ไลน์ ประเทศไทย ประกาศหนุน LINE API ช่วยนักพัฒนาต่อยอดใช้งานจริง

ไลน์ ประเทศไทย จัดงาน LINE Thailand Developer Conference 2020 พร้อมประกาศหนุน LINE API ช่วยนักพัฒนาต่อยอดใช้งานจริงอัปเดทครบ Massaging API และ LIFF ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น…

highlight

  • ไลน์ ประเทศไทย เสริมแกร่ง ไลน์ API Ecosystem จัดงาน ไลน์ Thailand Developer Conference 2020 ประจำปีในรูปแบบออนไลน์รับชมได้ทั่วถึง ภายใต้แนวคิด “ไลน์ API in Action” ที่เน้นให้นักพัฒนาหยิบ ไลน์ API ไปต่อยอดใช้งานจริง
  • ชูฟีเจอร์ใหม่ Massaging API เปลี่ยนรูปภาพและชื่อแอคเคาท์เนม สลับระหว่างแชทบอท และแอดมินเติมเต็มผู้ใช้ได้ดีขึ้น ย้ำดาวรุ่งปีนี้คือ LIFF (LINE Front-end Framework) ที่จะสามารถนำไปใช้งานนอกแอป ไลน์ ได้แล้ว ขณะที่อุปกรณ์ ไลน์ Beacon สำหรับ SME จะพร้อมวางจำหน่ายในเร็วๆนี้

ไลน์ ประเทศไทย ประกาศหนุน LINE API ช่วยนักพัฒนาต่อยอดใช้งานจริง

วีระ เกษตรสิน Head of Engineering บริษัท ไลน์ ประเทศไทย กล่าวในงาน ไลน์ Thailand Developer Conference 2020 ว่าทีมวิศวกรของบริษัท ไลน์ ประเทศไทยรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ทำให้งานประชุมปีนี้เกิดขึ้นได้ เพราะสถานการณ์โรคระบาดโควิค-19 ได้เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต

และการดำเนินธุรกิจของทุกคน เมื่อต้องออกจากกรอบความคิดเดิม และข้อจำกัดที่มี ทำให้สามารถมองหาวิธีการแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ใหม่ๆ รูปแบบงานในปีนี้จึงพลิกโฉมประสบการณ์จากงาน ไลน์ Thailand Developer Conference ในประเทศไทยไปอย่างสิ้นเชิง

เพราะทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับงานจากที่ใดก็ได้บนโลกใบนี้ ปัจจุบัน ไลน์ Developer community มีการเติบโตที่ดีมาก วันนี้ จำนวนนักพัฒนาใน community มีมากกว่า 17,000 คน จากปีที่แล้วอยู่ที่ 8,000 คน เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวภายในเวลาเพียง 1 ปีเท่านั้นเอง

LINE

ต้องขอขอบคุณทีม Developer Relations กลุ่ม ไลน์ AI Expert และนักพัฒนาทุกคนที่ร่วมกันสร้างสรรค์และผลักดันการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี ไลน์ API มีฟีเจอร์ใหม่เปลี่ยนแปลงหลายจุดเพื่อให้นักพัฒนาสามารถนำไปต่อยอดในบริการของตัวเอง

จำนวนนักพัฒนาที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้จำนวนแชทบอทบน ไลน์ เติบโตขึ้นเช่นกัน โดยปัจจุบัน ไลน์ มีแชทบอทรวม 130,000 ตัว เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ใน 1 วัน มีผู้ใช้งานแชทบอทบน ไลน์ มากกว่า 43 ล้านข้อความ

และ LIFF app (LINE Front-end Framework) มีจำนวนเกิน 5,500 แอป ส่งให้ยอดผู้ใช้งาน LIFF app เพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านคนต่อวัน

 

สำหรับไฮไลท์ของ Messenger API ที่ ไลน์ อัปเดทภายในงาน คือการเพิ่มความสามารถที่จะเปลี่ยนไอคอน และชื่อแอคเคาท์เนมของออฟฟิศเชียลแอคเคาท์หรือแชทบอทได้อย่างเสรี ทำให้ลูกค้าองค์กรแถวหน้าของไทย อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ สามารถนำ Live Agent

หรือทีมงานคนเข้ามาร่วมให้บริการกับแชทบอทบน SCB Connect เพื่อให้สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพราะการเปลี่ยนรูปภาพและชื่อแอคเคาท์สลับระหว่างแชทบอทและแอดมินได้อย่างลงตัว ทำให้ธนาคารสามารถนำแชทบอทมาให้บริการได้อย่างประหยัดค่าใช้จ่าย และทำงานได้ 24 ชั่วโมง

LINE

โดยที่ลดปัญหาลูกค้ารู้สึกว่าแชทบอทไม่ฉลาดเพราะตอบคำถามผิดพลาด อีกทั้ง ทีม KBTG จากธนาคารกสิกรไทย ที่พัฒนาแชทบอท ขุนทอง ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญเรื่องการสร้างแชทบอทในกลุ่ม ไลน์ เป็นการพัฒนา ไลน์ API ที่ตรงใจผู้ใช้ได้อย่างโดดเด่นเพราะผู้ใช้ไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน

และสามารถใช้ ไลน์ LOGIN เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นผุ้ใช้ที่มาจาก ไลน์ จริง ขณะที่ API ของ ไลน์ ไม่เพิ่มต้นทุนให้บริการ ฟีเจอร์อื่นที่มีการอัปเดทคือ ไลน์ Emoji ที่เปิดให้นักพัฒนาสามารถที่ส่งอิโมจิน่ารักผ่านข้อความที่เป็น Text Massage ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องแปลงเป็นโค้ด

