TADA โดดรุกตลาดบริการเรียกรถไทย ชูจุดเด่นไม่คิดค่าคอมมิชชั่น และเป็นธรรม

ทาดา (TADA) เปิดตัวบริการเรียกรถแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่นอย่างเป็นทางการพร้อมพลิกโฉมนวัตกรรมการให้บริการในประเทศไทย…

TADA โดดรุกตลาดบริการเรียกรถไทย ชูจุดเด่นไม่คิดค่าคอมมิชชั่น และเป็นธรรมทั้งผู้ขับ-ผู้ใช้บริการ

ทาดา (TADA) แพลตฟอร์มเรียกรถแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่น ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันนี้ การเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งนี้แสดงถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของ TADA ในการเดินหน้าสานต่อความสำเร็จ

ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในประเทศสิงคโปร์มาสู่ประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจในการเดินทางอย่างปลอดภัย และสบายใจไปกับราคาที่เป็นธรรม พร้อมมอบส่วนลดและโปรโมชั่นสุดพิเศษสำหรับผู้ใช้แพลตฟอร์ม ทาดา ทุกราย

โดยการเปิดตัวครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ ทาดา ที่จะทำให้การเดินทางเข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน และช่วยสร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น ผ่านการกระจายราคา และรายได้ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างเป็นธรรม ระหว่างแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ ผู้โดยสาร และคนขับรถ

ซึ่งการขยายการให้บริการมาสู่ไทยครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ ทาดา ได้รับความนิยม และสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ได้ดำเนินกิจการมานานกว่า 5 ปี ใน ประเทศสิงคโปร์, กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้บริการด้านการเดินทางที่มีคุณภาพสูง และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน

ฌอน คิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ ทาดา กล่าวว่า ความสนใจของ ทาดา ในประเทศไทยไม่เพียงเกี่ยวข้องกับการเติบโตเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการส่งเสริมความร่วมมือและผสานการบริการของเราให้เข้ากับในประเทศไทยได้อย่างลงตัว ทีมของเราในประเทศไทยได้ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2566 

เป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการให้บริการที่เหมาะสมกับความต้องการผู้ใช้บริการในประเทศ การขยายตลาดครั้งนี้จึงเป็นมากกว่าแค่การขยายธุรกิจ แต่คือการนำเสนอวิสัยทัศน์ใหม่สู่อุตสาหกรรมการคมนาคม เพื่อสร้าง และสนับสนุนชุมชนที่ได้รับประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย

โดย ทาดา เป็นส่วนหนึ่งของ MVLLABS Group บริษัทแห่งการขับเคลื่อนที่ใช้เทคโนโลยีบล็อคเชน ซึ่งก่อตั้งโดยเค วู บริษัทยังได้พัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ONiON ที่ประสบความสำเร็จในโครงการนำร่องร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพีกรุ๊ป ของ ประเทศไทย

เคารพกฏหมาย และสร้างความเป็นธรรม โดยคำนึงประโยชน์ทั้ง ผู้ใช้บริการ และผู้ขับ

“เราไม่ได้คิดค่าบริการคอมมิชชั่นที่สูงจากพาทเนอร์คนขับ รวมถึงการคิดค่าบริการที่แพงจนเกินไป เพราะเราตั้งใจที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย เหมือนกับที่เราทำมาในสิงค์โปร และประเทศต่าง ๆ ที่ เราเข้าไปให้บริการ นั่นคือเป้าหมายของเรา ในส่วนของการหารายได้เราได้กำหนดให้เป็นไปตามที่กรมขนส่งทางบกของไทยกำหนด

โดยคิดค่าบริการแฟลดฟอร์มเพียง 20 บาท (สำหรับรถยนต์ของบุคคลทั่วไป) และค่าเรียกรถอีก 40 บาท (สำหรับค่าเปิดมิตเตอร์กรณีของรถแท็กซี่) และคิดค่าโดยสารตามระยะทางที่ผู้ใช้งานต้องการเดินทางไปโดยเป็นราคาที่เหมาะสม และเป็นไปตามกฏหมายที่ทางกรมขนส่งทางบกของไทยกำหนดไว้

