รพ.พระรามเก้า (Praram 9 Hospital) ร่วมกับ 7 รพ.ทั้งภาครัฐ และเอกชน และเนเวอร์ คลาวด์ (Naver Cloud) จัดสัมมนา “DHTC BANGKOK 2023” อัพเดทเทคโนโลยี AI เพื่อแพทย์ไทย…
highlight
- โรงพยาบาลพระรามเก้า ร่วมกับ 7 โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย อันได้แก่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง, โรงพยาบาลนวเวช, BBH Hospital จับมือ บริษัท เนเวอร์ คลาวด์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (Naver Cloud Corp.,) ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ (Cloud Service Provider หรือ CSP) จากเกาหลีใต้ ร่วมจัด “สัมมนาเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านสุขภาพที่ล้ำหน้าสู่อนาคต และความเชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในทางการแพทย์ ระหว่างไทย-เกาหลี” (DHTC BANGKOK 2023 : Digital Healthcare Transformation Conference) เพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์
Praram 9 Hospital ร่วมกับ 7 รพ.ทั้งภาครัฐ และเอกชน และ Naver Cloud จัดสัมมนา “DHTC BANGKOK 2023“
นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า นับว่าเป็นครั้งแรกที่โรงพยาบาลพระรามเก้า ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีกับบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท เนเวอร์ คลาวด์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (Naver Cloud Corp.,)
ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการระบบคลาวด์ (Cloud Service Provider หรือ CSP) แถวหน้าจากประเทศเกาหลีใต้ อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจาก โรงพยาบาลชั้นนำของประเทศไทย มาร่วมเป็นพันธมิตร อันได้แก่ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, กลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง,
โรงพยาบาลนวเวช, BBH Hospital ร่วมสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ในการพัฒนา และบูรณาการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทางการแพทย์ขั้นสูง เพื่อความก้าวหน้าในการดูแลสุขภาพขั้นขีดสุด
“ในอนาคตอันใกล้ เทคโนโลยี และการแพทย์ จะเข้าใกล้กันมากขึ้น และการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่ออุตสาหกรรมทางการแพทย์ จะช่วยยกระดับการดูแลสุขภาพ ซึ่งโรงพยาบาลพระรามเก้า พร้อมที่จะก้าวสู่การ Digital Hospital เพื่อเป็น Digital healthcare อย่างเต็มรูปแบบอย่างแท้จริง” น.พ. เสถียร ภู่ประเสริฐ กล่าว
ด้าน นายแพทย์วิทยา วันเพ็ญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า ครั้งนี้ ถือเป็นการร่วมมือกันของโรงพยาบาลเอกชนผู้นำด้านเทคโนโลยีทั้ง 7 โรงพยาบาลของประเทศไทย สู่การทดลองใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์จากบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ของประเทศเกาหลีใต้
เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ และนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการขับเคลื่อนการบริการด้านการแพทย์ และสาธารณสุขของประเทศไทย ทั้งยังเป็นโอกาสให้โรงพยาบาลชั้นนำอื่น ๆ อีกหลายแห่งในประเทศไทย
ตลอดจนบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ ได้พบปะผู้เชี่ยวชาญ และสัมผัสเทคโนโลยีล้ำสมัยในอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์อีกด้วย และยังเป็นการเรียนรู้ และทดลองใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อบรูณาการข้อมูลทางการแพทย์ กับข้อมูลของผู้ป่วย การักษาความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ด้าน รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง รวีรัตน์ สิชฌรังษี กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้ และภูมิคุ้มกัน และที่ปรึกษาศูนย์โรงพยาบาลออนไลน์ โรงพยาบาลพระรามเก้า หรือ Praram9V กล่าวว่า สำหรับงานสัมมนา DHTC BANGKOK 2023 : Digital Healthcare Transformation Conference ครั้งนี้
จะเน้นเรื่องเทคโนโลยีอัจฉริยะด้านสุขภาพที่ล้ำหน้าสู่อนาคต และความเชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในทางการแพทย์ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ร่วมกัน ระหว่างไทย และเกาหลี เราได้รวบรวมบริษัทอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการแพทย์
พร้อมทั้งผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงจากประเทศเกาหลีและประเทศไทยมาเข้าร่วมในการสัมมนา และมีการแสดง การใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ อันเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง อาทิ การนำเสนอบทบาทของ AI ในการรักษา เช่น การใช้ AI ทำนายโรคจากข้อมูลทางพันธุกรรม หรือการใช้ AI ช่วยในการแปลงภาพทางการแพทย์ เป็นต้น
ทั้งยังมีการนำเสนอผลการทดลองใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่นการในต่อยอดการใช้ LINE OA ช่วยเชื่อมโยงกับระบบ Telemedicine ให้ผู้ป่วย และบุคลากรทางการแพทย์สามารถพูดคุยกันได้แบบเรียลไทม์ผ่าน LINE ของโรงบาล ได้ปรึกษากันได้อย่างใกล้ชิด เหมือนอย่างเช่น ที่โรงพยาบาลพระราม 9
ใช้เป็นช่องทางในการลงทะเบียนรับวัคซีนในรูปแบบ E–coupon ในช่วงโควิท-19 โดยใช้เป็นช่องทางในการตรวจสอบสถานที่ที่ให้บริการ Hospitel รวมถึงเป็นช่องทางเข้าถึงบริการด้วยการโทร VDO Call ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่านแอปฯ 9CARE ที่ทางโรงพยาบาลได้ร่วมพัฒนากับบริษัทของประเทศเกาหลีอีกด้วย
“ไม่เพียงเท่านี้ กลุ่มโรงพยาบาล และบริษัทพันธมิตรของเรา ยังมีการนำเสนอมุมมองต่อเทคโนโลยีทางการแพทย์ของบริษัทจากประเทศเกาหลี ที่ได้ให้ทางโรงพยาบาลได้ทดลองใช้ ทั้ง โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่, โรงพยาบาลกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวช, โรงพยาบาลนวเวช, BBH Hospital และโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง
ร่วมกับบริษัทจากประเทศเกาหลี ได้แก่ บริษัท MTEG ในเรื่อง Surgical Video Platform, บริษัท Curaum ในเรื่อง Oral environment originated healthcare solution , บริษัท QTT ในเรื่อง Easy Detection of Oral Diseases by Using Artifical Intelligence and Big Data Required From It,
บริษัท CRESCOM ในเรื่อง AI Medical Solutions for Musculoskeletal System and Child Growth, บริษัท EMOCOG ในเรื่อง Digital Screening Tools for Dementia and ADHD, และ บริษัท Ichrogene ในเรื่อง AI Disease Predicting based on Genome Big DataW” รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง รวีรัตน์ สิชฌรังษี กล่าว
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th