Advice โชว์รายได้ Q1/67 โต 3 พันล้าน กำไรสุทธิพุ่ง 19.69% แม้ตลาด IT ซบเซา

แอดไวซ์ (Advice) โชว์รายได้ไตรมาส Q1 ประจำปี 67 โตกว่า 3,568.38 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิพุ่ง 19.69% แม้ตลาด IT โดยรวมซบเซา และตัดสินไม่เข้าร่วมงานคอมฯใหญ่อย่างที่เคยทำ มั่นใจ 3 ปี หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์มั่นใจ 3 ปี สามารถสร้างรายได้แตะ 2 หมื่นล้าน …

Advice โชว์รายได้ Q1/67 โต 3 พันล้าน กำไรพุ่ง 19.69% แม้ตลาด IT ซบเซา มั่นใจ 3 ปี หลังเข้า SET สามารถสร้างรายได้ 2 หมื่นล้าน

ณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ แอดไวซ์ (Advice) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้รวมได้กว่า 3,568.38 ล้านบาท โดยเติบโตขึ้นกว่า 3.23% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (สิ้นสุด 31 มีนาคม 67) และมีกำไรสุทธิ 56.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.69%

โดยได้รับปัจจัยบวกจากของธุรกิจค้าปลีกที่มีมีรายได้เพิ่มขึ้น 231.22 ล้านบาท คิดเป็น 10.63% และแบ่งเป็นรายได้จากการขายปลีกผ่านช่องทางออนไลน์กว่า 17.06% โดยมีสินค้าในกลุ่มสมาร์ทโฟนแบรนด์ Apple และ Samsung ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค เป็นแรงผลักที่สำคัญ

ซึ่งการเติบโตของรายได้ดังกล่าวเกิดขึ้นแม้สภาพของตลาดเทคโนโลยีกำลังซบเซา เนื่องจากอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีเดิม ไปสู่ยุคของปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) และจากการเปลี่ยนแนวทางในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดของ แอดไวซ์ ที่เปลี่ยนจากเดิมมุ่งไปที่การเข้าร่วมงานคอมฯใหญ่ ที่ขาดทุนซะส่วนมากในการไปออก

เป็นการจัดกิจกรรมเอง อย่างเช่นการจัดงาน Advice IT Expo และยกระดีบงานบริการให้ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้ แอดไวซ์ มีรายได้จากการขายปลีกผ่านสาขาเพิ่มขึ้น 92.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 7.52% ประกอบกับ แอดไวซ์ ได้เปลี่ยนวิธีการซื้อสินค้าจากที่เคยซื้อสินค้า

จากผู้จัดจำหน่ายรายย่อย (Sub-Distributors) มาเป็น การซื้อสินค้าตรงจากผู้ให้บริการ หรือผู้ขาย (Supplier) ทำให้กำไรที่บริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น ด้านรายได้จากการขายปลีกลูกค้าองค์กร (Commercial) เพิ่มขึ้น 7.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.42% และรายได้ค่าบริการเพิ่มขึ้นจำนวน 0.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.29%

มั่นใจแม้ค้าส่งชะลอตัวแต่ไม่กระทบภาพรวม

แม้ว่าภาพรวมของธุรกิจค้าส่งยังคงอยู่ภาวะที่ชะลอตัว และมีรายได้ลดลง 9.53% หรือลดลงกว่า 119.23 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากในส่วนของ ดีลเลอร์ (Dealer) 96.02 ล้านบาท และ แฟรนไชส์ (Franchise) 23.21 ล้านบาท จึงทําให้ GP ของบริษัทฯ สูงขึ้น ซึ่งบริษัทฯ ก็เชื่อมั่นว่าไม่กระทบต่อภาพรวมของการเติบโตของบริษัทฯ

เนื่องจากธุรกิจค้าปลีกของบริษัทฯ มียอดขายเติบโตไม่ว่าจะเป็นสินค้าในกลุ่มโน๊ตบุ๊ค 2.48% และกลุ่มสินค้าอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นกว่า 7.99% ขณะที่สินค้าในกลุ่มของสมาร์ทโฟนเองก็มีการเติบโตที่โดดเด่นมากถึง 238.54% จากการเพิ่มไลน์อัปสินค้าใหม่ ๆ และโปรโมชั่นพิเศษ

