ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (Schneider Electric) เสนอ EcoStruxure IT รุ่นใหม่ ช่วยมอนิเตอร์ และบริหารจัดการโครงสร้างไอทีแบบไฮบริดที่ซับซ้อน…
highlight
- ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำระดับโลกด้านดิจิทัลทรานส์
ฟอร์มเมชันในการจัดการพลั งงานและระบบออโตเมชัน เผยว่าได้มีการปรับปรุงกลุ่มผลิ ตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ EcoStruxure IT ให้ทันสมัยตอบรับกับความต้ องการด้านไอที สำหรับการมอนิเตอร์ และการบริ หารจัดการโครงสร้างพื้นฐานไอที แบบไฮบริดที่ขยายตัวจนสร้ างความซับซ้อนมากขึ้นภายในช่ วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา
Schneider Electric เสนอ EcoStruxure IT รุ่นใหม่ ช่วยมอนิเตอร์ และบริหารจัดการ
เควิน บลาวน์ รองประธานอาวุโส EcoStruxure Solutions, Secure Power ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยว่า ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้มีการลงทุน และพัฒนา EcoStruxure IT เพื่อมอบประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น อีกทั้งให้ทางเลือกในการปรับใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าที่ผ่านมา
สำหรับองค์กรและสิ่งอำนวยความสะดวกในศูนย์โคโลเคชันทุกแห่งในโลก เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทียังคงขยายออกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความต่อเนื่องทางธุรกิจขึ้นอยู่กับทุกสิ่งตั้งแต่จุดเชื่อมต่อปลายทางที่เล็กที่สุดจนถึงศูนย์ข้อมูลที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุด
ดังนั้นการปรับใช้ Edge จึงถือว่ามีความสำคัญต่อการดำเนินการด้านศูนย์ข้อมูลแบบรวมศูนย์ และจำเป็นต้องมีเครื่องมือซอฟต์แวร์รูปแบบใหม่ เพื่อรักษาความยืดหยุ่น และความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ความยั่งยืนนับเป็นแนวโน้มสำคัญอีกประการหนึ่ง
นั่นคือ การใช้พลังงาน และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของศูนย์ข้อมูลองค์กร จำเป็นต้องมีการวัดและบริหารจัดการ ซึ่งจากการคาดการณ์ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค พบว่าภายในปี 2583 การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลทั้งหมดจะอยู่ที่ 2,700 TWh โดย 60% มาจากไซต์งานที่กระจายตัว และ 40% จากศูนย์ข้อมูล
ซอฟต์แวร์ DCIM รุ่นเก่านั้น สร้างขึ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ และนี่คือเหตุผลที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้มีการลงทุนใน EcoStruxure IT ที่จะช่วยปรับปรุงเรื่องการมอนิเตอร์ การจัดการ การวางแผน รวมถึงสร้างโมเดลระบบโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพด้านไอทีให้มีความทันสมัย ด้วยทางเลือกในการปรับใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น
ทั้งโซลูชันที่ใช้ภายในองค์กร รวมถึงบนคลาวด์ เพื่อรองรับสภาพแวดล้อมไอทีแบบกระจายศูนย์ในรูปไฮบริด ตั้งแต่ไม่กี่ไซต์งานจนถึงหลายพันไซต์ทั่วโลก
“ตั้งแต่ที่ DCIM ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในหมวดหมู่ของซอฟต์แวร์ ก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากนับแต่นั้นมา ซึ่งสภาพแวดล้อมด้านไอทีแบบไฮบริดนับเป็นเรื่องท้าทายกระทั่งสำหรับองค์กร CIO ที่มีความซับซ้อนมากที่สุด ในการที่จะรักษาความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และความยั่งยืนของระบบไอที
เราเรียกเทรนด์นี้ว่า DCIM 3.0 ซึ่ง ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กำลังลงทุน และพัฒนา EcoStruxure IT เพื่อมอบประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และทางเลือกในการใช้งานที่ให้ศักยภาพมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา สำหรับองค์กร และศูนย์โคโลเคชั่นทุกแห่งในโลก”
ตอบสนองเทรนด์ชั้นนำของอุตสาหกรรม ทั้งความยั่งยืน ปลอดภัย และยืดหยุ่น
การปรับปรุง EcoStruxure IT ให้ทันสมัยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ 99% ของ CEO ในบริษัทขนาดใหญ่ออกมายอมรับว่าปัญหาด้านความยั่งยืนมีความสำคัญต่อความสำเร็จทางธุรกิจ การรักษาความปลอดภัยยังคงครองอันดับ 1 ในการจัดอันดับของ Allianz Risk Barometer
