“realme Watch 5” (เรียลมี วอทช์ 5) สมาร์ทวอทช์ ราคาเข้าถึงง่าย แต่จัดเต็มด้วยสเปค และฟีเจอร์ระดับพรีเมียม เพื่อคนรักสุขภาพ และนักกีฬา…
สำหรับคนที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ที่เน้นความคุ้มค่า และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ดีไซน์สวย ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือใช้การออกกำลังกาย รวมถึงสามารถใช้งานได้ต่อครั้งนาน ๆ ไม่ต้องชาร์จไฟบ่อย ๆ ในราคาที่ไม่โอเวอร์เกินไป “เรียลมี วอทช์ 5” อาจจะเป็นคำตอบเพราะมาพร้อม GPS อิสระ
และ รองรับระบบ 5 GNSS (*การเชื่อมต่อกับระบบดาวเทียมทั่วโลก) รวมถึง NFC สำหรับเข้าถึงข้อมูลทางกายภาพในตัว (*ไม่รองรับการทำธุรกรรมทางการเงิน) และ แบตเตอรี่ ขนาด 460 mAh ที่อึดทนระดับเทพใช้งานได้ยาวนาน 14 วัน (*20 วัน ในโหมดประหยัดพลังงาน)
และยังจัดเต็มโหมดกีฬามากกว่า 100 โหมด ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน หรือกิจกรรมเฉพาะทางอื่น ๆ และมีฟังก์ชันการตรวจวัดสุขภาพครบถ้วน (*ความแม่นยำอาจจะไม่เทียบเท่าอุปกรณ์ทางการแพทย์) ภายในตัวเรือน ผ่านหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.97 นิ้ว
ทำให้ “เรียลมี วอทช์ 5” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าจับตามองในกลุ่มสมาร์ทวอทช์ในราคาคุ้มค่า จนสามารถเรียกได้ว่า “Flagship Killer” หรือ “Best Value Smartwatch” ที่เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างไม่เคอะเขินกันเลยทีเดียว ซึ่งวันนี้ ITday ได้ตัวเครื่องมาทดสอบ แต่มันจะคุ้มค่าถึงขนาดคำกล่าวอ้างนั้น หรือเปล่า ลองไปอ่านรีวิวแบบไม่อวยกันเลยครับ

รีวิว (Review) : “realme Watch 5” สมาร์ทวอทช์ “ค่าตัวเบา” สเปค “ไม่เบา” กับนิยาม “โคตรคุ้ม” แห่งยุค!
นี่คือ “สมาร์ทวอทช์” ที่เปิดตัวมาพร้อมการเปิดตัว “realme 15 Series 5G” (เรียลมี 15 ซีรี่ย์ 5G) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงกันยายน 68 ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่า เรียลมีจะยังมีสมาร์ทวอทช์ออกมายังไม่เยอะเท่าแบรนด์อื่น ๆ แต่สิ่งที่น่าชื่นชมคือการที่ เรียลมี ยังคงเอกลักษณ์ของตนเองเอาไว้ได้ในเรื่องของความ “คุ้มค่า” ที่แสดงออกมาให้เห็นเหมือนช่วงที่เริ่มเข้ามาทำตลาดสมาร์ทโฟนในไทย
การเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ “เรียลมี วอทช์ 5” ที่มาพร้อมดีไซน์สวยงาม แต่มีความทนทานจาก ตัวเรือนที่ใช้วัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยด์ให้ความรู้สึกพรีเมียม และฟีเจอร์ฟังก์ชั่นที่ครอบคลุม ทำให้ “เรียลมี วอทช์ 5” ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาดสมาร์ทวอทช์ระดับกลางถึงเริ่มต้น

