เอบีม คอนซัลติ้ง (ABeam Consulting) แนะอุตสาหกรรมบริการทางการเงินใช้ “Data Virtualization” เพื่อลิกโฉมเกมการแข่งขันทางธุรกิจ รับความต้องการของผู้บริโภคปรับเปลี่ยนไป…
highlight
- ผลการศึกษาแบบเจาะลึกเรื่
องความท้าทายหลักในการปรับองค์ กรสู่ยุคดิจิทัล หรือดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน รวมถึงเรื่องความจำเป็นที่องค์ กรต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่อยู่ ในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน อาทิ ธนาคาร บริษัทประกันและบริษัทไฟแนนซ์ ต้องปรับตัวเพื่อรั กษาความสามารถในการแข่งขัน จากการที่มีผู้ประกอบการทั้ งหน้าใหม่ และรายเดิมเข้ามา รวมทั้งความต้องการของผู้บริ โภคปรับเปลี่ยนไป - แนวทางจัดการข้อมูลแบบ ดาต้า เวอร์ชวลไลเซชัน (Data Virtualization) ถือเป็
นเทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นพร้ อมเติมเต็มความสามารถใหม่ ๆ ในการทำงานให้องค์กร ทำให้สามารถเข้าถึง และใช้งานข้อมู ลทั้งหมดขององค์กรได้ทันที ช่วยประหยัดทั้งต้นทุ น และลดเวลาในการจัดการบริหารข้ อมูล
ABeam แนะอุตสาหกรรมบริการทางการเงินใช้ “Data Virtualization” เพื่อพลิกโฉมเกมการแข่งขัน
อิชิโร ฮาระ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) ให้บริการด้าน ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน เพื่อคว้าแต้มต่อสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ ยกระดับกระบวนการทางธุรกิจ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีระดับนวัตกรรม
และพัฒนาประสิทธิภาพขององค์กรในการดูแลลูกค้าจากหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงลูกค้าในแวดวงบริการทางการเงินของไทย โดยบริการดังกล่าวเปิดทางให้ลูกค้าได้วินิจฉัย และตอบสนองต่อความท้าทายต่าง ๆ ด้วยโซลูชันที่ผสมผสานการทำงานที่เป็นเลิศ และความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคของวงการอย่างลงตัว
จากการศึกษาเชิงคุณภาพแบบเจาะลึกของเอบีมพบว่า ความท้าทายหลักในกระบวนการนำองค์กรสู่ยุคดิจิทัล หรือดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน คือความจำเป็นที่องค์กรจะต้องปรับและพัฒนาตัวเอง เนื่องจากมีคู่แข่งเข้ามาในตลาด หรือหาทางก้าวนำบริษัทในแวดวงเดียวกันที่กำลังใช้กลยุทธ์ด้านดิจิทัลเช่นกัน
ผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดที่พัฒนามากกว่า กลายเป็นผู้นำตลาด ในขณะที่ธุรกิจดั้งเดิมกลายเป็นกลุ่มล้าหลัง เพราะผู้ประกอบการรายใหม่นำความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงมาสู่วงการ ด้วยการดำเนินงานแบบที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นหลัก แถมเทคโนโลยีที่ใช้ยังก้าวล้ำยิ่งกว่า
จึงเพิ่มความคาดหวังของลูกค้าเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลให้สูงขึ้นไปด้วย ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นกลุ่มผู้บริหารในหัวข้อบิ๊กดาต้า (Big Data) และเอไอ (AI) โดยดิจิทัล อินชัวร์ (Digital Insurer) พบว่า 3 ใน 4 (หรือ 75%) ของบริษัทประกันหวาดกลัวการแข่งขันจากคู่แข่งทางดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