ในขณะเดียวกันเราเองก็คิดคำนวนเอาไว้แล้วว่าค่าบริการแบบใดที่เหมาะสมโดยที่ผู้ขับจะสามารถอยู่ได้ และพึงพอใจต่อรายได้ต่อเที่ยวที่ได้รับ โดยในช่วงทดลองให้บริการ ทาดา เราได้ทดลองกับนักท่องเที่ยวที่เคยใช้บริการของ ทาดา เราแล้วในประเทศอื่น ๆ  ดังนั้นในช่วงเเรกจริงเป็นนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่เราเข้าไปให้บริการ

ในขณะที่กลุ่มเป้าหมายของ ทาดา เราไม่ได้กำหนดว่าจะต้องเป็นคนกลุ่มใดทุกคนสามารถใช้บริการของ ทาดา ได้หมด ส่วนเป้าหมายในการแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดในระยะนี้ ทาดา ยังไม่มีเป้าหมายว่าจะแย่งส่วนแบ่งตลาดเพราะเราอยากให้คนใช้งานบริการของเราก่อน

โดยในปัจจุบัน ทาดา มีผู้ขับที่ลงทะเบียนในระบบของ ทาดา แล้ว 15,000 คัน โดยเป็นแท็กซี่ไทย กว่า 60% ส่วนจำนวนที่เหมาะสมว่าต้องมีคนขับเท่าไรนั้นเราคงตั้งเป้าจะให้มีมากที่สุด แต่ต้องเป็นไปตามความเป็นจริง ไม่ใช่การหาคนมาให้มาก และล้นเหินความต้องการเท่าที่ทำได้เพื่อให้เพียงพอต่อการให้บริการ

ในประเทศไทย แน่นอนว่าความท้าทายของ ทาดา คือการบริหารจัดการระบบภายในให้เป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสม และเป็นธรรมต่อทั้งผู้ใช้บริการ และคนขับของเรา แต่นี่นคือสิ่งที่เราต้องทำอยู่แล้ว และก็เป็นสิ่งที่ทำให้ ทาดา กระสบความสำเร็จในทุกประเทศที่ ทาดา ไปให้บริการ

ซึ้งอาจจะต้องใช้เวลาที่จะประสบความสำเร็จ เพราะแต่ล่ะกรพเทศเองก็มีปัจจัยที่แตกต่างกัน แต่ด้วยโมเดลธุรกิจที่เราทำมาก็สามารถยืนยันได้ว่าสิ่งที่ ทาดา ทำอยู่ เป็นแนวทางที่สามารถใช้งาน และทำได้จริง” ฌอน กล่าว

โปรโมชั่นสุดพิเศษช่วงเปิดตัว

ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 พิเศษสุดกับโปรโมชั่นช่วงเปิดตัวมอบรีวอร์ดให้กับผู้ใช้แพลตฟอร์มรายใหม่เป็นส่วนลดมูลค่า 80 บาท สำหรับการเดินทางครั้งแรก โดยใส่โค้ด (IJOLNZ) ระหว่างการลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป

ส่วนผู้ใช้เดิมที่แนะนำเพื่อนใหม่มาใช้บริการแพลตฟอร์มจะได้รับส่วนลด 60 บาท สำหรับเพื่อนแต่ละคนที่ใช้บริการ นอกจากนี้ ทาดา ยังมีโปรโมชั่นช่วงเปิดตัวพิเศษสำหรับผู้ใช้ทุกคน รับส่วนลดสูงสุดถึง 300 บาท เมื่อใช้บริการ ทาดา ด้วยการใช้โค้ด (TADA60)