ความโดดเด่นของ “เรียลมี วอทช์ 5” มีหลากหลายด้าน แต่ที่ถือเป็นจุดขายสำคัญ คงหนีไม่พ้นเรื่องของ แบตเตอรี่ขนาด 460 mAh ที่อึดมาก โดยสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 14 วัน ในการใช้งานปกติ ทำให้ไม่ต้องชาร์จบ่อย และสามารถใช้งานได้สูงสุด 14 วัน ในโหมดปกติ
และอาจอยู่ได้ถึง 20 วัน ในโหมดประหยัดพลังงาน แม้จะเปิดใช้งานฟังก์ชันติดตามสุขภาพตลอดเวลา และใช้ GPS บ้าง ก็ยังสามารถลืมแท่นชาร์จไปได้นานเลยทีเดียว สำหรับคนที่ใช้งานไม่หนักมาก การชาร์จเพียงเดือนละ 2 ครั้ง ก็เพียงพอ ทำให้ลดความกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดไปได้มาก

เป็นความสบายที่ไม่ค่อยพบในนาฬิกาที่มี GPS ในตัว ขณะที่ตัวระบบ GPS อิสระ (Built-in GPS) และ รองรับระบบ 5 GNSS (Built-in 5-system Global Navigation Satellits System receiver) ก็ช่วยทำให้สามารถบันทึกเส้นทางการวิ่ง, ปั่นจักรยาน, หรือกิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ ได้อย่างแม่นยำ
โดยไม่จำเป็นต้องพกสมาร์ตโฟนไปด้วย ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของความแม่นยำเนื่องจากเซ็นเซอร์ที่มีอยู่ในตัวเรือนค่อนข้างมีความแม่นยำ แม้จะไม่เทียบเท่ากับอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือสมาร์ทวอทช์รุ่นที่ราคาสูง แต่ก็ไม่ได้แย่เลยเมื่อใช้งานจริง
อีกความโดดเด่นของ “เรียลมี วอทช์ 5” คือการที่ตัวเรือนมาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ระบบสัมผัส (Multi-Touch) อัตรารีเฟรช 60 Hz ความละเอียด 390 x 450 พิกเซล (pixels) ขนาด 1.97 นิ้ว ทำให้ไม่ว่าจะ ปัดขึ้น-ลง หรือซ้าย-ขวา ก็ทำได้ง่าย
และตัวหน้าจอยังมอบความสว่างได้กว่า 600 นิต (nits) ให้ภาพคมชัดระดับ PPI สูง ทำให้ทุกรายละเอียดของ UI ดูคมชัด และสีสันสดใส ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างขวาง เห็นตัวเลข และข้อความได้ชัดเจน สู้แสงแดดจ้าได้ดี ไม่ต้องคอยหรี่ตาดูข้อมูลเวลาออกไปวิ่งกลางแจ้ง

นอกจากนี้ตัวเครื่องยังรองรับระบบ Always-On Display (AOD) ช่วยให้มองเห็นเวลา และข้อมูลพื้นฐานได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องยกข้อมือขึ้นมา “เรียลมี วอทช์ 5” ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สาย Activity โดยเฉพาะ ด้วยฟังก์ชันโหมดกีฬามากกว่า 100 โหมด
ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ การวิ่ง (*สามารถกำหนด เป้าหมาย ควบคุมจังหวะ ตามหลักวิทยาศาสตร์การกีฬา), โยคะ, เดินป่า หรือ ว่ายน้ำ (ได้มาตราฐาน 5ATM/IP68 (IEC 60529) หรือการกัน ละอองน้ำ, ฝน, หิมะ, การอาบน้ำ, การว่ายน้ำ, การดำน้ำ และการดำน้ำตื้น) ไปจนถึงกีฬาเฉพาะทางอื่น ๆ อีกมากมาย ก็สามารถเก็บสถิติเส้นทางได้อย่างสมบูรณ์แบบ
และตัวเครื่องยังมีฟีเจอร์การติดตามสุขภาพพื้นฐาน ที่ครบครัน อาทิ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Optical Heart Rate Sensor), การวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2), การติดตามคุณภาพการนอนหลับ และการติดตามความเครียด, การตรวจจับการเคลื่อนไหว (Accelerometer), การฝึกการหายใจ 3 แบบ, การตรวจวัดการมาของรอบเดือน (ประจำเดือน) ฯลฯ

