Thailand Post เดินหน้าหนุนการแข่งขันอีคอมเมิร์ซภาคอีสานก้าวสู่ระดับโลก

Thailand Post

ไปรษณีย์ไทย (Thailand Post) เดินหน้าหนุนการแข่งขันอีคอมเมิร์ซ พร้อมเพิ่มอัตลักษณ์ให้กับสินค้าจากภูมิปัญญาชุมชนในภาคอีสานตอนบนให้สามารถเชื่อมต่อเศรษฐกิจสู่ระดับโลก…

highlight

  • บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โชว์ศักยภาพ ไปรษณีย์ไทย ในจังหวัดสกลนคร พบปีนี้มีการเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซทั้งจากกลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้ผลิตสินค้าหัตถกรรม อาหาร สินค้าแปรรูปเพิ่มขึ้น และเป็นอานิสงส์ให้เกิดการแข่งขันของธุรกิจขนส่ง ในสกลนคร และภาคอีสานตอนบน ให้เพิ่มสูงขึ้น ร่วมถึงการผลักดันการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่มีความได้เปรียบ
  • ปัจจุบัน ไปรษณีย์ไทย ยังคงเป็นหน่วยงานขนส่งสินค้าที่ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เลือกใช้เป็นอันดับ 1 จากความครบครันในด้านเครือข่าย ระบบเครือข่ายในการนำจ่ายรายได้ที่รวดเร็ว การออกแบบบริการต่าง ๆ ที่มีค่าบริการ ที่เป็นธรรม ที่มุ่งเดินเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดสกลนคร และพื้นที่อีสานตอนบน ควบคู่ไปกับการสนับสนุนสินค้าสร้างสรรค์ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้ประกอบการในพื้นที่
  • ไปรษณีย์ไทย โชว์ความสำเร็จการพัฒนาสินค้าภายใต้โครงการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” กับ ข้าวฮาง จากวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ด้วยการการพัฒนาสินค้าในระยะเวลากว่า 9 ปี ซึ่งช่วยให้สมาชิกในชุมชนมีรายได้มากขึ้น และยังเป็นช่วยเพิ่มมูลค่าข้าวให้สอดรับกับเทรนด์การดูแลสุขภาพ ควบคู่ไปกับการยกระดับภูมิปัญญาชาวบ้าน
  • เตรียมเพิ่มอัตลักษณ์ให้กับสินค้าผ่านแนวคิด 3 High ได้แก่ High Profile ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นสินค้าตัวท็อปในหมวดหมู่สินค้าทางการเกษตร และกลุ่มสินค้าประเภทข้าวที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจ และเลือกซื้อ High Benefit ในฐานะข้าวที่มีคุณค่าสูง ด้วยสาร GABA ที่ช่วยลดความดันโลหิต คลอเรสเตอรอล ความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน และ High Value ผ่านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลัก เช่น ข้าวฮางเหนียว ข้าวฮางเจ้าหอมมะลิ ข้าวฮางหอมนิล เพิ่มมูลค่ายกระดับต่อยอดเป็นสินค้าที่มีความสร้างสรรค์ เช่น คุกกี้ข้าวฮาง 3 สี เป็นต้น

Thailand Post เดินหน้าหนุนการแข่งขันอีคอมเมิร์ซ และสินค้าจากภูมิปัญญาชุมชนในภาคอีสานตอนบนให้ก้าวสู่ระดับโลก

Thailand Post
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า สกลนครเป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนร่วมกับจังหวัดนครพนม และจังหวัดหนองคาย ซึ่งพื้นที่นี้เป็นอีกพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญจากความโดดเด่นในเชิงภูมิศาสตร์ และมีระบบโลจิสติกส์ ที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน

โดยจากการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องของ ไปรษณีย์ไทย พบว่าปีนี้จังหวัดสกลนคร มีการเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซ (e-Commerc) ที่ผันตัวมาจากกลุ่มเกษตรกร กลุ่มผู้ผลิตสินค้าหัตถกรรม กลุ่มผู้ประกอบการอาหาร สินค้าแปรรูปเพิ่มต่อเนื่องทุกปี และจากการเข้าไปช่วยเหลือ-สำรวจความต้องการ

จาก ทีมขาย ทีมขน และทีมแคร์พบว่าธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงเลือกใช้ไปรษณีย์ไทยเป็นอันดับ 1 เนื่องด้วยการมีโซลูชันเก็บ แพ็ค ส่ง การแก้ปัญหาหลังการขายที่เป็นระบบ สามารถดำเนินได้อย่างรวดเร็ว การมีเครือข่ายที่เข้าถึงทุกพื้นที่ บริการที่เป็นมิตร รวมทั้งการออกแบบบริการต่าง ๆ ที่ตรง และเข้าใจผู้ดำเนินธุรกิจ

