Advice ลั่นจบปี 62 โต 4-5% จากปีก่อน เผยช่องทางออนไลน์เติบโตต่อเนื่อง เชื่อปี 63 รายได้เพิ่ม 10% ขณะที่การเข้าตลาดหลักทรัพย์ชะลอไว้ก่อน…
highlights
- แนวโน้มในปี 63 เชิ่อว่าตลาดอุปกรณ์จะเติบโตไม่มากกว่าปี 62 แต่ต้องรอดูทิศทางของโครงการต่าง ๆ ของรัฐ ที่หากมีความชัดเจนมากขึ้น
- การเพิ่มช่องทางสื่อสารในเชิงให้ความรู้ในเว็บไซค์ ทำให้เราสามารถยังเติบโตได้กว่า 4-5% (ประมาน 13,000 ล้าน) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่เรายอมรับว่าปีนี้เราไม่สามารถขายได้ตามเป้าหมาย แต่จากเเผนในการดำเนินงานที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงช่องทางขายในสาขาต่างจังหวัด ขณะที่การเพิ่มร้านกับห้างเซ็นทรัลทำให้เราเชื่อว่าภายในปี 63 จะยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มได้ 10% จากปี 62 เป็นอย่างน้อย
Advice เตรียมปรับข่องทางเพิ่มในปี 63 เผยจบปี 62 รายได้น้อยกว่าเป้า
จักรกฤช วัชระศักดิ์ศิลป์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณต์ การขาย และการตลาด บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาช่องทางทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ มีแนวโน้มสดใส เตรียมขยายช่องทางการส่งสินค้าเพิ่ม หลังจากที่ปีก่อนจับมือกับ SCG พร้อมเล็งปรับปรุงสาขาเก่าในต่างจังหวัดเดิม
พร้อมเล็งขยายหน้าร้านร่วมกับเซ็นทรัลกรุ๊ป เพื่อเพิ่มช่องทางใหม่ให้ลูกค้า เช่นการเพิ่มความร่วมมือกับเพาเวอร์บาย (Power Bay) และ SCG ผ่านช่องทาง Market Place ของทั้ง 2 ราย
ด้านกิจกรรมในปีหน้ายังหนุนกีฬาอีสปอร์ต (E-Sport) ต่อเนื่อง หลังประสบความสำเร็จในการให้ความรู้ทำให้แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ในการเข้าสู่วงการกีฬาอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น ขณะกิจกรรมสำหรับลูกค้าแอดไวน์ เราได้เตรียมส่งมอบสิทธิประโยชน์ ของแถมให้คุ้มค่าที่สุด อาทิ การเเจกรถยนต์ในงานคอมมาร์ท เป็นต้น
ตลาดไอที 62 ทรง และมีแนวโน้มนิ่งต่อเนื่องถึงปี 63
สำหรับแนวโน้มของตลาดสินค้าไอทีในปี 62 ถือว่าไม่เติบโต ทั้งในกลุ่มโน๊ตบุ๊ค และพีซี แม้สินค้าในกลุ่มอีสปอร์ตจะมีแนวโน้มสดใส แต่ราคาสินค้าไม่ได้สูงเพราะเเบรนด์ต่าง ๆ แข่งขันกันหนัก และทำให้สินค้าในกลุ่มอื่นผลิตน้อยลง ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกน้อย
และเลือกใช้เท่าทีมีก่อน ขณะที่กลุ่มสินค้าสำหรับงานเอกสาร อาทิ พริ้นเตอร์ ฮาร์ตดิส ฯลฯ ผู้บริโภคน้อยลง เพราะหันไปใช้ Cloud มากขึ้น ร่วมถึงการเกิดขึ้นของเทคโนโลยี SSD ที่มีผู้ผลิตมากขึ้นทำให้ราคาลดลงเยอะ
ขณะที่สินค้าในกลุ่มโมบายส์ หรือสมาร์ทโฟน ความต้องการน้อยลงเพราะมีตัวเลือกเยอะมากไปในตลาด และเทคโนโลยีไม่หนีกัน ทำให้ผู้บริโภคไม่รีบเปลี่ยน แต่รอเปลี่ยนรุ่นที่แตกต่างกว่า
สำหรับแนวโน้มในปี 63 เชิ่อว่าตลาดอุปกรณ์จะเติบโตไม่มากกว่าปี 62 แต่ต้องรอดูทิศทางของโครงการต่าง ๆ ของรัฐ ที่หากมีความชัดเจนมากขึ้น แต่สำหรับเราในปี 62 เรายังเติบโตได้เนื่องจากเราขยายสอนค้าไปครอบคลุมสินค้าสำหรับองค์กรมากขึ้น และเรามีการขยายช่องทางผ่านออนไลน์ทั้งในของตัวเอง และพาทเนอร์