เพราะสามารถกำหนด Emoji ID แล้วแนบไปกับข้อความเพื่อส่งไปหาผู้ใช้ได้เลย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่เปิดให้นักพัฒนารู้ว่าผู้ใช้ใช้งานภาษาอะไร ทำให้ส่ง Rich Menu ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

สนับสนุนนักพัฒนาให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าเดิม

 

ไลน์ ยังเพิ่ม Narrowcast API ให้นักพัฒนาส่งข้อความถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าเดิม สามารถเลือกส่งเฉพาะกลุ่มคนที่เคยเห็นข้อความก่อนหน้านี้เท่านั้น รวมถึง Multicast API ที่ปลดล็อคจากก่อนหน้านี้ที่สามารถส่งหาผู้ใช้ได้สูงสุด 150 คน มาเป็นการส่งได้สูงสุด 500 คนต่อ 1 รีเควสท์

และสำหรับ Rich Menu ที่นิยมมากในผู้ใช้ ไลน์ Official Account การอัปเดททำให้ Official Account สามารถเปลี่ยนแปลง Rich Menu ด้วย API พร้อมกันสูงสุด 500 คน จากเดิมที่ทำได้ 150 คน ตอบโจทย์ Official Account ที่มีผู้ใช้จำนวนมาก 

เพื่อให้เห็นถึงความตั้งใจสูงสุดของไลน์ที่ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย ไลน์ ได้เพิ่มความปลอดภัยให้องค์กรสามารถกำหนดอายุการใช้งาน Chanel Access Token ซึ่งเป็นเหมือนกุญแจสำคัญในการใช้ ไลน์ Messaging API ได้ดั่งใจ ขณะเดียวกันก็ปรับปรุง XLineRetryKey

แก้ปัญหา และลดข้อผิดพลาดในการส่งข้อความซ้ำ รวมถึง 2 Webhook Event ใหม่คือ Unsend Event ที่สามารถตรวจจับว่าผู้ใช้รายใดกดยกเลิกส่งข้อความหรือ unsend ในกลุ่มหรือห้องที่มีแชทบอทอยู่

และ Video Viewing Complete Event ที่สามารถตรวจจับผู้ใช้ที่ดูวิดีโอจบ ทำให้นักการตลาดสามารถส่งข้อความกลับไปพูดคุยต่อยอดกับผู้ใช้ รวมถึงสามารถวัดผลการชมวีดีโอจบได้

อีกส่วนที่ได้รับการกล่าวถึงอย่างมากในงาน คือ Flex Massage ที่นักพัฒนาสามารถออกแบบข้อความได้ตามจินตนาการ แล้วจึงส่งให้ผู้ใช้ทั้งทางโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต รวมถึง PC จากปี 2019 ที่มีการอัปเดทให้สามารถขยายข้อความเต็มหน้าจอ

ล่าสุดการอัปเดทในปี 2020 คือการทำแอนิเมชันในข้อความได้ และเครื่องมือล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2019 ในปีนี้ LIFF หรือ ไลน์ Front-end Framework ถูกปรับให้สามารถนำแอปไปใช้นอกแอป ไลน์ ได้ ขณะเดียวกันก็อัปเดทให้การแชร์ข้อความจาก LIFF app บน ไลน์ ไปหากลุ่มเพื่อนผู้ใช้สามารถทำได้อย่างง่ายดาย

LINE

และสะดวกสบายขึ้น โดยที่ระบบสามารถทราบได้ว่าการแชร์ข้อความนั้นสำเร็จหรือไม่ อีกทั้ง ดาวรุ่งอย่าง LIFF ยังถูกปรับความสะดวกสบายในด้านการเทสต์หรือการทดสอบด้วย โดย ไลน์ มีการเปิดคอร์สเรียน LIFF ฟรี คู่กับการเปิดตัว ไลน์ Developers Codelabs เป็นพื้นที่ใช้ทุกคนฝึกพัฒนา 3 ทักษะทั้ง LIFF app, ไลน์ Chatbot และ Flex Simulator สามารถติดตามที่ https://codelabs.line.me

ที่ถือเป็นไฮไลท์สำหคัญ สำหรับผู้ประกอบการ SME คือ การประกาศเปิดตัว ไลน์ Beacon สำหรับ SME เพื่อให้ธุรกิจขนาดย่อมสามารถซื้อฮาร์ดแวร์สำหรับปล่อยสัญญาณบลูทูธ แล้วนำมาติดหน้าร้าน เมื่อลูกค้าที่ใช้ ไลน์ ซึ่งเปิด Bluetooth และโหมด ไลน์ Beacon เดินผ่านมา

ก็จะสามารถรับข้อความหรือโปรโมชันจากร้านได้ เบื้องต้นตัวอุปกรณ์กำลังเตรียมวางจำหน่ายในเร็ววันนี้ ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารระหว่างร้านค้าและลูกค้าเป็นไปปย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนั้น ภายในงาน ยังมีการเปิดตัวโครงการ LINE_HACK 2020 โดยประกาศรับสมัครผู้ที่สนใจนำ API ของ ไลน์ไปพัฒนาแล้วนำมาแสดงให้สาธารณชนได้รู้จักในเร็ววันนี้ (hackth.line.me

ไลน์ ยังคงตอกย้ำพันธกิจ CLOSING THE DISTANCE เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทุกคนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมไปถึงการนำพาทุกคนไปใกล้กับบริการ และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อชีวิตที่ง่าย และสะดวกสบายยิ่งขึ้นต่อไป

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th