ขณะที่ในด้านการใช้งานในชีวิตประจำวัน (Smart Features) “เรียลมี วอทช์ 5” นั้นใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร และตอบสนองในต่อความบันเทิงได้อย่างดี เนื่องจากตัวเครื่อง มาพร้อมฟังก์ชั่น “Bluetooth Calling” ที่สามารถรับสาย และโทรออกได้โดยตรงจากนาฬิกา ผ่านการเชื่อมต่อ บลูทูธ 5.4 (Bluetooth) กับสมาร์ทโฟน (*ได้ประมาณ 720 นาที) ถือว่าสะดวกมากเวลาขับรถ หรือมือไม่ว่าง
รวมถึงสามารถแสดงการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญรองรับภาษาไทยอีกด้วย ซึ่งตรงจุดนี้ สมาร์ทวอทช์ หลายตัวยังทำออกมาได้ไม่ดีเท่าไร แต่ เรียลมี กลับพัฒนาออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ขณะเดียวกันหายเราอยากใช้เพื่อเพื่อความบันเทิงก็สามารถทำได้ เพราะ “เรียลมี วอทช์ 5” นั้นใส่ฟีเจอร์การเล่นเพลงมาให้ด้วยเพียงเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แล้วโหลดเพลงเข้าตัวเครื่องก็สามารถใช้เป็นตัวเล่นเพลงได้
โดยเสียงจะออกมาที่ลำโพงทรงรังผึ้งที่อยู่ตัวเครื่อง อย่างไรก็ดี เนื่องจากตัวเครื่องเองมีหน่วยความจำที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้อาจจะโหลดเพลงลงไว้ได้ไม่เยอะ แต่เราสามารถเข้าไปตั้งค่าที่ตัวเครื่อง “เรียลมี วอทช์ 5” ได้ว่าจะเล่นเพลงจากภายในตัวเครื่อง หรือจากบนสมาร์ตโฟน ได้ก็จะทำให้ฟังเพลงได้แบบยาว ๆ มากขึ้นนั่นเอง

“เรียลมี วอทช์ 5” ยังเพิ่มความสนุกในการใช้งานให้ผู้ใช้สามารถปลี่ยน หรือทำหน้าปัดนาฬิกาให้เป็นไปแบบตามที่ต้องการได้ผ่านแอปพลิเคชั่น “realme Link” ในโหมด “คลังหน้าปัดนาฬิกา” ซึ่งมีให้เลือกโหมดหน้าปัดแบบ Album watch faces, Clean watch faces, Illustration watch faces, Functional watch faces, Functional dial, Dynamic dial, Indian Festivals, Built-in watch faces

ขณะที่ในด้านของการดีไซน์ตัวเรือนของ “เรียลมี วอทช์ 5” ถือว่าทำออกมาได้อย่างโดดเด่น อย่างที่กล่าวเอาไว้ในข้างต้น เนื่องจากตัวเรือนที่ใช้วัสดุอะลูมิเนียมอัลลอยด์ให้ความรู้สึกพรีเมียม ด้วยการใช้ โลหะผสมไททาเนียม (Ti-Alloy) อีกทั้งออกแบบไร้รอยต่อเป็นชิ้นเดียวกัน (Uni-Body) ทำให้ตัวเครื่องแข็งแรงทนทานแต่ยังคงความเบา โดยตัวเครื่องมีน้ำหนักรวมอยู่แค่ 31 กรัม (ไม่รวมสาย)

ขณะที่ตัวสายซิลิโคน 3D-Wave แบบรอยหยักนั้นถือว่าออกแบบมาให้มีความกระชับ นุ่มสบาย ในระดับหนึ่ง ตัวสายยังสามารถถอดเปลี่ยนสายได้ตามความความชอบ และความถนัด ไม่ว่าจะถนัดสาย หรือขวา เพราะตัวสายจะเป็นแบบแบบคลิ๊กล็อค ที่มีปุ่มที่ตัวเรือนให้กดถอดเปลี่ยนสายได้
ตัวเรือนยังออกแบบให้มาพร้อม ปุ่มเม็ดมะยม (Rotating Crown) ที่ใช้ควบคุมการใช้งาน อาทิ กดแช่เพื่อเปิด-ปิดเครื่อง หรือเพื่อรีสตาร์ทเครื่อง หรือหนึ่งครั้งเพื่อเปิดหน้าจอขึ้นมาดู กดสองครั้งเพื่อเข้าหน้าจอดูฟังกชั่นการใช้งานต่าง ๆ เพื่อเข้าไปตั้งค่า หรือกดหนึ่งครั้งแล้วหมุมปุ่มเข้าหาตัว เพื่อเข้าไปตั้งค่าต่าง ๆ ได้ ตัวปุ่มเม็ดมะยมยังทำหน้าเปรียบเสมือนการปุ่ม ยืนยันคำสั่งที่เราต้องการได้อีกด้วย
How to Connect : วิธีการเชื่อมต่อ “เรียลมี วอทช์ 5“ กับสมาร์ตโฟน

