เชลล์ และ IBM เปิดตัว Oren แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสที่รวบรวมบริการเหมืองแร่ดิจิทัลสำหรับธุรกิจแบบ B2B ช่วยเร่งให้เกิดการนำพลิกโฉมเวิร์คโฟลวงานเหมืองแร่…
เชลล์ และ IBM เปิดตัว Oren แพลตฟอร์มรวมบริการสำหรับธุรกิจเหมืองแร่
เชลล์ และไอบีเอ็ม ปิดตัวโอเร็น (Oren) แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสระดับโลกที่รวบรวมบริการเหมืองแร่ดิจิทัลสำหรับธุรกิจแบบ B2B ที่กลุ่มบริษัทต่างๆ ร่วมพัฒนาขึ้น ภายใต้เป้าหมายในการช่วยให้บริษัทเหมืองแร่มีโซลูชันเกี่ยวกับความปลอดภัย การจัดการอย่างยั่งยืน การวางแผนการขุดเจาะ และการดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยแพลตฟอร์มโอเร็นที่รวมเทคโนโลยีและโซลูชันใหม่เข้าไว้ในที่เดียวนี้ จะช่วยเร่งให้เกิดการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เร่งให้เกิดการพลิกโฉมเวิร์คโฟลวงานเหมืองแร่ และช่วยสร้างการดำเนินการที่มีความยืดหยุ่นฟื้นตัวได้เร็ว โดยเฉพาะในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน
หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกในทุกวันนี้ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจตามปกติต้องหยุดชะงัก เช่นเดียวกับบริษัทเหมืองแร่ที่กำลังพยายามเพิ่มความคล่องตัว และความยืดหยุ่นฟื้นตัวได้เร็ว โดยการนำโซลูชันเหมืองแร่ที่มีความอัตโนมัติมากขึ้นเข้ามาใช้ในการดำเนินงาน
เช่น รถบรรทุกพ่วงขับเคลื่อนเอง หรือศูนย์ปฏิบัติการจากระยะไกล เป็นต้น ซึ่งการจะทำสิ่งเหล่านี้ได้นั้น จำเป็นต้องปรับงานปฏิบัติการต่าง ๆ ของเหมืองแร่ให้เป็นดิจิทัล และผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะลงในทุกขั้นตอน ทั้งที่เหมืองเองและที่เครือข่ายแวลูเชนในวงที่กว้างขึ้น
ในฐานะซัพพลายเออร์หลักของน้ำมันหล่อลื่นของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ที่ได้ทำงานร่วมกับธุรกิจเหมืองแร่กว่า 350 ราย เชลล์ พบว่า ร้อยละ 80 ขององค์กรที่ทำการสำรวจกำลังเผชิญกับความท้าทายในแง่การปฏิบัติการในลักษณะคล้าย ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น ความยากในการรวมรวมข้อมูลเพื่อประมวลออกมาเป็นมุมมองเชิงลึก
การขาดเวิร์คโฟลวอัจฉริยะอันเนื่องมาจากการทำงานแบบต่างฝ่ายต่างทำ การพัฒนาให้เกิดการจัดการอย่างยั่งยืน รวมถึงการช่วยให้บุคลากรมีความปลอดภัยในขณะใช้งานเทคโนโลยีที่ทำงานด้วยตัวเอง
แครอล เฉิน รองประธานงานการตลาดน้ำมันหล่อลื่นทั่วโลก ของ เชลล์ กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าเหมืองแร่จะสามารถได้รับประโยชน์จากโซลูชันดิจิทัลมากมายที่ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันที่ช่วยบริหารจัดการการดำเนินงานในพื้นที่ห่างไกลให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
เรามองว่าโอเร็นจะเป็นจุดหมายแบบ one–stop สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ให้สามารถเข้าถึงโซลูชันและเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่จากเชลล์ และไอบีเอ็ม แต่รวมถึงองค์กรชั้นนำต่าง ๆ ด้วย
ความสามารถในการเข้าถึงโซลูชันที่ดีที่สุดจำนวนมากได้ ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะภายใต้ข้อจำกัดที่นานาประเทศต้องเจอในปัจจุบันอันเนื่องมาจากโควิด-19
ยุคถัดไปของอุตสาหกรรมเหมืองแร่จะขับเคลื่อนด้วยแพลตฟอร์ม IT
แมตต์ แคนดี้ พาร์ทเนอร์บริหารธุรกิจทั่วโลก จาก IBM iX กล่าวว่า ก้าวต่อไปของเหมืองแร่จำเป็นต้องอาศัยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแบบใหม่ที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมในวงกว้าง ซึ่งจำเป็นต้องมีการเปิดกว้าง มีนวัตกรรม และการร่วมมือกันมากขึ้น
โอเร็นจะช่วยเร่งให้เกิดการนำบริการดิจิทัลมาใช้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยี นวัตกรรม และการรวบรวมผู้ให้บริการโซลูชันทั่วทั้งอีโคซิสเต็ม สำหรับผู้ที่ทำงานที่เหมือง แพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้สามารถค้นหาโซลูชันที่เหมาะกับงาน
ทุกระดับในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้เวิร์คโฟลวที่มีอยู่มีความอัจฉริยะขึ้น ช่วยผลักดันเส้นทางดิจิทัลและช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายในระยะยาว
แพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสโอเร็นจะช่วยให้นักพัฒนาของทั้งองค์กรขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพสามารถนำนวัตกรรมด้านเหมืองแร่ที่มีอยู่ในตลาดเข้าช่วยสนับสนุนลูกค้าเหมืองต่าง ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