ผู้โดยสารสามารถแลกส่วนลด 60 บาทต่อการเดินทาง เพื่อใช้ในครั้งถัดไป รวมสูงสุดห้าเที่ยว โปรโมชั่นนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 ในฐานะผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการพิสูจน์ถึงความสำเร็จแล้ว ทาดา เป็นหนึ่งในห้าแพลตฟอร์มบริการเรียกรถที่ได้รับอนุญาต

จากหน่วยงานขนส่งทางบกของสิงคโปร์ (Singapore’s Land Transport Authority: LTA) ซึ่งได้ให้บริการแก่ผู้โดยสารในสิงคโปร์มานานกว่า 5 ปี ทาดา ได้เริ่มดำเนินการตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบกของประเทศไทยในปี 2566 และได้รับใบอนุญาตให้บริการเรียกรถโดยสารจากกรมการขนส่งทางบกอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

หัวใจสำคัญของแนวทางที่ไม่เหมือนใครของ ทาดา นี้ คือนวัตกรรมโมเดลแพลตฟอร์มแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่น โดยบริษัทคาดว่าจะเพิ่มจำนวนการลงทะเบียนของคนขับต่อไป ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ให้โอกาสในการเดินทางแบบไม่มีค่าคอมมิชชั่นสำหรับคนขับชาวไทย

ด้วยความร่วมมือกับบริษัทแท็กซี่ชั้นนำในประเทศ ทาดา ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนให้มากยิ่งขึ้น ผ่านการกระบวนการเชิญชวนให้ผู้สนใจทุกคนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ทาดา สำหรับคนขับรถและเริ่มขั้นตอนการลงทะเบียนได้ทันที

คนขับรถยังสามารถเยี่ยมชมศูนย์ให้บริการคนขับ ทาดา ไดร์ฟ เซนเตอร์ (TADA Driver Centre) ที่สำนักงานเลขที่ 2322 ชั้น 2 ซอยประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 เพื่อลงทะเบียนได้อีกด้วย

ทาดา เชื่อมั่นในการมอบประสบการณ์บริการเรียกรถที่เป็นธรรมและเสมอภาคกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง โดยได้ให้คำมั่นสัญญาและความมุ่งมั่นในการสร้างความเป็นธรรมและสร้างพลังสนับสนุนให้กับทุกฝ่าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อและแนวทางที่บริษัทยึดถือมาตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้ง

ด้วยการคิดค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มเพียงเล็กน้อยแทนค่าคอมมิชชั่น ทำให้ ทาดา สามารถเสนอราคาค่าโดยสารที่ไม่สูงและเป็นธรรมให้กับผู้โดยสาร ความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์นี้จะช่วยให้บริษัทสร้างเครือข่ายการขนส่งที่โปร่งใส เป็นธรรม และให้ผลตอบแทนทางการเงินที่ดีมากขึ้นในประเทศไทย

“การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ ทาดา ในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมบริการเรียกรถในประเทศไทย ให้กลายเป็นพื้นที่ที่มีความเท่าเทียมมากขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้บริการผู้โดยสาร ไม่ใช่เพื่อแสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว คนขับของ ทาดา คือพาร์ทเนอร์ของเรา

และ ทาดา เชื่อว่าพวกเขาควรได้มีวิถีชีวิตที่ยั่งยืน ซึ่งคนขับสามารถมีแหล่งรายได้ที่มั่นคงมากขึ้นด้วยนโยบายการไม่คิดค่าคอมมิชชั่นของเรา ในขณะที่ผู้โดยสารสามารถใช้บริการด้วยอัตราค่าโดยสารที่ให้ความคุ้มค่ามากขึ้นโดยไม่กระทบต่อคุณภาพ” ฌอน กล่าวเสริม

นอกจากนี้ ทาดา ยังมีแผนที่จะเปิดตัวบริการเรียกรถจักรยานยนต์และบริการอื่น ๆ โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในปี 2567 นี้

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

• Facebook
• Twitter
• Line