การเชื่อมต่อ “เรียลมี วอทช์ 5” เข้ากับสมาร์ตโฟน (ทั้ง iOS และ Android) ทำผ่านแอปพลิเคชันหลักของ เรียลมี คือ realme Link Android หรือ realme Link iOS โดยมีขั้นตอนดังนี้
- เปิดเครื่อง และตั้งค่านาฬิกา : กดปุ่ม Power ค้างไว้เพื่อเปิด “เรียลมี วอทช์ 5” จากนั้นเลือกภาษาที่คุณต้องการใช้งาน เมื่อเสร็จแล้ว นาฬิกาจะแสดงหน้าจอเข้าสู่โหมดจับคู่ (หน้าจอ QR Code)
- ดาวน์โหลดแอป : ดาวน์โหลด และติดตั้งแอปพลิเคชัน realme Link บนสมาร์ทโฟนของคุณ (มีให้บริการทั้งบน App Store และ Google Play Store) จากนั้นทำการลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ
- เริ่มการจับคู่ :
- เปิดแอป realme Link แล้วคลิกเครื่องหมาย “+” ที่มุมบนขวาของหน้าจอ
- เลือก realme Watch 5 จากรายการอุปกรณ์ หรือเลือกฟังก์ชัน “สแกนโค้ด” เพื่อสแกน QR Code ที่แสดงอยู่บนหน้าปัดนาฬิกา
- ยืนยันการจับคู่ : ระหว่างกระบวนการผูกบัญชี จะมีหน้าต่างยืนยันการจับคู่ปรากฏขึ้นบนนาฬิกา ให้เลือกเครื่องหมาย “เครื่องหมายถูก” เพื่อยืนยัน
- เสร็จสิ้น : เมื่อการจับคู่สำเร็จ เครื่องหมาย “เครื่องหมายถูก” จะปรากฏบนทั้งนาฬิกา และแอป realme Link
ข้อควรทราบเพิ่มเติมสำหรับการใช้งานฟังก์ชันโทร (Bluetooth Calling)
- สำหรับ iOS : เมื่อผูกบัญชีสำเร็จแล้ว อาจมีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้น ให้คุณเลือก “Pair” (จับคู่) เพื่ออนุญาตให้ใช้งานฟังก์ชันแจ้งเตือนข้อความได้อย่างสมบูรณ์
- สำหรับ Android : จะมีข้อความแจ้งเตือนการจับคู่ Bluetooth ปรากฏขึ้นบนทั้งนาฬิกา และมือถือ ให้คุณเลือก “เครื่องหมายถูก” บนนาฬิกา และ “อนุญาตให้เข้าถึงรายชื่อติดต่อ และบันทึกการโทร” บนโทรศัพท์ ก่อนที่จะเลือก “Pair” มิฉะนั้นจะไม่สามารถใช้ฟังก์ชันโทรออกจากนาฬิกาได้
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวเครื่อง (ตัวเรือน) : เรียลมี วอทช์ 5 (พร้อมสายซิลิโคน)
- สายชาร์จแบบหัวแม่เหล็ก
- คู่มือเริ่มต้นใช้งานฉบับย่อ ข้อมูลความปลอดภัย และบัตรรับประกัน