บริษัทเหมืองแร่อาจไม่มีเวลา และงบประมาณมากพอที่จะลงทุนพัฒนาเครื่องมือของตัวเองเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้น และมองถึงการนำโซลูชันพร้อมใช้ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วเข้ามาเสริมการปฏิบัติงาน ภายใต้การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ
เพื่อสร้างมุมมองหนึ่งเดียว และกลั่นกรองข้อมูลออกมาเป็นมุมมองเชิงลึกที่สามารถสนับสนุนการทำงานและช่วยให้การตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลรอบด้านมากขึ้น โอเร็นยังมองถึงการช่วยให้เหมืองแร่ต่าง ๆ สามารถพัฒนาโร้ดแม็ปการพัฒนาเหมืองแร่แห่งอนาคตที่มีความเชื่อมต่อกัน
ด้วยโซลูชันที่เชื่อมโยง และใช้ประโยชน์จากข้อมูล เอไอ, อินเตอร์เน็ตอ็อฟธิงส์, ออโตเมชัน และอนาไลติกส์ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ทำงานที่เหมืองไม่เพียงแต่จะสามารถเข้าถึงบริการดิจิทัลต่างๆ แต่ยังสามารถต่อยอดพัฒนาเวิร์คโฟลวอัจฉริยะที่ผนวกรวมบริการต่าง ๆ จากอิโคซิสเต็มของเหมืองแร่
ทั้งนี้ ทีมงานโอเร็นจะนำการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญเข้าช่วยบริษัทเหมืองแร่ในการสร้างโร้ดแม็ปดิจิทัล พร้อมด้วยมาร์เก็ตเพลส B2B ที่มีโซลูชันสำหรับการลงปฏิบัติงานจริง อาทิ
การค้นหาแบบเฉพาะเจาะจง ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด ผ่านการเลือกพารามิเตอร์ในการค้นหาให้ตรงกับลักษณะงานที่รับผิดชอบ ความท้าทายที่กำลังรับมือ หรือลักษณะของโซลูชันทางเทคนิคที่กำลังมองหา
การเข้าถึงโซลูชันเหมืองแร่ภาคสนามที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว เช่น MachineMax ซึ่งเป็นบริการดิจิทัลบนคลาวด์สำหรับการ optimize ยานพาหนะและกลุ่มรถอุตสาหกรรม Shell Remote Sense ซึ่งเป็นบริการเฝ้าระวังสถานะน้ำมันหล่อลื่นอัจฉริยะที่ช่วยให้มุมมองเชิงลึกแก่องค์กรอุตสาหกรรม
เพื่อการปรับปรุงการทำงานของอุปกรณ์ การลดค่าบำรุงรักษา และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น รวมถึง IBM’s Maintenance ซึ่งเป็นบริการที่ช่วยบริหารจัดการคลังชิ้นส่วนสำรองสำหรับการซ่อมแซมและปฏิบัติการ ทั้งชิ้นส่วนสำคัญ และชิ้นส่วนทั่วไป
ซอฟต์แวร์ที่เน้นการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม และการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับต่าง ๆ ที่จะแสดงการวิเคราะห์แบบลงรายละเอียดและรายงานรายการสิ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงาน การประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูเหมือง และการประเมินวงจรชีวิตของเมือง
โดยคาดว่าหนึ่งในสามของโซลูชันที่เปิดให้บริการบนมาร์เก็ตเพลซจะเชื่อมโยงกับโซลูชันการจัดการอย่างยั่งยืนบนโอเร็นที่มาจากทั้งองค์กรขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพ เช่น Hydrox Holdings ที่พัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยปลดล็อคการผลิตไฮโดรเจนในราคาถูก เพื่อเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียน
เปิดให้กลุ่มผู้ใช้ระยะแรกร่วมนำร่องเทคโนโลยี ที่จะช่วยพลิกโฉมการดำเนินงานของเหมือง โดยโอเร็นจะช่วยดูแลให้บริษัทเหล่านี้เข้าทดลองโซลูชันใหม่ๆ และอินทิเกรตเข้ากับระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น เทรนด์ที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเหมืองแร่คือการพยายามควบคุมงานต่าง ๆ จากห้องควบคุม
ซึ่งในที่นี้ BGC Engineering จะนำเสนอแพลตฟอร์ม Ada ที่แสดงภาพโฮโลกราฟิคของเหมืองผ่านประสบการณ์อินเตอร์แอคทิฟ 3D เสมือนจริง ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเหมืองได้จากที่บ้าน ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญรวมถึงผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่ได้มีความรู้เชิงเทคนิคสามารถดูงานที่ไซต์งานจริงได้ในแบบดิจิทัล ทั้งในแบบย้อนอดีต ปัจจุบัน และแบบอนาคต
คลังแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศของกรณีศึกษาเกี่ยวกับเหมืองที่เปิดให้ค้นหาได้ ที่จะแสดงแนวปฏิบัติที่เหมืองอื่นๆ ใช้ โดยเมื่อมีการใช้งานแพลตฟอร์มนี้เพิ่มขึ้น บริษัทเหมืองแร่จะสามารถดึงมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์เทคโนโลยีที่ใช้ในอุตสาหกรรม
และเห็นภาพชัดขึ้นว่ามีการมุ่งเน้นการลงทุนไปที่ด้านใด สำหรับผู้บริการหรือตัวแทนขายก็จะได้รับมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า และผู้ใช้งานมากขึ้น โดย มาร์เก็ตเพลส โอเร็น (Oren) ได้เปิดให้ใช้งานแล้ววันนี้ที่ www.orenmarketplace.com
ส่วนขยาย
* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th