Canon รุกตลาดกล้องมิเรอร์เลส เปิดตัว EOS R7 และ EOS R10

Canon

แคนนอน (Canon) รุกตลาดกล้องมิเรอร์เลสเต็มสูบ เปิดตัว EOS R7 และ EOS R10 เสริมทัพด้วยเลนส์ Canon RF-S อีก 2 รุ่น พร้อมเผยราคาในไทยอย่างเป็นทางการ…

Canon รุกตลาดกล้องมิเรอร์เลส เปิดตัว EOS R7 และ EOS R10 พร้อมเลนส์ Canon RFS อีก 2 รุ่น

Canon

แคนนอน (Canon) ตอกย้ำบุกตลาดกล้องมิเรอร์เลสเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์กล้องใหม่พร้อมกันถึง 2 รุ่น ได้แก่ EOS R7 และ EOS R10 ที่ได้รับการส่งต่อเทคโนโลยีระบบโฟกัสจาก EOS R3 โดย EOS R7 มอบประสิทธิภาพสูงด้วยความละเอียดภาพ 32.5 ล้านพิกเซล

พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้อง (In-Body Image Stabilization) มั่นใจในการทำงานภาคสนามด้วยการซีลป้องกันฝุ่น และละอองน้ำ ส่วน EOS R10 มาพร้อมลูกเล่นฟังก์ชันใหม่ที่ให้ผู้ใช้ทำงานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น อาทิ โหมดพาโนรามา โหมด Focus bracketing ในตัวกล้อง โหมดแพนนิ่ง และแฟลชในตัว

รูปทรงเล็กกะทัดรัด มอบความคล่องตัวในการใช้งาน นอกจากนี้แคนนอนยังเปิดตัวเลนส์ใหม่พร้อมกันอีก 2 รุ่น ได้แก่ RFS 1845mm f/4.56.3 IS STM และ RFS 18150mm f/3.56.3 IS STM เลนส์รุ่นเริ่มต้น เพื่อเติมเต็มประสิทธิภาพให้กับกล้องมิเรอร์เลสระบบ EOS R พร้อมน้ำหนักที่เบากว่า พกพาใช้งานง่าย

Canon
มร.ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด

มร.ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า แคนนอนถือเป็นสัญลักษณ์แห่งมาตรฐานระดับสูงของวงการกล้องถ่ายภาพระดับโลกมายาวนาน และบริษัทฯ เพิ่งจะฉลองครอบรอบ 35 ปี ของระบบ EOS ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา  

แคนนอนมีการพัฒนา และขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันระบบ EOS มีผลิตภัณฑ์กล้องทั้งหมด 21 รุ่น รวมถึงเลนส์ RF และ EF มากถึง 104 รุ่น ครอบคลุมทุกความต้องการทั้งการบันทึกภาพนิ่ง วิดีโอ หรือแม้แต่คอนเทนต์ภาพถ่ายเสมือนจริง และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเสมอมา

จนทำให้เรามียอดการผลิตเลนส์ แคนนอน ตระกูล RF และ EF ครบ 150 ล้านชิ้นเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา แคนนอนคือหนึ่งในแบรนด์กล้องถ่ายภาพที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของโลก โดยเราสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มผลิตภัณฑ์กล้องดิจิทัลแบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ต่อเนื่องมายาวนานถึง 18 ปี

นับตั้งแต่ปี 2546  แคนนอนจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีด้านภาพแบบครบวงจรอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้ผู้ใช้งานชาวไทย และทั่วโลก ได้สัมผัสกับประสบการณ์การถ่ายภาพอันยอดเยี่ยมและได้ภาพถ่ายคุณภาพสูง รวมถึงการมุ่งมั่นขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในระบบ EOS R อย่างต่อเนื่อง

เราเชื่อมั่นว่ากล้อง แคนนอน EOS R7 และ EOS R10 รวมถึงเลนส์ซีรีส์ RFS รุ่นใหม่นี้จะสามารถตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่แตกต่างกันได้อย่างครอบคลุม และช่วยให้ผู้ใช้งานสัมผัสได้ถึงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของระบบ แคนนอน EOS R

Reimage Optical Excellence

Canon
เนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการ กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด

เนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการ กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวเสริม แคนนอน เปิดตัวระบบ EOS เมื่อปี 2530 ตามปรัชญาการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพที่มอบความเร็ว ความง่าย และให้ภาพถ่ายคุณภาพสูง

เราได้ก้าวเข้าสู่ตลาดกล้องมิเรอร์เลสอย่างจริงจังโดยวางจำหน่ายกล้องตระกูล EOS R ในปี 2561 ภายใต้แนวคิด Reimage Optical Excellence ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย โดยกล้อง แคนนอน รุ่น EOS R3 ได้รับรางวัล Best Camera Innovation

