เอ็นทีที (NTT) เปิดตัวบริการใหม่ล่าสุดซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐาน (Software Defined Infrastructure) เพิ่มความยืดหยุ่นให้ธุรกิจในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน…
highlight
- เอ็นทีที ประกาศเปิดตัวบริการใหม่ล่าสุด Software Defined Infrastructure services เพื่อเสริมศักยภาพการให้กับบริ
การที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิ ภาพมากยิ่งขึ้น โดยการย้ายโครงสร้างพื้นฐานไปสู่ การทำงานบนระบบซอฟต์แวร์ หรือ Software Defined Infrastructure (SDI) ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ขับเคลื่ อนจากความต้องการทางธุรกิจ เพื่อลดระยะเวลาให้เกิดความคุ้ มค่า ช่วยลดต้นทุน รวมถึงช่วยให้การขยายตัวของธุ รกิจหรือปรับลดขนาด ได้ตามที่ต้องการ
NTT เปิดตัวบริการ Software Defined Infrastructure หวังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ธุรกิจ
Bill Padfield รองประธานอาวุโส ฝ่ายทรานสฟอร์มเมชั่นและบริการด้านแพลตฟอร์มของ เอ็นทีที กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ กลุ่มธุรกิจจำนวนมากต่างต้องการความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ SDI services จึงเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการนี้แต่พบว่าองค์กรธุรกิจยังขาดทักษะที่จำเป็น
และความเชี่ยวชาญในการใช้งาน SDI services ด้วยบริการ SDI Services, หรือบริการซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐาน (Software Defined Infrastructure) ซึ่งเป็นบริการใหม่ล่าสุดของเรา จะทำให้องค์กรต่าง ๆ ได้รับประโยชน์ได้อย่างเต็มที่จากการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที
ที่กำหนดการทำงานด้วยระบบซอฟต์แวร์ (software-defined) และโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่โปรแกรมได้ (programmable infrastructure) โดยเราให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญและด้วยทักษะที่จำเป็นต่อการจัดการระบบ เช่น ระบบอัตโนมัติ (automation) และระบบควบคุมระบบอัตโนมัติ (orchestration) เป็นต้น
บริการ SDI ของ เอ็นทีที จึงเป็นทางเลือกใหม่ในการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีโดยใช้การเฝ้าระวังระบบทางไกลรูปแบบใหม่ (telemetry) และการบริหารจัดการข้อมูล (service management data)
เพื่อให้องค์กรต่าง ๆ มีความยืดหยุ่นต่อการนำการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้สอดคล้องกับธุรกิจ และรายได้ขององค์กร โดยได้เสนอบริการ 4 รูปแบบ ดังนี้
- การบริหารจัดการระบบ Lifecycle (Lifecycle Management) ง่าย และยืดหยุ่นต่อการจัดการอุปกรณ์ IT : ทำให้เรื่องการจัดการอุปกรณ์ IT เป็นเรื่องง่าย ในการทำให้อุปกรณ์ทำงานบน software version ล่าสุดเพื่อให้สอดคล้องตามข้อบังคับขององค์กร (compliance) โดยผ่าน Digital Wallet ของเรา โดยที่การให้บริการนี้ประกอบไปด้วย :
- มีความปลอดภัยด้วยระบบการลงชื่อครั้งเดียว (single sign-on) ผ่านช่องทาง User experience Portal ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว และกำหนดสิทธิการเข้าใช้บริการ
- Digital Wallet สามารถเก็บข้อมูล license ได้ทั้งแบบซื้อขาด (perpetual licenses) และ แบบต่ออายุการใช้งาน (subscription software) ด้วยการนำเสนอมุมมองที่รวบรวมจากผู้ขาย (vendor) ต่างๆ โดยใช้บัญชีอัจฉริยะ (smart accounts) เพื่อให้ข้อมูลมีความครบถ้วน
- จัดแสดงข้อมูลการใช้งาน licenses ณ ปัจจุบัน ข้อมูลการสั่งซื้อ และข้อมูลที่ถูกใช้งานจริง
- ให้บริการปรับเปลี่ยนตามความต้องการผ่านการดำเนินการของ เอ็นทีที (MACD) ในการปรับเพิ่มหรือลด ได้ตามความต้องการทางธุรกิจ