เนื่องจากผู้ให้บริการทางการเงินกำลังนำธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ มาใช้ และใช้เทคโนโลยีในการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้ายุคปัจจุบันคาดหวังว่าจะได้รับอยู่ตลอด อุตสาหกรรมบริการทางการเงินจึงขับเคลื่อนไปข้างหน้าอยู่เสมอและเกิดบรรยากาศของการสร้างสรรค์นวัตกรรม
โดยผู้ประกอบการที่อยู่ในวงการต่างแสดงความพร้อมในการแข่งขัน บรรดาธนาคาร บริษัทประกัน บริษัทสินเชื่อสำหรับลูกค้ารายย่อย และบริษัทนายหน้าต่างเล็งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป
ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ทุ่มเงินสูงถึง 4 หมื่นล้านบาท สำหรับโครงการ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน (Digital Transformation) ระยะ 5 ปี ที่เริ่มต้นดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ. 2558 ส่วน ธนาคารยูโอบี ก็เปิดตัวธนาคารดิจิทัล “TMRW” แบบเต็มรูปแบบที่ไม่มีสาขา
แต่มีผลิตภัณฑ์ระดับนวัตกรรมมานำเสนอกลุ่มลูกค้าที่เติบโตในยุคสหัสวรรษใหม่หรือชาวมิลเลนเนียม อาทิ บริการวิเคราะห์รายจ่าย และบริการงานงบประมาณ การปรับองค์กรสู่ยุคดิจิทัลเป็นเรื่องท้าทายสำหรับสถาบันการเงิน เพราะหลายสถาบันยังพึ่งพาระบบทำงานแบบเก่าที่ใช้กันมานาน
แต่มักขาดการบูรณาการกับงานด้านอื่น และไม่อาจใช้งานร่วมกับระบบปรับโฉมองค์กรให้เข้ากับยุคสมัยใหม่โดยที่ไม่ต้องหยุดให้บริการ โดยทั่วไปแล้ว สถาบันการเงินจะใช้กระบวนการดึงข้อมูลแบบ ETL (extract, transform, and load) ซึ่งต้องทำทีละกลุ่มข้อมูล โดยอาศัยการเขียนรหัสเฉพาะเพื่อสั่งการ
กระบวนการนี้จึงต้องมีการเขียนรหัสคอมพิวเตอร์ใหม่ ทดลองชุดรหัสคำสั่งใหม่ ก่อนดำเนินการดึงข้อมูลใหม่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแหล่งข้อมูล ซึ่งเทคโนโลยี ดาต้า เวอร์ชวลไลเซชัน เป็นเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นกว่ามาก พร้อมส่งเสริมกระบวนการ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน ผ่านวิธีบูรณาการ
ส่งมอบข้อมูลแบบทันสมัย เมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการ ETL โดยทั่วไปแล้ว ดาต้า เวอร์ชวลไลเซชัน นั้นคล่องตัว ยืดหยุ่น และทรงพลังกว่ามาก ซึ่งเมื่อมี ดาต้า เวอร์ชวลไลเซชัน เป็นตัวช่วย สถาบันการเงินจะสามารถเข้าถึงและใช้ข้อมูลทุกอย่างในองค์กรทันทีราวกับว่าดึงข้อมูลมาจากแหล่งเดียวกัน
ไม่ใช่การดึงข้อมูลมาจากเซิร์ฟเวอร์หลายเครื่องหรือจากแอปพลิเคชันที่ต่างกัน นอกจากนี้ สถาบันการเงินยังได้ลดต้นทุนทั้งด้านต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานและด้านต้นทุนการดำเนินงาน เนื่องจาก ดาต้า เวอร์ชวลไลเซชัน ช่วยรวบรวมข้อมูลมาอยู่แหล่งเดียวกัน และลบข้อมูลซ้ำซ้อนทิ้ง
เมื่อกำจัดข้อมูลแบบไซโล (information silo) ที่ไม่จำเป็นออกไปได้ ผู้ใช้งานข้อมูลก็สามารถประหยัดเวลาในการบริหารจัดการข้อมูลและยังได้ใช้ข้อมูลอย่างเรียลไทม์ ที่สำคัญที่สุด คือ สามารถให้บริการที่ดีกว่าเดิมแก่ลูกค้า และมีศักยภาพในการเป็นผู้พลิกโฉมในวงการธุรกิจ
ที่มา : https://www.the-digital-insurer.com/big-data-and-ai-executive-survey-2019-march-2019/
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th