สเปคข้อมูล (Specification) : “เรียลมี วอทช์ 5“
- สี : 2 สี ได้แก่ สีดำ (Black) และ สีเทาควันบุหรี่ (Smoke gray)
- ขนาด : 42.5 x 2.56 x 11.7 มม.
- น้ำหนัก : 31 กรัม (ไม่รวมสาย)
- หน้าจอ : แบบ AMOLED ความละเอียด 390 x 450 พิกเซล (302 ppi density) มอบความสว่างสูงสุด 600 นิต (nits) รูปหน้าจอทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาด 1.97 นิ้ว / อัตรารีเฟรชเรท (Refresh rate) 60 Hz รองรับระบบสัมผัส (Multi-Touch) และ ระบบ Always-On Display (AOD)
- ตัวเครื่อง / ตัวเรือน : ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมอัลลอย และสายข้อมือทำจากวัสดุซิลิโคน
- ระบบเซ็นเซอร์ : Accelerometer, heart rate, SpO2, compass
- ระดับการกันน้ำ : มีความสามารถทนทานแรงดันแบบ 5 ATM water-resistant / IP68 (กันละอองน้ำ, ฝน, หิมะ, การอาบน้ำ, การว่ายน้ำ, การดำน้ำ และการดำน้ำตื้น *สามารถจุ่มน้ำได้ลึกถึง 1.5 เมตร) มาตรฐาน IEC 60529
- รองรับการเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.4 /A2DP / LE / GPS / GALILEO / GLONASS / BDS และ NFC
- ระบบปฏิบัติการ : ระบบปฎิบัติการ Proprietary OS
- ฟีเจอร์โดดเด่น : เซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคอล (Optical Heart Rate Sensor), ตรวจจับการเคลื่อนไหว (Accelerometer), การนับก้าว (Step counter), ติดตามการนอน (Sleep monitoring), คำนวณแคลอรี่ (Calories burned), ระยะเดินทาง (Distance traveled), หลักสูตรการวิ่งพร้อมคู่มือการยืดกล้ามเนื้อมา 2 โหมด (Easy Run/Advanced Run)
- คุณสมบัติพิเศษ : การแจ้งเตือน (Notifications), รับสายโทรศัพท์ (Answer the phone), เข็มทิศ (Compass), ลำโพง (Speaker), ไมโครโฟน (Microphone), ออกกำลังกาย (GymKit), นับรอบเดือน (Menstruation), ควบคุมเพลง (Control music), ตรวจวัดค่าออกซิเจนในเลือด (Oxygen Saturation), ติดตามความเครียด (All-day Stress) และกันน้ำกระเด็น (Water resistant)
- แบตเตอรี่ : ขนาด 460 mAh
- ราคา : 1,999 บาท
การออกแบบ (design)

ด้านการอกแบบดีไซน์ตัวกล่อง (Packaging Design) นั้น ตัวเครื่องมาด้วยกล่องกระดาษทรงสีเหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้าสกีนภาพตัวเครื่อง “เรียลมี วอทช์ 5” พร้อมชื่อรุ่นสีดำ ด้านข้างตัวกล่องฝั่งขวา พิมพ์สัญลักษณ์ การกันน้ำระดับ IP68 การรองรับ NFC & HD BT Calling & Independent BT Intercom และขนาดหน้าจอทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส 1.97 นิ้ว
ข้างตัวกล่องฝั่งซ้าย พิมพ์สัญลักษณ์ คามสามารถในการรองรับ GPS / 5GNSS, Comprehensive and Accurate Sports & Health Monitoring และ ความสามารถในการใช้งานยาวนาน 14 วัน ขณะที่ด้านล่าง จะมี QR code สำหรับแสกนแอปพลิเคชัน realme Link ส่วนด้านตัวกล่องจะมีหมายเลขซีเรียล, IMEI และสีของตัวเครืองแปะอยู่
เมื่อเปิดตัวกล่องขึ้นมาจะเจอตัวผลิตภัณฑ์ภายในกล่อง ซึ่งจะมีตัวเรือน “เรียลมี วอทช์ 5” และช่องเปิดเพื่อนำเอาสายชาร์จ และคู่มือเริ่มต้นใช้งานฉบับย่อ ข้อมูลความปลอดภัย และบัตรรับประกัน
ข้อสรุปการใช้งานหลังจากทดสอบ