- การปรับเปลี่ยนระบบตามนโยบาย และข้อบังคับขององค์กร (Policy Deployment and Compliance) ที่รวดเร็วต่อการปรับเปลี่ยนระบบทันต่อความต้องการ : เพื่อให้การให้บริการจากหลากหลายผู้ให้บริการ (multivendor) มีความสอดคล้องกันทั้งในด้านการออกแบบระบบ และการกำหนดชุดคำสั่งลงไปในอุปกรณ์ ในการช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมการลงทุนระบบ SDI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริการนี้ประกอบไปด้วย :
- การตรวจสอบระบบตลอดเวลา และการจัดการระบบด้วยวิธีอัตโนมัติกับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (infrastructure management)
- ระบบควบคุมจัดการการเพิ่มอุปกรณ์ใหม่ในระบบ และการควบคุมตามข้อบังคับขององค์กร เพื่อจัดการให้ระบบมีความสอดคล้องกับนโยบายองค์กร
- ใช้การปรับเปลี่ยนระบบตามข้อกำหนด (Use case deployment framework) สำหรับมาใช้ในการปรับเปลี่ยนระบบตามเงื่อนไขต่างๆดังนี้ ข้อแนะนำเชิงกลยุทธ (strategic guidance) ข้อแนะนำการปฏิบัติงาน (best practices) ตรวจสอบการออกแบบ (validate design) ตรวจสอบกระบวนการทำงาน (proven processes) และ ให้คำแนะนำการปรับเปลี่ยนระบบ (recommended adjustments)
- การบริหารจัดการเชิงรุก (proactive management) สำหรับส่วนควบคุม (controller) อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ (hardware) ซอฟต์แวร์ (software) และคำสั่งควบคุมอุปกรณ์ตามมาตราฐาน (configuration standards)
- การสนับสนุนการการดำเนินการ (Assurance and Operations Support) เพื่อเพิ่มให้ผลลัพธ์ในการดำเนินการดีขึ้น (KPIs) : ลดภาระการบริหารจัดการในการดำเนินการจากพนักงานขององค์กร และรวมไปถึงภาระการเฝ้าระวังตรวจสอบระบบด้วยการเฝ้าระวังระบบทางไกลรูปแบบใหม่ (telemetry) การจัดการการเปลี่ยนแปลงระบบ (change management) เพื่อทำการ patching ระบบ การจัดการปัญหา (problem management) เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา และการจัดการตามข้อบังคับขององค์กร (compliance management) โดยการนำระบบอัจฉริยะ (digital intelligence) ระบบอัตโนมัติ (automation) และระบบควบคุมระบบอัตโนมัติ (orchestration) มาใช้ในการดำเนินการในระบบการให้บริการของ เอ็นทีที โดยบริการนี้ประกอบไปด้วย :
- ใช้การเชื่อมต่อมายังศูนย์กลางที่ใช้ศูนย์ให้บริการกลางที่จะมีประสบการณ์ในการให้บริการที่ใช้ระบบอัตโนมัติในการควบคุม และรูปแบบการให้บริการที่มีความแน่นอน (assurance model)
- ลดความซับซ้อนของระบบเครือข่ายโดยการนำเทคโนโลยีการจัดการการเชื่อมต่อระบบ และระบบอัตโนมัติในการดำเนินการระบบเครือข่ายมาใช้งาน
- มีทีมปฎิบัติการ Dev Ops ที่จะสามารถช่วยให้คาดการณ์ปัญหาล่วงหน้าแล้วนำมาสู่การป้องกันก่อนการเกิดปัญหา และมีผลกระทบต่อธุรกิจ
- การจัดการตอบแทนทางธุรกิจ (Business outcome management) ช่วยปรับปรุงให้ผลิตผลทางธุรกิจมีความเหมาะสม : เป็นการจัดการอุปกรณ์ IT จากหลากหลายผู้ให้บริการ (multivendor) เพื่อปรับปรุงการดำเนินการ โดยให้คำแนะนำในการจัดซื้อซอฟแวร์ที่เหมาะสม มีการดำเนินการตามข้อบังคับขององค์กรที่ดีขึ้น และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการโดยอาศัยข้อกำหนดในการดำเนินการของ เอ็นทีที โดยบริการนี้ประกอบไปด้วย:
- การเชื่อมการใช้ API เข้ารวมกัน การใช้ความสามารถในการตรวจสอบการเชื่อมโยงกัน (correlation) การจัดการอุปกรณ์ IT ที่ยอดเยี่ยม การรายงานที่ยอดเยี่ยม และการใช้ระบบคาดการณ์ปัญหาที่ยอดเยี่ยม
- มีรายละเอียดข้อมูลการวิเคราะห์เกี่ยวกับปัญหาของระบบเครื่อข่ายซึ่งนำมาสู่การแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว และปรับปรุงระบบให้ดีขึ้น
- การผสานของกระบวนการ ITSM (ITSM process), IT domains และระบบ IT เพื่อนำไปสู่การจัดการแบบอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th