อีกทั้งเรายังมีช่องทางสื่อสารในเชิงให้ความรู้ในเว็บไซค์ ทำให้เราสามารถยังเติบโตได้กว่า 4-5% (ประมาน 13,000 ล้าน) เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่เรายอมรับว่าปีนี้เราไม่สามารถขายได้ตามเป้าหมาย แต่จากเเผนในการดำเนินงานที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงช่องทางขายในสาขาต่างจังหวัด
การเพิ่มร้านกับห้างเซ็นทรัลทำให้เราเชื่อว่าภายในปี 63 จะยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มได้ 10% จากปี 62 เป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ดีแม้การลงทุนจะไม่เยอะแต่ธุรกิจต่างยังต้องลงทุนในการขยายกิจการมากขึ้น
โดยในปีที่ผ่านมาแอดไวซ์สัดส่วนขายส่ง 65% ค้าปลีก 35% ทั้งนี้แอดไวซ์ได้มีการปรับเพิ่ม และโฟกัสในส่วนขายปลีกมากขึ้น โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างจังหวัด 85% กรุงเทพฯ 15%
ปัจจุบันแอดไวซ์มีแบรนด์ช็อปทั้งหมด 112 สาขา แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 11 สาขา ต่างจังหวัด 100 สาขา และที่ร่วมลงทุนกับเอซุสอีก 2 สาขา ซึ่งเมื่อรวมกับส่วนของ เฟรนไชส์จะมีกว่า 355 สาขา
“ปัจจุบันกลุ่มสินค้าของแอดไวซ์มีกว่า 10,000 รายการ แบ่งเป็น ดีไอวายคอมโพเนนท์ 30% โน้ตบุ๊ค 24% เดสก์ทอป 8-9% เครื่องพิมพ์ 17% ส่วนสมาร์ทโฟนประมาณ 3-4%”
ด้านปัจจัยบวกที่จะช่วยผลักดันให้ตลาดเติบโต น่าจะเป็นการลงทุนของหน่วยทั้งรัฐ และเอกชน ที่ต้องการยกระดับระบบงานให้ทันสมัยเพื่อตอบโจทย์เทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับตลาดในส่วนคอนซูมเมอร์ หรือผู้บริโภคทั่วไป สินค้าในกลุ่มโน๊ตบุ๊คน่าจะเป็นกลุ่มที่โตมากสุด แต่สินค้าต้องสามารถตอบโจทย์ทั้งการใช้งานปกติ และความบันเทิงอย่างการการเล่นเกม
นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าคอร์ปอเรท และเอสเอ็มอี ยังมีสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีที่จะเข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจ อาทิเช่น คลาวด์ ซีคิวริตี้ และ IoT (Internet of Things)
“ส่วนตัวเเล้วผมเชื่อว่าการทำตลาดในปีหน้าของผู้จัดจำหน่ายคือการส่งมอบสิ่งประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า ในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์ หรือออฟไลน์ หรือทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกค้าที่มาซื้อสินค้ามั่นใจว่าสามารถซื้อสินค้าไปแล้วยังได้รับบริการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้ หรือการแนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของเค้า” จักรกฤช กล่าว
สำหรับเรื่องการเข้าตลาดหลักทรัพย์น่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นภายในปี 63 แต่ตอนนี้เรากำลังอยู่ระหว่างปรับแผนใหม่อยู่ขณะที่การร่วมออกงานแสดงสินค้าไอที ที่ผ่านมา ยอดขายเราไม่ได้เยอะมากเท่าที่ตั้งใจ
อาจจะเป็นเพราะงานในครั้งนี้เป็นการจัดงานช่วงเดือนสุดท้ายของปี 62 ทำให้กำลังซื้อไม่เยอะ เพราะผู้บริโภครอที่จะใช้งานในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว และรอเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในปีหน้า
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th