และ 62% ของระบบ IT ที่หยุดทำงาน เป็นผลมาจากความล้มเหลวของโครงสร้างพื้นฐานของซัพพลายเออร์ที่ให้บริการคลาวด์ และโคโลเคชั่น ซึ่ง EcoStruxure IT มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่ครบวงจร ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีได้ยืดหยุ่น ปลอดภัย และยั่งยืนที่สุดในทุกที่
ทั้งนี้ EcoStruxure IT ช่วยให้ผู้จำหน่ายโซลูชั่นทั่วไปมีศักยภาพมากมาย ในการมอบคุณค่าผ่านแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนโดยตัวลูกค้าเอง ด้วย ได้แก่
- การมอนิเตอร์ และการบริหารจัดการ : การจัดการอุปกรณ์สำหรับพลังงานและอุปกรณ์ทำความเย็น ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพและการมอนิเตอร์ด้านสิ่งแวดล้อม
- การวางแผน และการสร้างแบบจำลอง : สำหรับการแสดงภาพ การติดตามสินทรัพย์ การจำลองรูปแบบ และการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง (change management) สำหรับอุปกรณ์มากกว่า 4,000 เครื่อง
- โซลูชัน และการผสานรวมการทำงานได้ตามที่กำหนด : โซลูชันนี้สามารถปรับให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของลูกค้า ทั้งการรายงานแบบอัตโนมัติ แดชบอร์ด หรือแม้แต่การย้ายข้อมูล และผสานรวมการทำงานได้ตามที่กำหนด ทั้งการทำงานร่วมกับ EcoStruxure IT และระบบหรือซอฟต์แวร์ของค่ายอื่นๆ ก็ตาม
ศูนย์ข้อมูลด้านสภาพอากาศเชิงบวกของ EcoDataCenter
EcoDataCenter ของลูกค้าของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ให้บริการทั้งโคโลเคชั่น และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง EcoDataCenter ตั้งอยู่ในเมือง Falun ประเทศสวีเดน ดำเนินงานโดยเน้นการแก้ปัญหาด้านสภาพอากาศที่เป็นบวก เมื่อถึงเวลาที่ต้องสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่
ก็มีการออกแบบให้มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดและรองรับอนาคตมากที่สุด บริษัทจึงต้องการพันธมิตรที่มีจุดร่วมเดียวกันในการให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืน และหันมาร่วมมือกับ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค
“ด้วยเทคโนโลยี และความรู้ในฝั่งของชไนเดอร์ บวกกับความมุ่งมั่นพยายามของเรา จึงเป็นความลงตัวในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้ประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
มิคาเอล สแวนเฟลด์ท ซีทีโอของ EcoDataCenter เผย EcoStruxure เป็นแพลตฟอร์มที่ผสานรวมผลิตภัณฑ์ของเราเข้าเป็นหนึ่งเดียว ในการมอบข้อมูลเชิงลึกได้อย่างแท้จริง เกี่ยวกับวิธีการทำงานของศูนย์ข้อมูลของเรา
มีทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทำหน้าที่ผสานรวมการทำงาน EcoStruxure IT ในทั่วโลก
เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์สูงสุดจากการใช้ EcoStruxure IT ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จึงสร้างทีมโซลูชันที่กำหนดการทำงานได้ตามต้องการ (custom solutions) ซึ่งประกอบด้วยวิศวกรที่มีทักษะ ที่จะคอยดำเนินการในการผสานรวมการทำงานได้ตามต้องการไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามในโลก
ทีมงานที่โดดเด่น และไม่เหมือนใครนี้ จะมอบทั้งทรัพยากร และความสามารถที่จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าสามารถปรับใช้ EcoStruxure IT ได้สำเร็จ
“ทีมงานดังกล่าว คือส่วนหนึ่งที่สื่อถึงสิ่งที่ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้กล่าวเอาไว้ ว่าเราเป็นบริษัทระดับโลกที่มีเครือข่ายท้องถิ่นมากที่สุด”
เควิน บราวน์ กล่าว สมาชิกในทีมพูดได้ 24 ภาษา และเป็นตัวแทนของ 15 สัญชาติ เราทำงานร่วมกับพันธมิตร และลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วโลก เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะประสบความสำเร็จทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
สามารถสัมผัสประสบการณ์จากการใช้งาน โซลูชั่น EcoStruxure IT รุ่นใหม่ ที่ช่วยตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมในด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ยืดหยุ่น ปลอดภัย และยั่งยืนมากขึ้น
ได้ในงาน Innovation Summit Bangkok 2023 ใน วันที่ 5–6 กรกฎาคม 2566 ณ Grand Hall ชั้น 2, ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th