Thailand Post

ธุรกิจคอมเมิร์ซในภาคอีสานเติบโตสูงทำรายได้กว่า 1,500 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมการแข่งขันธุรกิจขนส่งในสกลนคร และภาคอีสานตอนบน ถือว่ามีการแข่งขัน ที่สูง เนื่องด้วยปัจจัยการค้าขายบนช่องทางอีคอมเมิร์ซที่เติบโต เส้นทางคมนาคมที่มีการพัฒนา-เดินทางสะดวก ซึ่งจะพบว่ามีการแข่งขันทั้งจากผู้ให้บริการธุรกิจขนส่งโดยตรง และการขนส่งที่ดำเนินโดย ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการแข่งขัน และจำนวนผู้ให้บริการที่เพิ่มขึ้น แต่รายได้ของ ไปรษณีย์ไทย ในพื้นที่ภาคอีสานยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา (มกราคม-ตุลาคม) รายได้ 1,500 ล้านบาท ซึ่งเติบโตโดยรวบขึ้นมากว่า 250%

โดยแค่เพียงเฉพาะที่ทำการไปรษณีย์ไทยในตัวเมือง จังหวัดสกลนคร เพียงสาขาเดียว ก็สามารถรายได้มากกว่า 103 ล้านบาท (มกราคม-ตุลาคม) ซึ่งจากสถานการณ์ทำให้คาดว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้คาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีการส่งของสูงที่สุดในรอบปี ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท

ซึ่งไปรษณีย์ไทยได้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นด้วยบริการที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น เช่น บริการรับฝากนอกที่ทำการ หรือ PickUp Service บริการขนส่งสิ่งของด้วยรถยนต์ควบคุณอุณหภูมิเพื่อขนส่งอาหาร ผลผลิตทางการเกษตร ของสด บริการเก็บ แพ็ค ส่งที่ออกแบบมาเพื่อแต่ละ ธุรกิจโดยเฉพาะ

ไปรษณีย์ไทย ยังได้ให้ความสำคัญมาอย่างยาวนาน เพื่อสร้างความพึงพอใจ และรักษาศักยภาพให้กับทุกธุรกิจ ตลอดจนระบบนิเวศการขนส่งที่ดีทั้งระบบ โดยที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทย ได้ด้พัฒนาบริการให้มีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้ผ่าน 3 แนวทาง

ได้แก่ การพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัล ที่ผู้ใช้บริการสามาถตรวจสอบสถานะรับฝาก และนำจ่ายได้แบบเรียลไทม์ บันทึก และรายงานผลทันทีเมื่อสิ่งของ หรือพัสดุอยู่ในแต่ละขั้นตอน การยกระดับบริการส่งด่วน EMS ซึ่งปัจจุบันนับเป็นบริการไฮไลต์ที่ทั้งผู้ประกอบการ และบุคคลทั่วไปให้สามารภนำจ่ายที่รวดเร็วในทุกพื้นที่ (เฉลี่ย 1–2 วัน)

การลดความเสียหาย หรือการสูญหาย ให้สิ่งของฝากส่งให้เป็นศูนย์ โดยมี ระบบแคร์คอนโทรล (Care Control) ที่จะช่วยดูแลสิ่งของทุกประเภท ทุกขนาด และจำนวนให้คงสภาพดี ผ่านการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสินค้าแต่ล่ะประเภท ตั้งแต่รับฝากจนถึงออกนำจ่ายทุกปลายทาง

Thailand Post

โดยที่ผ่าน ไปรษณีย์ไทย ยังได้เดินหน้าเพิ่ม ศักยภาพการคัดแยกพัสดุด้วยการติดตั้งเครื่องคัดแยกแบบ Cross Belt Sorter ขนาดใหญ่ ณ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ (EMS) และเครื่องขนาดเล็กในที่ทำการไปรษณีย์ในภูมิภาค เพื่อรองรับปริมาณสิ่งของจากกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

อีกทั้ง ไปรษณีย์ไทย เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการด้วยเครื่องให้บริการรับฝากอัตโนมัติ (APM) ให้ผู้ใช้บริการสามารถฝากส่งสิ่งของด้วยตนเองได้ง่าย ๆ ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับจังหวัดสกลนคร และพื้นที่อีสานตอนบน

