เดลล์ เทคโนโลยีส์ (Dell Technologies) พลิกโฉม “ศูนย์ข้อมูล” (Data Center) ครั้งใหญ่ อัดนวัตกรรม เพิ่มขุมพลังให้ไพรเวทคลาวด์ (Private Cloud) ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น…
highlight
- เดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดตัวโซลูชันโครงสร้างพื้นฐานแบบใหม่ “Disaggregated Private Clouds” ที่ช่วยให้องค์กรจัดการเวิร์กโหลดได้รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเน้นความยืดหยุ่นในการควบคุมข้อมูลผ่านระบบอัตโนมัติ Dell Automation Platform รองรับทั้งแบบ On-premises และ SaaS พร้อมผสานเทคโนโลยี AI และ Dell NativeEdge เพื่อบริหารจัดการคลาวด์และเอดจ์ได้อย่างชาญฉลาด รองรับการใช้งานร่วมกับ PowerStore, PowerFlex และ PowerMax ตอบโจทย์ด้านสตอเรจและความมั่นคงไซเบอร์อย่างครบวงจร
Dell Technologies พลิกโฉมศูนย์ข้อมูล ดัน Private Cloud สู่ยุคใหม่ที่ ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น
เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญด้าน โครงสร้างพื้นฐาน (Private Cloud) รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Disaggregated Private Clouds ซึ่งเป็นโซลูชันที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการเวิร์กโหลดได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
โดยโซลูชันนี้ประกอบด้วยการประมวลผล สตอเรจ และระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ที่รองรับเวอร์ชวลไลเซชันโดยเฉพาะ ทำให้องค์กรมีทางเลือก และความยืดหยุ่นในการควบคุมข้อมูลของตนเองได้มากขึ้น โดยไม่ต้องผูกมัดกับผู้ให้บริการรายเดียว
ทั้งนี้ Dell Private Cloud ให้บริการผ่าน Dell Automation Platform พร้อมตัวเลือกการติดตั้งทั้งแบบ On-premises และ SaaS ช่วยให้ลูกค้าสามารถทำงานได้แบบอัตโนมัติ ปรับขยายระบบได้ อีกทั้งบริหารจัดการไพรเวทคลาวด์ได้อย่างง่ายดาย
โดยใช้ระบบปฏิบัติการสำหรับคลาวด์ (Cloud OS Stack) ได้ตามต้องการ ร่วมกับโครงสร้างพื้นฐานแบบแยกส่วนของเดลล์ ไม่ว่าจะเป็น PowerStore, PowerFlex และ PowerMax โดยลูกค้าสามารถใช้ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อบริหารจัดการ และมอนิเตอร์โครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การผสาน Dell NativeEdge เข้ากับ Dell Automation Platform ยังมอบโซลูชันแบบ Full Stack ที่ปรับให้เหมาะกับการดำเนินงานในสภาพแวดล้อมเอดจ์ และคลาวด์แบบกระจายศูนย์ ได้อย่างง่ายดาย และปลอดภัย
โยตอบโจทย์ในด้านของ สตอเรจ และความมั่นคงทางไซเบอร์ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับไพรเวทคลาวด์ทุกรูปแบบ ซึ่งเดลล์กำลังนำเสนอนวัตกรรมสำคัญในเรื่องนี้ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสร้างไพรเวทคลาวด์ที่ฉลาดมากขึ้น รวดเร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น
Dell PowerStore เพิ่มโมเดล QLC พร้อมผสานการทำงานร่วมกับ Nutanix Cloud Platform
Dell PowerStore คือก้าวสำคัญด้วยการเพิ่มโมเดล QLC (Quad-Level Cell) ใน Dell PowerStore ซึ่งเป็นโซลูชันสตอเรจระดับองค์กรที่ใช้งานง่าย และให้ประสิทธิภาพสูง การอัปเดตครั้งนี้ไม่เพียงช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น แต่ยังเพิ่มความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลได้ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม
นอกจากนี้ Dell ยังได้ประกาศความร่วมมือเชิงลึกกับ Nutanix โดย Nutanix Cloud Platform จะรองรับการทำงานร่วมกับ Dell PowerStore อย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้นี้ การผสานรวมกันนี้เป็นการรวมจุดแข็งของทั้ง 2 บริษัทฯ เข้าด้วยกัน
ความก้าวหน้าด้านฮาร์ดแวร์
- ให้ประสิทธิภาพระดับเอ็นเตอร์
ไพร์ซ ในต้นทุนที่ถูกลง : PowerStore 5200Q มอบประสิทธิภาพความจุสูง ด้วยความคุ้มค่าของเทคโนโลยี QLC flash รองรับการขยายระบบได้อย่างยื ดหยุ่นสูงสุดถึง 25 เพตะไบต์ต่อคลัสเตอร์ พร้อมการจัดวางเวิร์กโหลดที่ เหมาะสมผ่านการผสานรวมกับคลั สเตอร์ PowerStore ที่มีอยู่ - ความมั่นคง และปลอดภัยที่ขับเคลื่
อนด้วยซอฟต์แวร์ : ยกระดับความมั่นคง และความปลอดภั ยขององค์กรด้วยฟีเจอร์ที่มาพร้ อมในตัว ทั้งระบบตรวจจับความผิดปกติ ระบบล็อกอินครั้งเดียว (SSO) และการยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริ ก รองรับ HashiCorp Key Manager และการทำสำเนาข้อมูลผ่าน Fibre Channel - การฟื้นฟูระบบด้วย AI (AI-powered self-healing) :ลดเวลาในการแก้ไขปัญหาได้มากถึง 90% ด้วยการตรวจสอบความสมบูรณ์
ของระบบ และซ่อมแซมได้แบบอัตโนมั ติ ขับเคลื่อนด้วยฟังก์ชัน Smart Support Auto-Heal
Dell PowerFlex รองรั บการรวมระบบสตอเรจขนาดเพตาไบต์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Dell PowerFlex มอบโซลูชันสตอเรจที่ผสานการทำงานอย่างลึกซึ้งกับเทคโนโลยีสำคัญอย่างเวอร์ชวลไลเซชัน และ Kubernetes ทำให้องค์กรสามารถจัดการสภาพแวดล้อมแบบ Hyper-Converged Infrastructure (HCI) และ Containerized Application ได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้ การเปิดตัว PowerFlex Ultra ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง Scalable Availability Engine (SAE) ซึ่งเป็นกลไกที่ช่วยให้การจัดการเวิร์กโหลดง่ายขึ้นอย่างมาก ช่วยลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน และที่สำคัญคือ ช่วยลดค่าใช้จ่าย ในขณะที่ยังคงให้ประสิทธิภาพ และความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ PowerFlex รุ่นใหม่นี้ ยังถูกออกแบบมา เพื่อตอบสนองความต้องการที่ซับซ้อนของเวิร์กโหลดในยุคปัจจุบัน ซึ่งช่วย ลดความซับซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่น รวมถึงช่วยให้สามารถผสานการทำงานได้ไร้รอยต่อ ใน 3 ด้าน ได้แก่
- พลิกโฉม Software–Defined Storage : Scalable Availability Engine (SAE) ของ PowerFlex พัฒนาบนสถาปัตยกรรม Native Block ที่กระจายศูนย์การทำงานได้อย่
างเต็มรูปแบบ พร้อมการเข้ารหัสแบบ Erasure-Coded ที่ให้ประสิทธิภาพสตอเรจสูงสุด ให้ความคงทน และสามารถปรับขยายระบบรองรั บดาต้าเซ็นเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้ วยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Data Center) - ประสิทธิภาพสตอเรจในระดับสูงสุด
: มอบประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้ อมูลสูงสุดถึง 80% พร้อมลดพื้นที่จริงในการติดตั้ งสตอเรจได้มากกว่า 50% ช่วยให้องค์กรจัดเก็บข้อมูลได้ มากขึ้นในพื้นที่ที่เล็กลง จึงช่วยลดต้นทุน และการใช้พลั งงาน - ความพร้อมใช้
งาน และความคงทนของข้อมูล : มอบความพร้อมใช้งานข้อมูลสูงถึง 10x9s อีกทั้งให้ความคงทนที่รองรั บความล้มเหลวของโหนดพร้อมกันได้ ถึง 2 โหนด ทำให้มั่นใจได้ว่าเวิร์ กโหลดองค์กรจะยังคงทำงานได้ต่ อเนื่อง แม้เกิดความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์ อีกทั้งยังรักษาความสมบูรณ์ ของข้อมูลในสเกลการใช้ งานขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิ ภาพ
Dell PowerMax มอบประสิทธิภาพเพื่อภารกิจสำคั ญของธุรกิจ พร้อมระบบอัตโนมัติ และความปลอดภัยครบวงจร
Dell PowerMax โฉมใหม่นี้ได้รับการยกระดับประสิทธิภาพสูงสุดถึง 25% จากความสามารถของซอฟต์แวร์ที่ล้ำหน้า ทำให้สามารถจัดการเวิร์กโหลดที่ซับซ้อนได้รวดเร็ว และมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ PowerMax ยังมอบความสามารถในการปรับขยายระบบ (Scalability) เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตได้อย่างเต็มที่
อีกทั้งยังเป็นโซลูชันสตอเรจระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับภารกิจสำคัญของธุรกิจ (Mission Critical Storage) โดยเฉพาะ ด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์ครั้งล่าสุด PowerMax จึงสามารถผสานการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมมอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ผ่านระบบอัตโนมัติ และความปลอดภัยขั้นสูง โดยครอบคลุม
- ระบบอัตโนมัติที่ให้ประสิทธิ
ภาพสูงขึ้น : ช่วยให้ทีมไอทีสามารถทำงานที่ สร้างคุณค่ามากขึ้น ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การอัปเดตซอฟต์แวร์ใน 1 คลิก ภายในเวลาไม่ถึง 6 วินาที การติดตั้งการจัดการแบบ zero-touch และสามารถลดขั้นตอนการเปลี่ ยนโหมดการทำซ้ำ (Replication Mode Changes) ได้สูงถึง 66% - การรองรับ QLC : PowerMax 2500 มาพร้อมการรองรับไดรฟ์ QLC สำหรับเวิร์กโหลดที่ต้
องการความจุระดับสูง ในขณะที่สามารถปรับขยายไดรฟ์ได้ อย่างยืดหยุ่นตั้งแต่ 122TB จนถึง 8.8PBe ต่ออาร์เรย์ - ความปลอดภัยขั้นสูง : แพลตฟอร์มสตอเรจนี้ มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ เช่น Single Sign-On (SSO) ด้วย Microsoft Entra ID และการแจ้งเตือนทางอีเมลแบบเข้
ารหัส เพื่อให้มั่นใจถึงมาตรฐานสูงสุ ดในการปกป้องข้อมูล และการปฏิบั ติตามข้อกำหนด
Dell PowerProtect ช่วยองค์กรสร้างรากฐานด้ านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์สมัยใหม่
Dell PowerProtect มีคุณสมบัติที่โดดเด่นคือความสามารถในการกู้คืนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ทางไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ หรือภัยคุกคามอื่น ๆ ช่วยให้ธุรกิจสามารถกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติโดยไม่เกิดการหยุดชะงักที่ยาวนาน
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลคือหัวใจขององค์กร โดย PowerProtect สามารถปกป้องเวิร์กโหลดที่หลากหลาย ทั้งแบบคอนเทนเนอร์ คลาวด์-เนทีฟ และเวอร์ชวล ครอบคลุมทั้งในดาต้าเซ็นเตอร์ และพับบลิคคลาวด์หลักทุกแห่ง โดยสามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภั
- อุปกรณ์ระดับเริ่มต้น แต่ให้ความปลอดภัยระดับเอ็
นเตอร์ไพร์ซ : PowerProtect Data Domain DD3410ใหม่ เป็นโซลูชันขนาดกะทัดรัดสำหรั บสำนักงานระยะไกลและสภาพแวดล้ อมขนาดเล็ก มาพร้อมความสามารถในการลดข้อมู ลที่โดดเด่น รองรับการปรับขยายแบบ Grow-in-place จาก 8 ถึง 32TBu และให้ความปลอดภัยขั้นสูงเพื่ อปกป้องข้อมูล อุปกรณ์นี้ยังรองรับระบบนิเวศด้ านซอฟต์แวร์แบ็คอัพและพันธมิ ตรที่ครอบคลุม พร้อมเชื่อมต่อการทำงานร่วมกับ PowerStore และ PowerMax ได้โดยตรง - ให้ประสบการณ์ความมั่
นคงทางไซเบอร์ที่ครบวงจร : PowerProtect Data Manager Appliance รุ่นใหม่ เป็นโซลูชันสมัยใหม่ที่ขับเคลื่ อนด้วยซอฟต์แวร์ (Software-Defined) ให้การจัดการแบบรวมศูนย์เพื่ อการดำเนินงานที่สอดประสาน ช่วยยกระดับความมั่ นคงทางไซเบอร์ด้วยการปกป้ องในระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจจับความผิ ดปกติ การป้องกันไม่ให้มีการเปลี่ ยนแปลงข้อมูล และรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูล เพื่อปกป้องระบบจากการหยุดชะงั กและภัยคุกคาม โดย Data Manager Appliance เป็นทางเลือกที่ดีที่สุ ดในการสร้างความมั่ นคงทางไซเบอร์ด้วย PowerProtect
“ที่ เดลล์ เทคโนโลยีส์ เรากำลังมอบศักยภาพให้ลูกค้าผ่
านโซลูชันที่นอกจากจะตอบโจทย์ ความท้าทายด้านไอทีในปัจจุบัน ยังสามารถรองรับความต้ องการในอนาคตได้”
ทราวิส วิจิล รองประธานอาวุโสฝ่ายการจั
“Nutanix Cloud Platform ของเราที่พร้อมรองรับ Dell PowerStore ในเร็ว ๆ นี้ จะให้ทางเลือกใหม่แก่ลูกค้
าในการออกแบบสถาปั ตยกรรมสภาพแวดล้อมระบบเสมื อนขององค์กรได้”
ด้าน โธมัส คอร์เนลี รองประธานอาวุโสฝ่ายการจั
“ปัจจุบันองค์กรต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทาย 2 ด้าน ทั้งการจัดการเวิร์กโหลดแบบเดิ
ม และเวิร์กโหลดสมัยใหม่ พร้อมต้นทุนที่สูงขึ้น และความต้ องการด้านไอทีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ ตลอดเวลา“
ขณะที่ ไซมอน โรบินสัน นักวิเคราะห์หลัก Enterprise Strategy Group ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Omdia กล่าวว่า ความก้าวหน้าล่าสุดของเดลล์
การวางจำหน่าย
- Dell Private Cloud พร้อมใช้งานแล้ววันนี้ โดยรองรับ Dell PowerStore, Dell PowerFlex และ Dell PowerMax
- Dell NativeEdge ที่ผสานรวมกับ Dell Automation Platform พร้อมใช้งานแล้ววันนี้
- Dell PowerStore 5200Q พร้อมวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2025
- การอัปเดตซอฟต์แวร์ Dell PowerStore จะพร้อมใช้ในเดือนตุลาคม 2025
- Dell PowerStore ที่รองรับ Nutanix จะเปิดให้ทดลองใช้งาน (Early Access) ในฤดูใบไม้ผลิปี 2026
- การอัปเดต Dell PowerFlex จะพร้อมใช้ในเดือนตุลาคม 2025
- การอัปเดต Dell PowerMax พร้อมใช้ในเดือนตุลาคม 2025
- Dell PowerProtect Data Domain DD3410 จะวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 1 ปี 2026
- Dell PowerProtect Data Manager Appliance จะวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 4 ปี 2025
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th