เอไอเอส (AIS) โชว์ผลประกอบการ Q 2/2566 กำไร 7,180 ล้านบาท เติบโตกว่า 14% พร้อมทุ่มงบกว่า 30,000 ล้าน ขับเคลื่อนเป้าหมาย Cognitive Tech-Co ตามแผน…
AIS โชว์ผลประกอบการ Q 2/2566 กำไร 7,180 ล้านบาท เติบโตกว่า 14% พร้อมทุ่มงบกว่า 30,000 ล้าน ขับเคลื่อนเป้าหมาย Cognitive Tech–Co
เอไอเอส เผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ประจำปี 2566 ทำรายได้รวมอยู่ที่ 44,774 ล้านบาท ลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี
พร้อมทั้งส่งมอบกำไรสุทธิได้อย่
โดยในครึ่งปีหลัง เอไอเอส ยังคงเดินหน้าลงทุน เพื่อยกระดั
การพัฒนาโครงข่าย และโซลูชั

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์ที่เราประกาศ พร้อมยกระดับ เอไอเอส สู่การเป็น Cognitive Tech–Co หรือผู้ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะไปเมื่อช่วงปลายปี 2564 เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น
รวมถึงเราสามารถนำแนวทางดังกล่าวเข้ายกระดับการทำงานในองค์รวม ตั้งแต่งานปฏิบัติการโครงข่ายอัจฉริยะเพื่อพัฒนาคุณภาพสัญญาณสื่อสารให้แม่นยำ และสามารถแก้ไขปัญหาได้แบบ Realtime ผ่านการใช้ AI ร่วมกับการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบ IT ที่ชาญฉลาด
เพื่อความรวดเร็ว และความปลอดภัย มาจนถึงกระบวนการนำเสนอการให้บริการที่สามารถส่งมอบบริการให้ลูกค้าได้แบบ Personalization ด้วยการประยุกต์ใช้ Data Analytic ระดับสูง ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
แม้จะมีความกังวลสำหรับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ในขณะเดียวกันเราเริ่มเห็นเศรษฐกิจไทยเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ที่เป็นเครื่องยนต์สำคัญต่อ Ecosystem Economy ของประเทศ
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ของปี 2566 เอไอเอส มีรายได้รวมอยู่ที่ อยู่ที่ 44,774 ล้านบาท ลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีก่อน และลดลง 4.1% จากไตรมาสก่อน ในขณะที่รายได้จากการให้บริการหลักเติบโตขึ้น 1.8% จากไตรมาส 2 ปีก่อน และ 1.1% จากไตรมาสก่อน
และจากการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการนำเทคโนโลยี AI เข้าปรับใช้ในกระบวนการดำเนินงาน โดยเฉพาะด้านโครงข่ายให้เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้า ทำให้ เอไอเอสมีกำไรสุทธิที่ 7,180 ล้านบาท เติบโตขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีก่อน และเติบโตขึ้น 6.3% จากไตรมาสก่อน
โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เท่ากับ 23,317 ล้านบาท เติบโต 4.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เติบโตขึ้น 1.0% จากไตรมาส 2 ปีก่อน และ 0.8% จากไตรมาสก่อน มีจำนวนผู้ใช้บริการ 5G เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด กว่า 7.8 ล้านราย
เติบโตขึ้นจาก 3.9 ล้านราย ในไตรมาส 2 ปีก่อน ในขณะที่ปัจจุบันเอไอเอสมีจำนวนลูกค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่รวม 45.3 ล้านเลขหมาย และคงความเป็นผู้นำด้วยโครงข่าย 5G ที่ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการกว่า 99% ในกรุงเทพ และ 87% ของพื้นที่ประชากร
ประกอบกับการมีคลื่นความถี่ในการให้บริการมากที่สุดรวม 1460MHz (นับรวมคลื่นความถี่ที่ร่วมมือกับพันธมิตรรวมถึง NT ซึ่งอยู่ระหว่างการอนุมัติจาก กสทช.) ทำให้ เอไอเอส มีความพร้อมในการมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่า
ธุรกิจอินเทอร์เน็ต FTTR เติบโตต่อเนื่อง 5.4%
ขณะที่ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการขยายพื้นที่บริการ และการส่งมอบบริการและนวัตกรรมอินเทอร์เน็ตบ้านที่เหนือกว่ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทั้งการเชื่อมโยงอุปกรณ์กระจายสัญญาณและสร้างโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับ Gigabit ทุกห้องภายในบ้าน
ด้วยโครงข่ายไฟเบอร์ หรือ FTTR (Fiber to The Room) ที่พร้อมเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟแบบไร้รอยต่อ (Seamless Roaming) เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดทุกพื้นที่ในบ้าน หรือแม้แต่การเปิดให้บริการ WiFi 6E เทคโนโลยีมาตรฐานสัญญาณไร้สายใหม่บนคลื่นความถี่ใหม่ 6GHz เป็นรายแรก
ของอุตสาหกรรมบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตในเมืองไทย โดย เอไอเอส ไฟเบอร์ มีรายได้เติบโตกว่า 15% จากไตรมาส 2 ปีก่อน และเติบโตต่อเนื่อง 5.4% จากไตรมาสก่อน มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นกว่า 60,500 รายต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนและ มีฐานลูกค้ารวมกว่า 2.33 ล้านราย
ในส่วนของกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กรทำรายได้เติบโต 2.2% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน และยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อส่งมอบโซลูชันสำหรับภาคธุรกิจตั้งแต่ผู้ประกอบการ SME ไปจนถึง ภาคการผลิต และภาคอุตสาหกรรมในการทำ Digital Transformation ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แนวคิด เติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน

“การเดินทางสู่ Cognitive Tech–Co เป็นภารกิจหลักของชาว เอไอเอส ที่เราต้องการยกระดับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยให้ก้าวไปอีกขั้น ให้มีขีดความสามารถและมาตรฐานระดับสากล ที่สำคัญคือการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ผ่านโครงข่ายสื่อสารอัจฉริยะ
โครงข่ายเน็ตบ้านที่คุณภาพดีที่สุด และครอบคลุมที่สุดในประเทศ รวมถึงสิทธิพิเศษ และงานบริการที่ดีที่สุด เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการมุ่งส่งมอบคุณภาพ และประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า” สมชัย กล่าว
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th