ไปรษณีย์ไทยได้ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์เชิงรุก และเน้นจุดแข็งที่มีความสำคัญต่อพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนสินค้าสร้างสรรค์ให้เป็นที่รู้จัก และยอมรับ อาทิ ผ้าย้อมคราม ตะกร้าหวาย สินค้าประเภทอาหารและสินค้าทางการเกษตรที่ได้รับมาตรฐาน GI และมีมูลค่าสูง

เช่น ข้าวฮางทิพย์ หมูยอ ลิ้นจี่ สัปปะรด แคนตาลูป ฯลฯ การผลักดันให้ทุกภาคส่วนได้ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการขนส่งที่มีความได้เปรียบ ไม่ว่าจะเป็นการมีเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุด ความน่าเชื่อถือของมาตรฐานส่งด่วน EMS แพลตฟอร์มการช่วยจำหน่ายสินค้าออนไลน์ที่รองรับผู้ประกอบการได้ทั่วประเทศ อย่าง

Postman Network ที่สามารถนำข้อมูล และความรู้ ความเข้าใจในทุกพื้นที่มาต่อยอดนำเสนอบริการที่ตรงใจตลอดจนอนาคตของความเป็นดิจิทัล เช่น การรับส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ดิจิทัลโพสต์ไอดีเพื่อยกระดับให้พื้นที่นี้มีความทันสมัยตามบริบทไลฟ์สไตล์ และการทำธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ที่ผลักดันให้ ไปรษณีย์ไทย

เดินหน้าพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะ ไปรษณีย์ไทย เข้าใจเป็นอย่างดีว่า ผู้ประกอบการ หลาย ๆ แหล่งประสบปัญหาทั้งในด้าน ระบบการชำระรายได้ที่ล่าช้า จากผู้ให้บริการขนส่งเอกชน ทำให้ขาดสภาพคล่องในการนำเงินมาหมุมเวียนพัฒนาธุรกิจ รวมถึงในบางพื้นที่ยังคงขาดโอกาสในการนำเสนอสินค้า และผลิตภัณฑ์ของชุมชนของตนเอง

Thailand Post

รุกปั้นอัตลักษณ์แบรนด์ “ข้าวฮางทิพย์ เมืองสกลรับตลาดข้าวพรีเมียม ด้วยแนวคิด 3 Highอัปรายได้สู่วิสาหกิจเงินล้าน

ไปรษณีย์ไทย ยังคงเดินหน้าเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรที่มีศักยภาพในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ผ่านการเป็นทั้งผู้พัฒนาสินค้า ช่องทางขนส่ง ช่องทางตลาด และการจัดจำหน่าย รวมทั้งการปลุกปั้นแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภค โดยปัจจุบันหนึ่งในสินค้าที่เป็นที่นิยม และเป็นต้นแบบสินค้าที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง

คือ  อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็น แนวทางการต่อยอดสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทยอย่าง ข้าว ให้มีมูลค่าสูงขึ้นตามเทรนด์การดูแลสุขภาพ และยังเป็นการยกระดับภูมิปัญญาภูไทที่มีมากกว่า 200 ปี ของชาวสกลนครให้มีความโดดเด่น และมีความสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น

โดยตั้งแต่เริ่มพัฒนาสินค้าดังกล่าวภายใต้โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข เป็นระยะเวลากว่า 9 ปี ได้ช่วยให้วิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ บ้านกุดจิกมีแหล่งรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งได้รู้จักกรรมวิธีแบบใหม่ในการพัฒนาข้าวฮางให้มีคุณภาพ และยังได้การยอมรับในฐานะ OTOP ระดับ 3 ดาว อีกด้วย

ซึ่งการพัฒนาข้าวฮางภายใต้โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข ในระยะถัดไป ไปรษณีย์ได้ตั้งเป้าหมายและกำหนดอัตลักษณ์ที่สำคัญของสินค้าไว้ดังนี้

Thailand Post

High Profile ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นสินค้าตัวท็อปในหมวดหมู่สินค้าทางการเกษตร และกลุ่มสินค้าประเภทข้าวที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจและเลือกซื้อ สามารถป้อนตลาดคนรักสุขภาพ กลุ่มคนมีกำลังซื้อ กลุ่มผู้ป่วยหรือต้องคุมอาหารได้ทั้งช่องทางออนไลน์ www.thailandpostmart.com

ที่ทำการไปรษณีย์ หรือช่องทางร้านค้าที่ให้การสนับสนุนจัดจำหน่าย อีกทั้งยังมุ่งนำเสนอสตอรี่ที่สำคัญทั้งกระบวนการในผลิตที่ปลอดภัย มาตรฐานของสินค้า ผลลัพธ์ที่ได้จากการบริโภค เป็นต้น