ส่วนรุ่น EOS R5 C สามารถคว้ารางวัล Best Professional 8K Hybrid Camera ในขณะที่เลนส์ RF1435mm f/4L IS USM และ RF100mm f/2.8L Macro IS USM ก็ได้รับรางวัล Best Full Frame Wide Angle Zoom Lens และ Best Macro Lens ด้วยเช่นกัน

Canon

สำหรับแผนการพัฒนาธุรกิจในปี 2565 นี้ แคนนอนก้าวไปอีกขั้นด้วยการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ในระบบ EOS R โดยเฉพาะกล้องมิเรอร์เลสที่ใช้เซ็นเซอร์ APSC ที่มอบประสิทธิภาพทั้งในเรื่องของความเร็ว การถ่ายภาพต่อเนื่อง และการบันทึกภาพเคลื่อนไหวคุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่แตกต่างกันได้อย่างครอบคลุม

โดยในการเปิดตัวครั้งนี้นำทัพโดยกล้อง EOS R7 ซึ่งเป็นพระเอกของงาน ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานกล้องแบบจริงจังซึ่งต้องการกล้องประสิทธิภาพสูง สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง และมีระบบออโต้โฟกัสที่รวดเร็วแม่นยำ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวทั้งกีฬา ยานยนต์ นก และสัตว์ป่า

Canon

โดยสื่อโฆษณาหลักของ EOS R7 มีการนำเสนอภาพของ แรปเตอร์ (Raptor) นกนักล่าที่เปี่ยมด้วยสัญชาตญาณแห่งพลังความเร็ว และความแม่นยำในการโฉบจับเหยื่อ สื่อถึงความเร็วในการจับโฟกัสที่แม่นยำ และการถ่ายภาพต่อเนื่องของ EOS R7

สามารถถ่ายภาพที่ความละเอียด 32.5 ล้านพิกเซล ได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 30 เฟรมต่อวินาที และนอกจากนี้ ตัว R ของ Raptor ก็ยังสอดคล้องกับความเป็นกล้องในตระกูล EOS R Series ของแคนนอนอีกด้วย

“ส่วนกล้อง แคนนอน EOS R10 เน้นกลุ่มผู้ใช้งานกล้องมือใหม่ที่ต้องการภาพถ่ายคุณภาพสูง น้ำหนักเบา และมีฟีเจอร์อัตโนมัติที่ช่วยในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ด้วยโหมด SCN แบบใหม่ ทั้งโหมดการถ่ายภาพแบบพาโนรามา, โหมด Focus bracketing ในตัวกล้อง และโหมดแพนนิ่งเพื่อให้ผู้ใช้สามารถแพนภาพได้สวยงาม

ดุจมืออาชีพ และยังมีฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอแนวตั้ง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักสร้างวิดีโอคอนเทนต์บนโซเชียลเน็ตเวิร์คอีกด้วย เลนส์ทั้งสองรุ่นถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเลนส์รุ่นเริ่มต้นสำหรับผู้ใชกล้องในระบบ EOS R ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Canon

โดยเลนส์ RFS 1845mm F/4.56.3 IS STM เป็นเลนส์ซูมมาตรฐานที่ให้มุมมองกว้าง เหมาะสำหรับการเก็บภาพประทับใจในชีวิตประจำวัน ในขณะที่เลนส์ RFS 18150mm F/3.56.3 IS STM เป็นเลนส์เพื่อการเดินทางแบบอเนกประสงค์ ครอบคลุมทั้งการถ่ายภาพในชีวิตประจำวัน และถ่ายภาพในระยะไกล เช่น การภาพวิวทิวทัศน์ เกมกีฬา นก และภาพสัตว์ป่า”

ทั้งนี้ แคนนอนวางแผนจัดโปรโมชั่นฉลองการเปิดตัวกล้อง แคนนอน EOS R7 และ EOS R10 รวมถึงเลนส์ Canon RFS อีกหลายรายการ เพื่อมอบความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าแคนนอนมากที่สุด ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์

เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการถ่ายภาพให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนและทำให้แบรนด์แคนนอนใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น อาทิ กิจกรรม First Touch on Tour,  EOS on Air, EOS Academy และอื่น ๆ รวมถึงการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของพันธมิตรคู่ค้าในประเทศไทย

Canon

ราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย
  • แคนนอน EOS R7 เฉพาะตัวกล้อง 49,900 บาท
  • แคนนอน EOS R7 ชุดพร้อมเลนส์ RFS18150mm f/3.56.3 IS STM 64,900 บาท
  • แคนนอน RFS1845mm f/4.56.3 IS STM 11,990 บาท
  • แคนนอน RFS18-150mm f/3.56.3 IS STM 19,390 บาท

สำหรับกล้อง แคนนอน EOS R10 จะประกาศราคา และเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยประมาณปลายเดือนกรกฎาคม 2565

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th