หลังจากทดสอบใช้งานจริง “เรียลมี วอทช์ 5” ถือเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานสายสุขภาพ สำหรับออกกำลังกาย ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตด์ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ ฟีเจอร์ และความสามารถในการเชื่อมต่อ โดยมีจุดเด่นที่น่าสนใจ ทั้งหน้าจอ AMOLED ความละเอียด 390 x 450 พิกเซล (302 ppi density) มอบความสว่างสูงสุด 600 นิต (nits) และยังรองรับ Multi-Touch ปัดได้ลื่นไหล

ขณะเดียวกันด้วย ปุ่มเม็ดมะยมอัจฉริยะ ทำให้ควบคุมได้ง่ายควบคุมฟังก์ชันต่าง ๆ ได้สะดวก พร้อมปุ่มลัดเข้าสู่โหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 แบบ และยังมี GPS อิสระ (Built-in GPS) และ 5 GNSS (Built-in 5-system Global Navigation Satellits System receiver) ซึ่งการเชื่อมต่อกับระบบดาวเทียมทั่วโลก ซึ่งช่วยทำให้สามารถบันทึกได้แม่นยำ
ขณะที่แบตเตอรี่ความจุ 460 mAh ทำให้สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 14 วัน ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดกลางคัน หากจะมีข้อตำหนิบางก็มีเพียงเรื่องของตัวสายชาร์จที่มีขนาดค่อนข้างบาง ทำให้ต้องระมัดระวังหากต้องการพกพาออกไปข้างนอก เพราะเสี่ยงต่อการเสียหายได้ง่าย อีกประเด็นคือการที่ใส่ NFC มาให้ใช้เพียงเพิ่มความแม่นยำในข้อมูลกายภาพแต่ไม่รองรับการทำธุรกรรมทางการเงินก็ทำให้แอบน่าเสียดายอยู่นิดหน่อย
แต่อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาจากคุณสมบัติทั้งหมด สามารถสรุปได้ว่า “เรียลมี วอทช์ 5” คือ นิยามใหม่ของคำว่า “คุ้มค่า” ที่ เรียลมี สร้างมาตรฐานใหม่ในตลาด Smartwatch ด้วยการอัดแน่นฟีเจอร์ระดับท็อป แต่เปิดตัวมาในราคาเพียง 1,999 บาท เท่านั้น (และอาจหาได้ในราคาโปรโมชั่นต่ำกว่านี้อีก!)

ข้อดี
- น้ำหนักเพียง 31 กรัม ทำให้สวมใส่สบาย ไม่รู้สึกหนักข้อมือ
- ตัวเรือนทำจากอะลูมิเนียมอัลลอย และออกแบบดีไชน์ Uni-Body ทำให้ตัวเครื่องแข็งแรงทนทานแต่ยังคงความเบา
- รองรับโหมดออกกำลังกายมากกว่า 100 แบบ
- หน้าจอ แบบ AMOLED ความสว่างสูงสุด 600 nits รองรับระบบ Always-On Display (AOD) ช่วยให้มองเห็นเวลา และข้อมูลพื้นฐานได้ตลอดเวลา
- กันน้ำระดับ 5 ATM และ IP68 มาตรฐาน IEC 60529
- แอปพลิเคชัน realme Link รองรับทั้ง Android และ iOS
- แบตเตอรี่ 460 mAh ใช้งานได้ยาวนาน
ข้อเสีย
- แม้จะมี NFC แต่จากข้อมูลที่ได้มีการเปิดเผยระบุว่าไม่รองรับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือ Mobile Payment
- ตัวสายชาร์จที่มีขนาดค่อนข้างบาง ทำให้ต้องระมัดระวังหากต้องการพกพาออกไปข้างนอก
- ไม่มีการรองรับ eSIM หรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยตรงจากนาฬิกา
- สายนาฬิกาแม้ช่วยให้กระชับแต่ก็ทำให้ทิ้งรอยที่ข้อมือได้จากรอยหยักที่ดีไซน์
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th


