อาทิ แบรนด์ Samsung ที่ได้ทำโปรโมชั่นพิเศษ “Samsung Finance Plus” ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถทำการซื้อสินค้าผ่านการผ่อนชำระสินค้าได้ง่ายขึ้น ขณะที่ฝั่ง Apple เอง โดยเฉพาะสินค้าอย่าง iPhone และ iPad ก็มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นกว่า 146.28%

ซึ่งนอกเหนือจากด้านการทำโปรโมชั่นของแบรนด์ต่าง ๆ แล้ว การทำโครงการ Easy E-Receipt ของภาครัฐ ในช่วงที่ผ่านมาก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนุนที่สำคัญ นอกจากนี้ แอดไวซ์ เองก็เตรียมแผนการที่ขยับไปช่องทางออนไลน์ และกิจกรรมที่สาขาของ แอดไวซ์ มากขึ้นในอนาคต

โดยจะมีการจัดทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าผ่านช่องทาง eMarketplace และสาขาเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการเดินหน้าเพิ่มช่องทางการจ่ายชำระค่าสินค้าผ่าน Digital Wallet เพิ่ม, การจัดโปรโมชั่นบัตรเครดิต และการทำแคมเปญพิเศษเฉพาะร่วมกับแบรนด์ รวมถึงยกระดับกระบวนการจัดส่งสินค้า และการจัดกิจกรรมพิเศษอย่างเช่น Advice IT Expo อย่างต่อเนื่อง

ส่วนกลุ่มสินค้า Desktop & AIO & Service ที่มียอดขายลดลง14.33% หรือ 55.68 ล้านบาท, กลุ่มสินค้า DIY ที่ยอดขายลดลง 4.00% หรือ 48.76 ล้านบาท และสินค้าอื่น ๆ ยอดขายลดลงกว่า 5.09% หรือ 21.77 ล้านบาท

นั้นเนื่องจากสินค้าต่าง ๆ นี้ ส่วนใหญ่ ขายในกลุ่มลูกค้า Commercial ซึ่งเป็นกลุ่มงานราชการเป็นหลัก โดยลูกค้ากลุ่มนี้ต้องรองบประมาณของทางราชการตามปีงบประมาณซึ่งออกล่าช้ากว่ากำหนดทำให้ตลาดน่าฟื้นกลับมาหลังจากที่งบประมาณเริ่มกลับมา 

อนาคตสดใสหลังเข้า SET เล็งนำเงินลงทุนขยายสาขาเพิ่ม และทำสาขาพิเศษร่วมกับ Apple และอาจได้เห็นสินค้าที่เกี่ยว AI เพิ่มขึ้น

ณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ กล่าวเสริมว่า แม้ปัจจุบัน แอดไวซ์ ยังจำหน่ายสินค้าไอทีเป็นหลัก แต่ภายในครึ่งปีหลัง แอดไวซ์ จะเดินหน้าขยับเข้าไปในส่วนของสินค้าที่มีความเกี่ยวเนื่องกับ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) เพิ่มขึ้น เนื่องจากเราเล็งเห็นมาซักพักแล้วว่าผู้บริโภคที่ต้องการอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าจะเป็นความต้องการ AI ในที่ช่วยเพิ่มความฉลาด ให้แก่ สมาร์ทโฟน หรือความต้องการใช้ AI ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดขั้นตอนการทำงาน รวมถึงเพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ โดยในเบื้องต้น แอดไวซ์ จะนำสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามา อาทิ CPU ที่สามารถประมวลผลด้วยระบบ AI เป็นต้น

และสืบเนื่องจากการที่ บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ แอดไวซ์ ได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วง มกราคม 2567 ที่ผ่านมา และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) และได้รับการตอบรับจนทำให้ บริษัทฯ มีสถานะทางเงินอยู่ในเกณฑ์ที่ดี จนสามารถนำไปจ่ายชำระคืนตั๋วสัญญาใช้เงิน