High Benefit จากการผลิตด้วยกระบวนการแช่นึ่งผึ่งสี ที่กระตุ้นให้ข้าวงอก และทำให้ข้าว มีสารอาหารต่างๆ สูง โดยเฉพาะสาร GABA ซึ่งช่วยลดความดันโลหิต และปริมาณคลอเรสเตอรอล มีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคอัลไซเมอร์ อีกทั้งมีธาตุแมงกานีสในปริมาณสูง

ซึ่งจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง นอกจากนั้นข้าวฮางมีค่าการเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในกระแสเลือดต่ำจึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญที่มนุษย์จำเป็นต้องใช้ในการควบคุมระบบประสาทรวมทั้งกล้ามเนื้อ

High Value ยกระดับข้าวของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีรายได้ที่มากขึ้นจากสินค้าประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์หลักอย่างข้าวฮางเหนียว ข้าวฮางเจ้าหอมมะลิ ข้าวฮางหอมนิล ข้าวฮางมันปู ข้าวฮางไรซ์เบอร์รี่  ผ่านการผลิตขึ้นใหม่ การรับผลิตตามรายการสั่งซื้อ และงานแสดงสินค้าทางการเกษตร

รวมทั้งการต่อยอดเป็นสินค้าที่มีความสร้างสรรค์ขึ้น และรองรับกับไลฟ์สไตล์การบริโภคใหม่ ๆ ของคนเมืองอย่างเค้กกล้วยหอมข้าวฮาง ข้าวฮางกรอบ คุกกี้ข้าวฮางสามสีที่เป็นการใช้ข้าวฮางแทนแป้งสาลี มาเป็นส่วนประกอบหลักในการทำคุกกี้จากข้าวฮางที่มีคุณประโยชน์

Thailand Post

Thailand Post

“จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน วิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์มีสมาชิกรวม 28 ราย จัดอยู่ในหมวดหมู่วิสาหกิจชุมชนเงินล้าน มีผลผลิตข้าวเปลือกที่นำมาแปรรูปทำข้าวฮาง ประมาณ 15,000 กิโลกรัม และวิสาหกิจชุมชนฯ มีการรับซื้อข้าวเปลือกจากเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ 25,000 กิโลกรัม มีตลาดรองรับที่สำคัญ ได้แก่ รพ.วานรนิวาส

เพื่อทำเป็นอาหารสุขภาพสำหรับผู้ป่วย และแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามออเดอร์ อาทิ แป้งข้าวฮางสำหรับทำขนม คุกกี้ข้าวฮาง เค้กกล้วยหอม บราวนี่ ขนมปังกรอบ ชิฟฟ่อนข้าวฮาง การขายปลีกบนช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ฯ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 90 แห่ง มีการผลิต และมีบรรจุภัณฑ์ที่รองรับกับการ

จัดส่งในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้งการแพ็คแบบสูญญากาศในกล่อง และการบรรจุแบบขวด สามารถส่งข้าวฮางออกจำหน่ายได้ทั่วประเทศ นอกจากนี้ สินค้าดังกล่าวยังมีความโดดเด่นด้วยการจัดส่งที่รวดเร็วตามมาตรฐานส่งด่วน EMS เลือกซื้อได้ง่ายผ่านช่องออนไลน์ที่มีความสะดวกอย่าง www.thailandpostmart.com ปลอดภัย ให้บริการในราคาพิเศษ และจัดส่งต่อเนื่องตลอด 365 วัน” ดร. ดนันท์ กล่าว

Thailand Post
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

สำหรับในปี 2566 โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุขมีสินค้าที่เป็นไฮไลท์จาก 4 ชุมชน ที่ ไปรษณีย์ไทย ได้พัฒนาให้เกิดรายได้ และกระจายสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศด้วยแพลตฟอร์ม www.thailandpostmart.com เครือข่ายที่ทำการและมาตรฐานการขนส่งที่มีความปลอดภัยและรวดเร็ว ได้แก่

ไข่เค็ม อสม. ไชยา สินค้าเด็ดประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลาส้มสุขหล่ำ จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มพัฒนาอาชีพบ้านห้วยหมากหล่ำ อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี ข้าวฮางทิพย์ จากวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ลำไยอบกึ่งแห้ง แบรนด์ “ชนะ จากจังหวัดลำพูน

ตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข สามารถช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืนขึ้นให้กับชุมชนที่ร่วมโครงการไม่ต่ำกว่าหลักล้านบาท ช่วยนำพาให้สินค้าต่าง ๆ เข้าสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น และตอกย้ำเครือข่ายขนส่งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศให้เกิดประโยชน์ในมิติเศรษฐกิจ และคุณภาพ

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay