Targus เผยโฉมคอลเล็กชั่นแห่งปี 2019 พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแอคเซสซอรีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่ชั้นนำสำหรับชีวิตทำงาน และไลฟ์สไตล์ของคนไทย…
highlight
- ทาร์กัส (Targus) ฉลองครบรอบ 35 ปี ออกคอลเล็กชั่นใหม่สำหรับปี 2019 พร้อมตั้งเป้าตอกย้ำความสำเร็จของธุรกิจในไทย ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และมีคุณภาพ ผ่านผลิตภัณฑ์ทั้งเคสใส่อุปกรณ์ และคอมพิวเตอร์ แอคเซสซอรีและอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ อย่างครบวงจร
Targus เผยโฉมคอลเล็กชั่นแห่งปี 2019
มร. เอดิธ คา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดประจำประเทศในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก ของ ทาร์กัส กล่าวว่า ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดผลิตภัณฑ์โมบายล์ แอคเซสเซอรี บริษัทประสบความสำเร็จในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรม พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ทำธุรกิจ เดินทาง และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย
วันนี้ บริษัทมีความภูมิใจอย่างยิ่งที่จะประกาศวาระสำคัญเนื่องในโอกาสครบรอบ 35 ปี ของการดำเนินธุรกิจ และการเผยโฉมคอลเล็กชั่นปี 2019 ของเรา โดยเฉพาะโซลูชั่นด็อกกิ้งต่าง ๆ ที่ออกมารองรับเทรนด์สำนักงานเคลื่อนที่ และแนวคิดฮอตเดสก์หรือโต๊ะทำงานส่วนกลาง ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
ธุรกิจที่สร้างชื่อให้ทาร์กัสเริ่มต้นในไทยเมื่อพ.ศ. 2545 ที่ปรับจากกิจการรับผลิต (OEM) เป็นผู้ผลิตกระเป๋าคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป รวมทั้งเป้แบ็กแพ็ก ที่กลายเป็นธุรกิจหลักของบริษัทในไทย โดย 60% ของธุรกิจทาร์กัสมาจากกระเป๋า 40% ที่เหลือเน้นไปที่ธุรกิจโซลูชั่นเทคโนโลยีต่าง ๆ
ทาร์กัส มีผู้จัดจำหน่ายสำคัญ 2 ราย ในตลาดไทย ได้แก่ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (SIS Distribution) และบริษัท อินแกรม ไมโคร (Ingram Micro) และตัวแทนจำหน่าย (reseller) หลัก คือ ร้าน IT CITY superstore ที่มีสาขากว่า 70 แห่งทั่วประเทศ
ส่วนหนึ่งในคอลเล็กชั่นปี 2019 ของทาร์กัสที่ได้รับความสนใจท่วมท้น ได้แก่ รุ่น “Groove X generation 2–Max and Compact“, “CityLite Pro“, “Newport generation 2–convertible“, “Work and Play“ และยังมี “New iPad case“
ซึ่งเป็นหนึ่งในไอเท็มยอดฮิตหลังจากเปิดตัวไปได้ไม่นาน นอกจากนี้ ยังมี “Targus USB–C™ Universal Quad Video HD Docking Station“ (DOCK520USZ) ที่เพิ่งคว้ารางวัลนวัตกรรม CES® 2019 Innovation Awards Honoree
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว “Targus DOCK190“ ซึ่งเป็น Universal Docking Station (UDS) รองรับ USB Type–C 3.1 Gen 1 (USB Super Speed) อีกด้วย
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สำคัญของทาร์กัสในไทย คือ กลุ่มลูกค้า End User ได้แก่ นักเดินทาง นักธุรกิจ สุภาพสตรี และ ผู้ที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย คอลเล็กชั่น 2019 นำเสนอความเป็นที่สุดทั้งในด้านสไตล์และการปกป้องสูงสุด เหมาะกับลูกค้าชาวไทยที่ชอบตามติดเทรนด์ใหม่ ๆ และเทคโนโลยีโมบายล์
กลยุทธ์ส่วนหนึ่งของทาร์กัสในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คือ การเจาะตลาดบริษัท และองค์กรขนาดใหญ่ ด้วยโซลูชั่นด็อกกิ้งแบบต่างๆ ที่จะออกมาต่อเนื่องทุกปี พร้อมรั้งตำแหน่งผู้นำโซลูชั่นที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ประจำวัน ด้วยผลิตภัณฑ์หลัก คือ คอลเล็กชั่นกระเป๋าพรีเมียมที่ตอบโจทย์การใช้งาน และโซลูชั่นเทคโนโลยีที่ทรงคุณภาพ
ขณะเดียวกัน ทาร์กัสยังให้ความสำคัญกับการวิจัย และพัฒนา เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมทั้งจับมือกับพันธมิตรเพื่อขยายการจัดจำหน่ายในไทยให้กว้างขวาง
ในยุคที่การทำงานยืดหยุ่นสามารถทำได้ทุกที่ ทาร์กัส เล็งเห็นแนวโน้มการใช้สำนักงานร่วม (shared office) การมีโต๊ะทำงานส่วนกลาง และการเป็นฟรีแลนซ์อิสระกันมากขึ้น ตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปเมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล นอกจากนี้ บริษัทยังจะจัดงานสัมมนาให้แก่ลูกค้าองค์กรเป็นระยะ ๆ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้าน B2B
การเป็นทั้งผู้บุกเบิก และครองความเป็นผู้นำต่อเนื่องในตลาดผลิตภัณฑ์โมบายล์ แอคเซสเซอรี ทำให้ทาร์กัสมีความพร้อมในการนำอุตสาหกรรม และพัฒนาโซลูชั่นที่ทันสมัย ถึงพร้อมด้วยคุณภาพ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับมืออาชีพผู้ไม่หยุดนิ่ง ด้วยผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งเคสใส่อุปกรณ์ แอคเซสซอรี และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่าง ๆ
อย่างครบวงจร ซึ่งทาร์กัส มีความโดดเด่นต่างจากคู่แข่งด้วยผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานระดับพรีเมียม เปี่ยมด้วยคุณภาพสูง และได้สิทธิบัตรคุ้มครอง แบรนด์อื่นไม่สามารถลอกเลียนได้
“เราหวังว่าคอลเล็กชั่น 2019 นี้ จะช่วยยกระดับศักยภาพการใช้ชีวิตในยุคโมบิลิตี้ของมืออาชีพที่ไม่หยุดอยู่กับที่ พร้อมเดินหน้าพัฒนานวัตกรรม เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตของลูกค้ามีอิสระได้ดังใจ และใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ และพกพาต่าง ๆ ได้เต็มพลังในทุกสภาวการณ์ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ที่ในการสนับสนุนให้ผู้คนแสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่” มร.เอดิธ คา กล่าวเสริม
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th