บราเดอร์ (brother) ปรับตัวสู่การเติบโต ลั่นปี 63 โตสวนตลาด ตั้งเป้าปี 64 โต 8% ด้วยหลัก Speed & Resilience รับการเปลี่ยนแปลงของตลาด…
brother ลั่นปี 63 โตสวนตลาด ตั้งเป้าปี 64 โต 8% ด้วยกลยุทธ์ เร็ว+ยืดหยุ่น
“ในปีที่ผ่านมาแม้จะต้องเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์ COVID–19 แต่ บราเดอร์ ก็ยังคงสร้างรายได้ให้เติบโตจากปี 2563 ด้วยการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในเวลาอันรวดเร็วอย่างต่อเนื่อง”
ธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นอกจากการใช้กลยุทธ์ 3C ที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับ Customer, Channel และ Company แล้วบราเดอร์ยังได้ปรับรูปแบบการทำงานที่เน้นเรื่อง Speed และ Resilience เข้ามาเสริมด้วย
เพื่อพร้อมทำงานได้อย่างฉับไว สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น เพราะภาพรวมตลาดในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำงานจึงต้องเปลี่ยนรูปแบบสู่ Customize Style มากยิ่งขึ้น

การเรียนรู้ที่จะปรับตัวทำให้วันนี้ บราเดอร์ ผ่านวิกฤติ และสร้างการเติบโตในปีที่ผ่านมาได้สำเร็จ
“วันนี้บราเดอร์ไม่ได้ขายแค่สินค้าเพียงอย่างเดียว แต่เราเปลี่ยนวิธีคิดในการทำธุรกิจโดยหันมานำเสนออาชีพใหม่ที่สามารถสร้างรายได้และเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่อาชีพเดิมของลูกค้าในปัจจุบันด้วยเช่นกัน สิ่งนี้ทำให้เรายังเติบโตได้แม้ต้องเจอกับวิกฤติระดับโลก เส้นเลือดหลักอย่างเครื่องพิมพ์ มีอัตราเติบโตจากการปรับการทำงานสู่โมเดล
Work from Home หรือ Work from Anywhere ทำให้ตลาดต้องการเครื่องพิมพ์ขนาดย่อมลงมาเพื่อให้พนักงานใช้ทำงานได้ที่บ้าน หรือแม้กระทั่งการเรียนออนไลน์ หรือการเกิดใหม่ของธุรกิจขนาดเล็กที่หลายคนไม่คาดคิด ก็ดูเหมือนจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวของตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา” ธีรวุธ กล่าว
“จักรเย็บผ้าก็ถือเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่เป็นที่ต้องการสูงสุดเช่นกัน รวมถึงเครื่องพิมพ์ผ้ารุ่น GTX ที่สร้างอัตราการเติบโตสูงถึง 30% หรือแม้แต่เครื่องเสียงคาราโอเกะ BMB ก็สามารถขยายตลาดสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ ๆ ได้ด้วย นับเป็นอีกก้าวที่ท้าทายที่บราเดอร์ตั้งใจพัฒนาเพื่อเติบโตในตลาดใหม่”
COVID–19 สร้าง Demand ใหม่ บราเดอร์ คาดว่าปี 2564 ตลาดเครื่องพิมพ์ยังคงมียอดขายรวมใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ในปี 2564 คาดว่าภาพรวมตลาดเครื่องพิมพ์จะเติบโตในทุก Segment และอีกหนึ่งสินค้าที่ได้รับอานิสงค์คือ จักรเย็บผ้า ที่มียอดขายสูงขึ้นถึง 20% ในปีงบประมาณ 2563 และอัตราการเติบโตก็ปรับเพิ่มอย่างต่อเนื่องเพิ่มจากการทำหน้ากากผ้ามาเป็นงาน DIY เพื่อจำหน่ายเป็นอาชีพหลักหรือทำเป็นอาชีพเสริม
โดยบราเดอร์จะเน้นเป็นการขายสินค้าในเชิงการลงทุนเพื่อให้เกิดรายได้ ให้ลูกค้าทราบถึงวิธีการทำธุรกิจโดยใช้สินค้าของบราเดอร์ และชี้ช่องทางให้สามารถทำธุรกิจด้วยตนเองเพื่อช่วยลดปัญหาการว่างงานที่เกิดจากวิกฤติ COVID–19 โดยในปี 2564 บราเดอร์จะเน้นสร้างการเติบโตทั้งส่วน Personal use ที่ใช้กลุ่มผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
ของบราเดอร์เพื่อเป็นงานอดิเรกหรือใช้เพื่อทำธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็ก และกลุ่ม Business use ที่นำไปใช้ทำธุรกิจเต็มรูปแบบ โดยจากผลการดำเนินงานที่ชัดเจน และมีเป้าหมายส่งผลทำให้ บราเดอร์ ยังคงสามารถสร้างผลประกอบการได้ตามเป้าหมายแม้ว่าในช่วงจะได้รับผลกระทบบ้างจาก COVID–19
โดยมีรายได้กว่า 12 ล้านบาท ในปี 2020 เติบโตมากขึ้นกว่าปี 2019 ซึ่งปัจจับเสริมที่ทำให้ บราเดอร์สามารถทำได้ ตือการที่คนเริ่มหันมาทำธุรกิจเพื่อเป็นเป็นแหล่งรายได้ที่สองมากขึ้น นอกเหนือจากรายได้ที่มาจากงานประจำ ซึ่งคาดว่าสถาการณ์ดังกล่าวจะยังดำเนินต่อเนื่อง และจะส่งผลทำให้รายได้ของปี 2021 เติบโตอย่างน้อย 8%
เดินหน้าขยายโอกาสทางธุรกิจ พัฒนาความพร้อมของทีมขาย
เพิ่มศักยภาพสินค้าพร้อมนำเสนอ Solution เพื่อพร้อมอยู่เคียงข้างลูกค้าในทุกสถานการณ์
ณเอก สงศิริ รักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของ บราเดอร์ จะประกอบด้วย3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
กลยุทธ์ที่ 1 Expansion ที่มุ่งขยายใน 3 แนวทาง คือ ขยายไปยังกลุ่มธุรกิจ B2B แบบเจาะลึกยิ่งขึ้น ต่อยอดความสำเร็จที่บราเดอร์ทำได้ดีอยู่แล้วให้พัฒนามากยิ่งขึ้นไปอีก โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มธุรกิจ Healthcare, Retail, Logistic และ Finance,
การขยายสู่ตลาดใหม่ ด้วยการนำเสนอให้เห็นถึงประโยชน์ของสินค้าบราเดอร์ที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจของลูกค้าให้เติบโตยิ่งขึ้น อาทิ ธุรกิจด้านการศึกษาที่ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากอดีตสู่การเรียนการสอนรูปแบบใหม่ ทำให้ความต้องการอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งถือเป็นกลุ่มตลาดใหม่ ที่น่าจับตา 3 การนำเสนอ Tailor made solution ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือก Business model ที่ตอบโจทย์ได้สูงสุด

กลยุทธ์ที่ 2 Develop ที่จะพัฒนาใน 3 ส่วน คือ การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการขยายช่องทางการขายใหม่ ๆ โดยจะเน้นให้ความรู้ในการพัฒนาธุรกิจด้าน e–commerce เพิ่มขึ้น รวมถึงการบริหารช่องทางการขายระหว่างออฟไลน์และออนไลน์อย่างเหมาะสมกับแต่ละสภาพตลาด
การนำศักยภาพของผลิตภัณฑ์มาพัฒนาเป็น Solution ใหม่ ๆ นำเสนอสู่ตลาด เช่น Trackmo ซอฟต์แวร์ที่บราเดอร์พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการตรวจสอบทรัพย์สินโดยเพิ่มประสิทธิภาพของ P–Touch ให้เป็นได้มากกว่าเครื่องพิมพ์สติ๊กเกอร์
การพัฒนา Customized service model ปัจจุบันบราเดอร์ได้นำแนวคิด Brother one เข้ามาใช้เพื่อประสานความร่วมมือในการเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าและส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ เพื่อความพึงพอใจสูงสุด
และกลยุทธ์สุดท้ายคือ Communication บราเดอร์ต้องการจะพัฒนาศักยภาพในการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้นเริ่มจาก สื่อสารให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย โดยได้พัฒนา content ที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายเพื่อประสิทธิภาพในการสื่อสาร
สื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายเห็นถึงความพร้อมของบราเดอร์ ที่สามารถส่งมอบบริการได้ตรงตามความต้องการ และ การให้ความสำคัญกับ Customer voice อย่างต่อเนื่อง โดยยึดปรัชญาการดำเนินธุรกิจ “at your side“
เพื่อนำเอาสิ่งที่ได้รับรู้จากตลาดในภาพรวม มาปรับปรุงในทุกส่วนทั้งด้านบริการ ด้านการนำเสนอ Solution ต่าง ๆ ให้ตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น ซึ่งเชื่ออย่างยิ่งว่า หากบราเดอร์สามารถดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์หลักทั้ง 3 ที่วางไว้นี้ จะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแต่นอน
ย้ำภาพเบอร์ 1 ด้านงานบริการ เตรียมนำนวัตกรรมเสริมศักยภาพทีม พร้อมรองรับการเติบโต

วรศักดิ์ ประดิษฐ์กุล ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา แม้บราเดอร์ต้องเผชิญกับสถานการณ์ COVID–19 แต่ทีมบริการก็สามารถส่งมอบบริการคุณภาพแก่ลูกค้าได้ปกติ
เนื่องจากมีการพัฒนาระบบให้รองรับการทำงานแบบ Work from Home นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มบริการผ่าน Live Chat ที่สามารถตอบแชทของได้อย่างรวดเร็ว และให้บริการได้เกินความคาดหมายของลูกค้า สร้างความสะดวกยิ่งขึ้นเสริมจากบริการพื้นฐานของ บราเดอร์ Contact Center ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน
โดย Chatbot ของบราเดอร์ถูกพัฒนาให้สามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างแม่นยำเพื่อใช้เป็นส่วนบริการแรกที่ติดต่อกับลูกค้า หากกรณีที่ลูกค้าขอคำปรึกษามีความซับซ้อน ระบบจะทำการโอนการสื่อสารไปยังพนักงาน บราเดอร์ Contact Center ทันที
โดยในอนาคต บราเดอร์ ต้องการให้ปริมาณการรับบริการผ่าน Chat และ Chatbot มีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นช่องทางที่เข้าถึงง่าย รวดเร็ว และสะดวกสบายกว่า ทั้งยังส่งข้อมูลที่มีความหลากหลายทั้งข้อความ รูปภาพ วิดีโอลิ้งค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งเชื่อว่าหากมีการให้คำแนะนำลูกค้าอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ Chat ratio เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังที่เราตั้งเป้าหมายไว้ ล่าสุด บราเดอร์ ได้ผ่านการรับรองคุณภาพการให้บริการ SQI ระดับ Gold จากสถาบัน Service Quality Institution
และความสำเร็จดังกล่าวจะถูกถ่ายทอดไปสู่ศูนย์บริการแต่งตั้งของบราเดอร์ต่อไป พร้อมพัฒนาศูนย์บริการให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆ ด้านเพื่อก้าวสู่ระดับ Platinum ต่อไป ซึ่งนอกจากจะต้องคงคุณภาพงานบริการให้ได้มาตรฐานอยู่เสมอแล้วนั้น ยังต้องต่อยอดด้วยการนำฐานข้อมูลที่มีมาสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมเพิ่มเติม
เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความเหนือกว่ามาตรฐานบริการทั่วไปที่ได้รับในปัจจุบัน พร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แก่ลูกค้าด้วยการเข้าเยี่ยมเป็นประจำเพื่อนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาในส่วนงานบริการในอนาคต
2564 บราเดอร์ Upgrade คุณภาพงานบริการ พัฒนาบริการใหม่ ๆ ตอบไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบัน

รัสสิญากร ตัณฑวณิชย์ รักษาการผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการลูกค้า บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บราเดอร์ มั่นใจประสิทธิภาพงานบริการในปัจจุบันยังรองรับการขยายตัวทางธุรกิจได้อย่างดีด้วยปริมาณศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 141 แห่ง
ประกอบกับการทุ่มงบประมาณในการวางระบบเทคโนโลยีอันทันสมัย รวมถึงการพัฒนาทักษะด้านงานบริการของทีมเป็นประจำทุกเดือน ทำให้บราเดอร์พร้อมรองรับการเติบโตขององค์กรได้อย่างมีศักยภาพ บราเดอร์ ได้พัฒนา Product ด้านงานบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในช่วงมาตรการ Social Distancing
อาทิ “บราเดอร์ Care Express“ จึงเกิดขึ้นโดยทีมบริการจะเข้าไปรับสินค้าที่ต้องการส่งซ่อม และเมื่อซ่อมเสร็จก็จะส่งคืนให้แก่ลูกค้าเพื่อลดความเสี่ยงช่วง COVID–19 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า รวมถึง บราเดอร์ Care Pack บริการเสริมต่อระยะเวลาดูแลหลังการขาย
เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้าในแต่ละประเภท เพิ่มความมั่นใจยิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า ท่ามกลางกระแสตอบรับจากทั้งกลุ่มลูกค้าองค์กร และลูกค้าทั่วไปสัดส่วนอยู่ที่ 80% และ 20% ตามลำดับ และมีแนวโน้มเติบโตขึ้น โดยในปี 2564 เราจะเพิ่มบริการให้กับลูกค้าที่มาส่งซ่อม และไม่สะดวกในการรับเครื่องกลับด้วยบริการ Delivery
“นอกจากนี้ บราเดอร์ ยังเดินหน้าพัฒนา Chatbot เพื่อพร้อมให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง โดย Chatbot ที่ได้รับพัฒนานั้นจะรองรับได้ทั้งสองภาษา คือ ไทย และอังกฤษ ทั้งยังสามารถ Interface ร่วมกับ Social Media ได้ด้วย เพราะบราเดอร์รองรับการติดต่อจากลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์ต่างกันจึงทำออกมาเพื่อครอบคลุมในทุกช่องทาง เช่น การตอบโทรศัพท์ การตอบอีเมลล์ การตอบแชท เป็นต้น” รัสสิญากร กล่าว
