JMART สร้างประวัติศาสตร์ นำระบบ e-Voting ผ่าน Blockchain ใช้ครั้งแรกในประเทศไทย โชว์ต้นแบบการพิสูจน์ตัวตนด้วย Digital ID นำร่องใช้ในงานประชุมผู้ถือหุ้น…
highlight
- กลุ่มเจมาร์ท โดย JMART JMT และ J โชว์เหนือ พัฒนาแพลตฟอร์มการจัดประชุม และการลงคะแนนโหวต โดยใช้ระบบ e-KYC บนมาตรฐานของ NDID Platform และนำ e-Voting ผ่านระบบ Blockchain มาใช้ครั้งแรกในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นของกลุ่มบริษัทฯ รวมทั้ง การพิสูจน์ตัวตนโดยใช้ Digital ID เกิดขึ้นจริงแล้วที่นี่ ยกระดับมาตรฐานการประชุมผ่านออนไลน์และการโหวตลงคะแนนเสียงที่มีความแม่นยำ โปร่งใส ปลอดภัยสูง แม่ทัพใหญ่หวังเห็นการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้ในระดับประเทศ ครั้งนี้เจมาร์ทนำร่องใช้งาน เชื่อจะเป็นมาตรฐานและตัวอย่างที่ดี เป็นอีก New Normal ของการจัดประชุมในอนาคต
JMART ล้ำเดินหน้าใช้ระบบ e–Voting ผ่าน Blockchain เพื่อพิสูจน์ตัวตน
อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะโฮลดิ้ง คอมพานี ที่ลงทุนในธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจการเงิน เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทฯ มีความยินดีที่เราได้ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาช่วยในสถานการณ์โควิด-19 และอาจจะเป็น New Normal ของการประชุมผู้ถือหุ้น และการประชุมอื่น ๆ
ที่อาจจะครอบคลุมไปถึงการโหวตในเรื่องอื่น ๆ ยกระดับประเทศไทยในเรื่องการโหวตออนไลน์ หรือ e–Voting ที่มีความเสถียร แม่นยำ ประหยัด ตรวจสอบได้ และเชื่อถือได้ ครั้งนี้จึงเป็นความท้าทายที่กลุ่มเจมาร์ทอยากจะเห็นประสิทธิภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่จะเข้ามาช่วยในการทำงาน
โดยการพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดงานประชุมผู้ถือหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์บนเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นรายแรกของประเทศ (Blockchain AGM Voting) โดยบริษัทย่อย บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด เป็นผู้พัฒนา และเป็นต้นแบบในการจัดประชุมและการโหวตผ่านออนไลน์ให้มีมาตรฐาน และการยอมรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยปกติเรื่องของการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e–KYC แบงก์จะใช้สำหรับการเปิดบัญชี บนมาตรฐานระบบการเก็บข้อมูลตัวตนอิเล็คทรอนิกส์ระดับประเทศ (NDID) ซึ่งวันนี้เราพัฒนาระบบ e–KYC ด้วยมาตรฐานเดียวกันมาใช้ในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นแบบออนไลน์
รวมถึงการ e–Voting บนเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่ผมยังไม่เห็นว่าวันนี้ใครมีระบบนี้ และนำมาใช้ได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม การประชุมผู้ถือหุ้นของกลุ่มเจมาร์ทในครั้งนี้ จึงถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่มีการโหวตบนเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นครั้งแรกของประเทศ
ด้าน ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (J Venture) เปิดเผยว่า การประชุมอิเล็กทรอนิกส์กฎหมายออกมารองรับแล้ว จึงนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการยืนยันตัวตนที่ถูกต้อง ดังนั้น กระบวนการในการยืนยันตัวตนด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e–KYC จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ
และเป็นครั้งแรกที่มีการนำเรื่องของ e–KYC บนพื้นฐานการยืนยันตัวตนบน NDID Platform มาใช้นอกแบงก์เป็นครั้งแรกโดยกลุ่มเจมาร์ท รวมทั้ง การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลหรือ Digital ID และการพัฒนาระบบ e-Voting มาใช้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย
ด้วยคอนเซ็ปต์ Proving identity voting การโหวตที่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้จริง ๆ Vote at Anywhere สามารถโหวตที่ไหนก็ได้ และ Immutable by Blockchain ข้อมูลเหล่านั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือดัดแปลงได้ ด้วยมาตรฐานการเก็บบนเทคโนโลยีบล็อกเชน
นับเป็นการสะท้อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศไทย ที่เริ่มเปลี่ยนเข้าสู่ระบบดิจิทัล จากรูปแบบเดิมที่ต้องใช้เอกสาร (Digital original vs Document original) โดยระบบสามารถเข้าใจและเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้งานได้ (Treat me as a person) ทั้งหมดนี้
คือเรื่องของ Digital ID เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเชื่อมต่อการยืนยันตัวตนจากทุกภาคส่วนเข้ามาไว้ด้วยกันบนโลกออนไลน์ และเกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มที่กลุ่มเจมาร์ทพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
“เจเวนเจอร์ส มีความตั้งใจที่จะเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งานในกลุ่มเจมาร์ทให้เป็นรูปธรรม และเทคโนโลยีการจัดประชุมผู้ถือหุ้น ก็เป็นครั้งที่ 2 ที่ประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาจาก ICO แล้วยังคงมีความตั้งใจที่จะทำ Digital transformation ให้กับทางกลุ่มต่อไป”
สำหรับแพลตฟอร์มการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ Blockchain AGM Voting ของกลุ่มเจมาร์ท ที่นำมาใช้งานในช่วงที่ผ่านมา ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ คือ ระบบการประชุมทางไกล “e–Meeting” ผ่านโปรแกรม Microsoft Team
ภายใต้ พ.ร.ก. การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ 2563 ระบบยืนยันตัวตน “e–KYC” บนมาตรฐานของ NDID Platform ที่บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด เป็นผู้ให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตน หรือ Identity Provider (IdP) ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับธนาคารใช้งาน
และอยู่ภายใต้มาตรฐานของ ETDA และ ระบบ “e–Voting” การโหวตออนไลน์บนเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นรายแรกของประเทศ โดยบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน), บริษัท บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) (JMT)
และ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) (J) ใช้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ในช่วงที่ผ่านมา นำร่องกลุ่มธุรกิจไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัล และสามารถก้าวทัดเทียมระดับสากล
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th