และลดใช้ตั๋วสัญญาใช้เงินลงส่งผลให้เกิดดอกเบี้ยจ่ายลดลง และเมื่อรวมกับการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำกิจกรรรมใหม่ไม่ไปเข้าร่วมงานคอมฯใหญ่ที่สร้างภาระค่าใช้จ่ายไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนกว่า 20 ล้านบาทในแต่ล่ะครั้ง หรือปีละเกือบ 50 ล้านบาท ลงได้

ทำให้ปัจจุบัน แอดไวซ์ มีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 50 สาขาในปีนี้ ในรูปของสาขาภายในห้างสรรพสินค้าตามหัวเมืองใหญ่ และสาขาที่เป็นอาคารของ แอดไวซ์ เอง รวมถึงเรายังมีแผนที่จะร่วมกับทาง Apple ในการเปิดร้านสาขาแบบ Stand alone ภายใต้ชื่อ iStudio by Advice ในพื้นที่ต่างจังหวัด กว่า 10 แห่ง

โดยในเบื้องต้นเราวางงบในการก่อสร้างไว้ 4 ล้านบาท ในแต่ล่ะแห่ง ซึ่งจะเป็นช้อปที่มีความแตกต่างจากช้อป Apple ทั่วไป โดยแบ่งเป็นจังหวัดละแห่ง ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างเลือกทำเล และส่งแบบการก่อสร้างให้ทางแอปเปิ้ล ให้ได้ภายในเดือน ตุลาคม 67 นี้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จราว 5 แห่ง และเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3

และอีก 5 แห่ง ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 67 นี้ นอกจากนี้ แอดไวซ์ อยู่ระหว่างศึกษา และวางแผนการขยายสาขาใน สปป.ลาว อีกด้วย ซึ่งขณะนี้มี 25 สาขา ใน 11 แขวง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษา ในการเข้าไปตั้งบริษัทฯ ย่อยใน สปป.ลาว ซึ่งอาจร่วมไปถึงการตั้งร้าน iStudio by Advice ใน สปป.ลาว เป็นรายแรกด้วย

ด้าน ดร.สรัญ ฐิตะวสันต์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ แอดไวซ์ กล่าวว่า การขยายสาขาของ แอดไวซ์ นี้ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ความตั้งใจของบริษัทฯ ที่ต้องการมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าไอทีครบวงจร ที่เติบโตอย่างมั่นคง ร่วมกับคู่ค้าในช่วง 3 ปีข้างหน้า

ไปพร้อมกับการเพิ่มยอดขายให้ได้ 20,000 ล้านบาท และเติบโตอย่างน้อย 10% ต่อปี ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่เดินเคียงข้างไปกับผู้บริโภค ด้วยการนำเสนอ สินค้า บริการ และโปรโมชั่นที่คุ้มค่า ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้ผู้บริโภคที่เป็นลูกค้าของ แอดไวซ์ ก้าวสู่ยุคของการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีเดิม ๆ ไปสู่โลกของ AI

ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ผ่านการทำแคมเปญพิเศษเฉพาะร่วมกับแบรนด์ และสถาบันทางการเงินชั้นนำของประเทศ ซึ่งในอนาคตเราอาจจะได้เห็นแคมเปญการเทิร์นอุปกรณ์เก่ากับอุปกรณ์รุ่นใหม่โดยที่ลูกค้าของ แอดไวซ์ ไม่ต้องจ่ายแพง ๆ เพื่อให้ได้ใช้เทคโนโลยีอัจริยะ หรือไม่ต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ แต่สามารถผ่อนได้ในราคาที่ไม่เป็นภาระมากก็ได้

” ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ การพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า และการสร้างความแตกต่างของสินค้า และบริการ เชื่อว่าจะสามารถทำให้ แอดไวซ์ รักษาการเติบโตอย่างอย่างยั่งยืนต่อไป” ณัฏฐ์ กล่าว

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th