บราเดอร์ ยังได้เพิ่มเติมส่วนงานบริการหลังการขายที่จะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าและกลุ่มลูกค้า เช่น บริการ Manage Print Service (MPS บริการจดมิเตอร์การใช้งานหรือการจัดส่งและเปลี่ยนวัสดุการพิมพ์ (Toner) บริการหลังการขายยังเพิ่มไปที่ไลน์สินค้าอื่น ๆ
อาทิ ชุดเครื่องเสียงคาราโอเกะ BMB และเครื่องพิมพ์ผ้าระบบดิจิทัลรุ่น GTX พร้อมสานต่อโครงการส่งเสริมทักษะอาชีพแก่เยาวชนในโครงการ The Academic Cooperation Program
โดยในปี 2564 ถือเป็นปีที่ 4 ของการจัดทำโครงการดังกล่าว ซึ่งบราเดอร์จะเดินหน้าพัฒนาทักษะในการประกอบอาชีพ เช่น ด้านการซ่อมเครื่องให้แก่เยาวชนให้ได้เกิดประสบการณ์จริงโดยเน้นไปที่กลุ่มอาชีวะเป็นหลัก
เพราะผู้ป่วยมะเร็งรอไม่ได้ บราเดอร์ ปรับรูปแบบงานวิ่งระดมทุนช่วยผู้ป่วย รพ.รามาฯ
ตลอด 7 ปีที่บราเดอร์จัดกิจกรรมวิ่งเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ที่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษามอบแก่มูลนิธิรามาธิบดี ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อทุนมะเร็งโลหิตวิทยาผู้ใหญ่ โรงพยาบาลรามาธิบดี เงินสนับสนุนดังกล่าวสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ถึง 428 ราย และจากจุดเริ่มที่นำทุนดังกล่าวไปใช้ในการซื้อยาเพื่อใช้ในการรักษา ปัจจุบันได้ขยายผลไปถึงการเปลี่ยนถ่ายไขกระดูกให้แก่ผู้ป่วย 3 ราย

พรภัค อุไพศิลป์สถาพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเงิน และธุรการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่ได้รับการสนับสนุนทุนช่วยเหลือมาร่วมวิ่งต้านมะเร็งร่วมกับเรา ทำให้บราเดอร์รู้ว่าวันนี้เราเดินมาถูกทาง เราสามารถสร้างให้คนตระหนักอย่างลึกซึ้งที่จะเป็นหนึ่งในผู้ให้เพื่อมอบโอกาสในการมีชีวิตให้แก่คนอีกหลายคนบนโลกใบนี้ที่แถบไม่เหลือความหวัง
บราเดอร์ประเทศไทยคว้ารางวัล Environment Award 2020 จากโครงการ “บราเดอร์อาสาอนุรักษ์ และฟื้นฟูธรรมชาติป่าชายเลน” ต่อเนื่องตลอด 11 ปี จากสำนักงานใหญ่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมเดินหน้าสู่ Green Office หรือสำนักงานสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2563 สามารถคว้ารางวัล Silver Award มาครองได้สำเร็จ พร้อมกำหนดเป้าหมายในปี 2564 ด้วยการคว้ารางวัล Gold Award
สิ่งแรกที่บราเดอร์ทำมาตลอดคือการปลูกจิตสำนึกของคนในองค์กรให้เห็นถึงความสำคัญของสังคมและสิ่งแวดล้อม และเดินหน้าเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่การเป็น Green Office สร้างให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมในสำนักงาน เพื่อลดการใช้พลังงาน และริเริ่มกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เช่น ลดปริมาณขยะโดยการลดการใช้ การใช้ซ้ำ การนำกลับมาใช้ใหม่ การลดและเลิกใช้สารเคมีอันตราย รองรับการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Procurement) จะส่งผลให้เกิดการลดการปล่อย Green House Gases (GHG) ในทุกภาคส่วน และตลอดห่วงโซ่การผลิตและการบริโภค อันนำไปสู่การผลิต และบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
สำหรับแผนการก้าวสู่การเป็น Green Office ขององค์กร เราจำสานต่อด้านการส่งเสริมจิตสำนึกสาธารณะแก่พนักงาน บราเดอร์ขึงเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการนำเสนอโครงการเพื่อสังคมใหม่ ๆ สร้างความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และหากผ่านการพิจารณาบริษัทฯ ก็จะสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้พนักงานได้นำไปทำกิจกรรมตามรายละเอียดโครงการ
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th