CPF เลือก IBM Services เสริมประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นด้านไอทีให้กับระบบซัพพลายเชนด้านอาหาร รองรับผู้บริโภคหลายสิบล้านรายทั่วประเทศ…
CPF เลือก IBM Services เสริมประสิทธิภาพระบบซัพพลายเชนด้านอาหาร
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) (ซีพีเอฟ) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารชั้นนำระดับโลก เลือกใช้บริการ IBM Multivendor Support Services (MVS) เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพด้านไอทีและลดต้นทุนของศูนย์ข้อมูลทั้งสามแห่ง
ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลหลักที่สนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทและเครือข่ายการกระจายสินค้าทั่วประเทศไทย ซีพีเอฟ ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ และธุรกิจอาหาร รวมถึงร้านค้าปลีกและร้านอาหาร เพื่อรองรับธุรกิจที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซีพีเอฟ ได้ทำงานร่วมกับ ไอบีเอ็ม เซอร์วิสเซส ในการลดความซับซ้อนของการดำเนินงานด้านไอที ทั้งในส่วนของการบำรุงรักษาอุปกรณ์ การแก้ไขปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ และการบริหารจัดการอุปกรณ์ไอทีจำนวนมากที่มีอยู่ ความร่วมมือดังกล่าวช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษาอุปกรณ์ของซีพีเอฟลงถึง 25%

และลดเวลาที่ใช้ในการบริหารจัดการด้านไอทีลงถึง 20% นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังลดเวลาที่ซีพีเอฟต้องใช้ก่อนหน้านี้ในการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับเวนเดอร์ด้านไอทีต่างๆ ลดความเสี่ยงในการดำเนินงานโดยรวม รวมถึงชะลอค่าใช้จ่ายในการลงทุนของบริษัทออกไป
บริการที่ครบวงจรของไอบีเอ็ม รวมถึงประสิทธิภาพความพร้อมในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์ไอบีเอ็มและผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ เน็ตเวิร์ค รวมถึงบริการซัพพอร์ททั่วประเทศ ในฐานะผู้ให้บริการ Multivendor Support Services (MVS) ของซีพีเอฟ
ไอบีเอ็ม ยังรับรองความพร้อมใช้งานของระบบเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่ต่อเนื่องไม่มีสะดุด โดยซีพีเอฟสามารถเข้าถึง IBM Client Insight Portal ที่แสดงรายงานระบบคงคลัง และความเสี่ยงต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์
“นวัตกรรม และเทคโนโลยีถือเป็นเสาหลักของความสำเร็จของธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตรและธุรกิจอาหารของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่ามกลางความผันผวนของตลาดในปัจจุบัน ที่การทำให้ซัพพลายเชนทั้งระบบสามารถให้บริการผู้บริโภคทั่วไทยได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง”
ประกอบ ฤกษ์ปรีดาพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสของ บ.ซีพีเอฟ ไอทีเซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ด้วย IBM Multivendor Support Services (MVS) ปัจจุบันนี้เราสามารถจัดการสัญญาและประสิทธิภาพความพร้อมในการให้บริการโดยตรงจากไอบีเอ็มซึ่งเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียว
โดยมี IBM Client Insight Portal ที่เอื้อให้ ซีพีเอฟ สามารถตรวจสอบรายการอุปกรณ์ในดาต้าเซ็นเตอร์ รวมถึงระดับความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่ายได้ตลอดเวลา ทำให้วางแผนงานได้ล่วงหน้า ท่ามกลางสถานการณ์พลิกผัน และไม่แน่นอนในวันนี้
“ไอบีเอ็มมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำประสบการณ์ยาวนานจากการทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำและหน่วยงานภาครัฐมาใช้ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบไอทีแบบไฮบริดของซีพีเอฟ ด้วยบริการที่เสถียรและเชื่อถือได้ รวมทั้งการบำรุงรักษาเชิงป้องกันเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอาหารที่ให้บริการแก่ผู้บริโภคทั่วไทย”
ปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
ด้าน ปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีน และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าวว่า ไอบีเอ็มมีความยินดีที่ได้ช่วยให้ซีพีเอฟสามารถใช้ประโยชน์จากไฮบริดคลาวด์ได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ซีพีเอฟสามารถพลิกโฉมธุรกิจและผลิตภัณฑ์อาหารให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคหลายสิบล้านรายทั่วประเทศได้ดียิ่งขึ้น
จากผลการศึกษา Total Economic ImpactTM (TEI) ที่จัดทำโดย Forrester ในปี 2562 กับลูกค้า 266 ราย พบว่า IBM MVS ช่วยให้องค์กรต่างๆ มีผลกำไรสุทธิรวมกันมากกว่า 96 ล้านบาท (3.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงระยะเวลา 3 ปี
องค์กรที่ให้สัมภาษณ์ระบุว่าอายุการใช้งานของฮาร์ดแวร์เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1.8 ปี นอกจากนี้ 42% ของผู้ตอบแบบสำรวจยังระบุว่าบริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย หรือชะลอค่าใช้จ่ายในการลงทุนออกไปด้วยการใช้ IBM MVS ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าโซลูชันก่อนหน้านี้

ส่วนขยาย
* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว)
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.freepik.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th
