอย่างมุ่งมั่นของบุคลากรด้านสาธารณสุข ทั้งทีมแพทย์ พยาบาล พลังของอาสาสมัครประเภทต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ คอยให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ เฝ้าระวัง และติดตาม
คนในชุมชนอย่างใกล้ชิด ประกอบกับความร่วมมือของภาคประชาชนที่ร่วมกันเว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ แต่ทว่ามาตรการคลายล็อกดาวน์ที่รัฐบาลได้ผ่อนปรนให้ภาคธุรกิจต่าง ๆ ได้กลับมาเปิดให้บริการอย่างปกติ ตลอดจนการเริ่มกลับเข้าทำงานในสถานประกอบการของกลุ่มแรงงานข้ามชาติ อาจจะนำมาซึ่งความเสี่ยงในการแพร่ระบาดรอบที่ 2 ได้
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลได้มีส่วนนำนวัตกรรม พร้อมขีดความสามารถของเครือข่าย 5G ไปเสริมประสิทธิภาพงานด้านสาธารณสุขไทยอย่างต่อเนื่อง ผ่านภารกิจ “เอไอเอส 5G สู้ภัยโควิด–19“ โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล
รวมถึงเข้าไปสนับสนุนการทำงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้สามารถใช้เทคโนโลยีในการเฝ้าระวัง คัดกรอง และติดตามประชาชนกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ทำให้การป้องกันการแพร่ระบาดทั่วประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งกลุ่ม ซึ่งมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยในภาคธุรกิจบริการ และภาคอุตสาหกรรม คือ “กลุ่มแรงงานข้ามชาติ“ ซึ่งปัจจุบันมีการขึ้นทะเบียน และกระจายตัวทำงานทั่วราชอาณาจักร รวมกว่า 3 ล้านคน ที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญในการดูแลและป้องกันเรื่องสุขอนามัย และสาธารณสุข
เนื่องจากเป็นประชากรที่พักอาศัยในประเทศที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน ด้วยตระหนักถึงความสำคัญในการเฝ้าระวัง และติดตามกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ระบบการฟื้นฟู และรักษา เอไอเอส จึงได้ สนับสนุนโครงการ “รวมใจต้านภัย COVID–19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ”
ซึ่งสภากาชาดไทย สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ และยูนิเซฟ ประเทศไทย ร่วมมือกันจัดขึ้น เพื่อให้กลุ่มแรงงานข้ามชาติมีความรู้ ความเข้าใจ และเกิดความตระหนักในการป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19
และสามารถป้องกันตนเองและครอบครัวจากการแพร่กระจายของโควิด-19 ผ่านการใช้ แอปพลิเคชัน “พ้นภัย“ ซึ่งพัฒนาโดยสภากาชาดไทย ที่ได้ใช้เป็นเครื่องมือให้ประชาชนแจ้งข่าวสารภัยธรรมชาติ และภัยพิบัติ แต่เมื่อเกิดวิกฤตโควิด จึงได้บูรณาการแอปฯ พ้นภัยมาใช้ในการรับมือโควิด
โดยให้แรงงานข้ามชาติ ที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) และแกนนำหอพักแรงงานข้ามชาติที่มีส่วนร่วมในการค้นหาผู้ที่มีอาการหรือสงสัยอาการของโรคให้แจ้งข้อมูลผ่านแอปฯ พ้นภัย เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและติดตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลข่าวสาร และคำแนะนำต่างๆ ในการดูแลสุขภาพ ที่มีทั้งภาษาไทย เวียดนาม เมียนมาและกัมพูชา ให้ อสต. นำไปแนะนำแก่กลุ่มเพื่อนแรงงานต่างด้าวด้วยกัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด เอไอเอสจึงตั้งใจที่จะร่วมสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ด้วยการให้ อสต. สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตบนแอปฯ พ้นภัยได้
โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นเวลานาน 1 ปี พร้อมมอบสิทธิ์ประกันภัยโควิด-19 มูลค่า 100,000 บาท นาน 45 วัน สำหรับ อสต.ที่ใช้เครือข่ายเอไอเอส อย่างไรก็ตาม อสต.ที่ใช้เครือข่ายอื่น เอไอเอส ก็พร้อมที่จะมอบซิมเติมเงินวัน-ทู-คอล “Sawasdee AEC“ เพื่อให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบนแอปพลิเคชันพ้นภัย ฟรี! พร้อมมอบสิทธิ์คุ้มครองประกันภัยโควิด -19 เช่นกัน
แอปพลิเคชัน “พ้นภัย” แอปฯเพื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุข
นายแพทย์พิชิต ศิริวรรณ รองผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์ และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า โครงการรวมใจต้านภัยโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ เป็นโครงการที่มุ่งเน้นในการให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มแรงงานข้ามชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยที่ผ่านมาสภากาชาดไทย และภาคีเครือข่าย ได้มอบชุดธารน้ำใจให้กับแรงงานข้ามชาติ และครอบครัวที่ว่างงาน เพราะถูกเลิกจ้าง และได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดต่างๆ ไปแล้ว รวมทั้งสิ้น 5,368 ชุด
นอกจากนี้ทางโครงการยังได้รับการสนับสนุนประกันภัย และอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ในงานแอปพลิเคชัน “พ้นภัย“ จากเอไอเอส อำนวยความสะดวกอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว และแกนนำแรงงานที่ผ่านการอบรม และได้รับสิทธิ์ในการแจ้งข่าว เพื่อพัฒนาศักยภาพของอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว และแกนนำหอพักแรงงานข้ามชาติ
ให้มีส่วนร่วมในการค้นหาผู้มีอาการของโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และค้นหาแรงงานข้ามชาติที่เข้าประเทศมาโดยยังไม่ได้ผ่านการกักกันโรค 14 วัน โดยแจ้งข่าวผ่านแอปพลิเคชัน “พ้นภัย“ เพื่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะได้ไปสอบสวนโรค คัดกรอง และส่งต่อเข้าสู่ระบบบริการสาธารณสุขต่อไป
เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ เอไอเอส ได้นำความเชี่ยวชาญทางด้านโครงข่ายและเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพ ปลดล็อกขีดจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่ของเหล่าอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) ให้สามารถเฝ้าระวัง ติดตามกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติได้แบบไม่มีสะดุดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
พร้อมมอบความอุ่นใจเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของ อสต. ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้มาตรการเฝ้าระวังสภาวะการแพร่ระบาดในภาพรวมเป็นไปในทิศทางบวก โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ
ส่วนขยาย
* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th