ซิมโฟนี่ (SYMC) ขยายโซลูชั่นด้าน e-Services รองรับลูกค้าทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วยดิจิทัล เตรียมต่อยอดสู่ e-Tax Invoice และบริการด้านอื่น ๆ…
highlight
- ซิมโฟนี่ เดินหน้าธุรกิจด้วยบริการด้านอิเล็กทรอนิกส์ (e-Services) เจาะลูกค้าที่พร้อมทรานสฟอร์มองค์กรด้วยดิจิทัล (Digital Transformation) หลังประสบความสำเร็จในการให้บริการ e-KYC และ e-Signature เตรียมต่อยอดสู่ e-Tax Invoice และบริการด้านอื่นๆ เร็วๆนี้ ชี้โควิด-19 ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อพฤติกรรมการใช้บริการเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เพราะช่วยลดขั้นตอนในการสื่อสารระหว่างองค์กรและยังช่วยให้การดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จรวดเร็วมากขึ้นควบคู่ไปกับการประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า
SYMC ขยายโซลูชั่นด้าน e–Services รองรับลูกค้าทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วยดิจิทัล

อเล็กซ์ โลท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในโลกปัจจุบันหลายองค์กรมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาพัฒนากระบวนการต่าง ๆ ในธุรกิจ (Digital Transformation) และมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ตลอดจนสร้างผลกำไรในระยะยาว ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคม และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตชั้นนำ จึงมีนโยบายที่จะนำ ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Services) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานของเครือข่ายหลัก และนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ
ให้กับลูกค้าของ ซิมโฟนี่ ได้ในอนาคต โดยสิ่งที่เริ่มต้นไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ คือการผนึกกำลังกับ บริษัท ครีเดน เอเชีย จำกัด พันธมิตรผู้เชี่ยวชาญด้าน เทคโนโลยีพิสูจน์ และยืนยันตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-KYC) และบริการลงลายมือชื่อแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Signature)
เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เข้าถึงบริการในรูปแบบดิจิทัลได้ด้วยความรวดเร็ว ปลอดภัย ลดขั้นตอนในการติดต่อสื่อสาร แต่ยังสามารถใช้บริการสำคัญได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเวลา และสถานที่ อันสอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้า และวิวัฒนาการของการดำเนินธุรกิจที่ได้ปรับเปลี่ยนไปภายหลังวิกฤตการณ์โควิด-19
“ในอนาคตยังมีแผนจะขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้บริการด้าน e–Service อื่น ๆ ให้ครบวงจร อาทิ การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ที่ปรับรูปแบบจากกระดาษเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรองรับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เป็นอย่างดี มีความน่าเชื่อถือ
ลดปัญหาการจัดการข้อมูลหรือเอกสารในรูปแบบกระดาษ สามารถนำข้อมูลไปใช้ประมวลผลในระบบสารสนเทศ เพื่อทำให้ธุรกิจลูกค้าสามารถเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก้าวเท่าทันยุคสมัยที่เปลี่ยนไป” อเล็กซ์ กล่าว

ด้าน สุวัฒน์ เจษฎางษ์กุล หัวหน้าสายงานธุรกิจใหม่และกลยุทธ์ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า e–Services จะเป็นเป้าหมายทางธุรกิจใหม่ที่เข้ามาสร้างโอกาสสำคัญให้กับบริษัท จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าที่มีอยู่พบว่า ส่วนใหญ่ต้องการนำดิจิทัลสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการอำนวยความสะดวก
ที่สำคัญคือลดต้นทุนในการบริหารงาน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยาวแบบเห็นผลได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริษัทขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ซิมโฟนี่ จึงได้ขยายแผนธุรกิจที่เน้น Digital Transformation ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยยกระดับภาพลักษณ์ธุรกิจของลูกค้า และเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันได้เป็นอย่างดี
ขณะนี้บริษัทได้เริ่มนำเสนอบริการ e–KYC และ e–Signature ให้กับหลากหลายธุรกิจแล้ว โดยแต่ละกลุ่มธุรกิจสามารถนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริการของตัวเองที่ต่างกันไป อาทิ ธุรกิจโรงแรมและธนาคาร ลูกค้าสามารถลงทะเบียนจองคิวเพื่อรับบริการในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้ล่วงหน้า
เมื่อเดินทางมาถึงสถานที่ให้บริการนั้น ๆ เพียงแค่ยืนยันตัวตนและถ่ายภาพผ่านแพลตฟอร์ม e–KYC ก็สามารถเข้าใช้บริการได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาในการรอคิว หากเข้าใช้บริการในครั้งถัดไป เพียงแค่ถ่ายภาพและเข้ารับบริการได้อย่างรวดเร็ว
โดยไม่ต้องทำการยืนยันตัวตนหรือแสดงบัตรประจำตัวประชาชนให้เกิดความยุ่งยาก ส่วนธุรกิจโรงพยาบาล แพทย์สามารถลงนามในใบรับรองแพทย์ได้ตลอดทุกที่ทุกเวลา เพื่อนำส่งเอกสารส่งไปยังแผนกอื่นๆ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนได้ต่อไปอย่างรวดเร็วแม้แต่การเคลมประกัน เพราะมีการเชื่อมต่อ API ระหว่างบริษัทประกัน และโรงพยาบาล
นอกจากนี้ ยังมองไปถึงกลุ่มธุรกิจที่จะเกิดประโยชน์จากการใช้บริการ e–Services เพื่อตอบโจทย์การบริหารงาน ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startup) ที่ช่วยตอบสนองการทำงานในองค์กรที่เน้นความคล่องตัว สามารถทำงานจากที่ใดก็ได้
กลุ่มธุรกิจที่มีเครือข่ายอยู่คนละประเทศ ที่ต้องมีการส่งเอกสารหรือยืนยันเอกสารสำคัญ กันระหว่างประเทศ จนถึงกลุ่มธุรกิจ อี–คอมเมิร์ซ (e-Commerce) ก็ได้ประโยชน์โดยตรงจากบริการเหล่านี้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยและความถูกต้องของข้อมูลได้อย่างแน่นอน โดย e–KYC มีเทคโนโลยี Face Verification และ Artificial Intelligence (AI) ในการตรวจสอบใบหน้าและข้อมูลบัตรประชาชนกับกรมการปกครองผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มที่รวดเร็ว
และยังเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ส่วนบริการ e–Signature ที่ทำให้เซ็นเอกสารธุรกรรมออนไลน์ผ่านอุปกรณ์ที่รองรับได้ทุกรูปแบบ ทั้งสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์พีซี โดยข้อมูลมีความปลอดภัยสูงจากการตรวจสอบของ เทคโนโลยีบล็อคเชน (Blockchain)
เอกสารดิจิทัลมีการประทับเวลาบันทึกตามมาตรฐาน e–Stamping ของ TEDA หรือ Trusted Electronic Document and Authentication จัดเก็บข้อมูลบน คลาวด์ (Cloud) หรือเซิร์ฟเวอร์ (Server) สามารถเรียกดู และตรวจสอบได้ตลอดเวลา
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th