AIS ผนึกพลัง ภาครัฐ เอกชน และประชาชน แก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste)

เอไอเอส (AIS) สานต่อภารกิจแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ต่อเนื่อง ผนึกพลัง 3 ฝ่าย ภาครัฐ เอกชน ประชาชน ขยายจุดรับทิ้งทั่วไทย…

highlights

  • เอไอเอส สานต่อภารกิจ “ถ้าเราทุกคน คือเครือข่าย” จับมือพันธมิตร ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา เปิดแคมเปญใหญ่ต้อนรับวันสิ่งแวดล้อมโลก “คนไทยไร้ E-Waste” ขยายจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั่วประเทศรวมกว่า 1,806 จุด พร้อมรณรงค์เชิญชวนประชาชนคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ และนำไปทิ้งอย่างถูกวิธี สร้าง New Norm ต้อนรับชีวิตวิถีใหม่ ออกนอกบ้านครั้งใดพก E-Waste ติดตัวไปทิ้งด้วยทุกครั้ง
  • ร่วมมือกับพันธมิตรองค์กรชั้นนำ อาทิ ศูนย์การค้าเครือเซ็นทรัล, ไปรษณีย์ไทย, SMART Service ผู้ให้บริการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรร, ภาคีเครือข่ายความเพื่อยั่งยืนแห่งประเทศไทย TRBN โดยความร่วมมือของกลุ่มบริษัทจดทะเบียน ภายใต้การกำกับดูแลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, กลุ่มบริษัทย่านถนนพหลโยธิน และมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 40 องค์กรทั่วประเทศ ร่วมขับเคลื่อนแคมเปญใหม่ “คนไทยไร้ E-Waste” สร้างการตระหนักรู้เรื่อง ภัยอันตรายที่แฝงมากับขยะอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมขยายจุดรับทิ้งขยะทั่วประเทศ อำนวยความสะดวกให้คนไทยสามารถทิ้งขยะ E-Waste ได้ง่าย ใกล้บ้าน

AIS ผนึกพลัง 3 ฝ่าย สานต่อภารกิจแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า ในฐานะ Digital Life Service Provider ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อคนไทย เราให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจแบบเติบโตไปพร้อมกันทุกภาคส่วน โดยได้กำหนดทิศทางการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ครอบคลุมในมิติเศรษฐกิจ สังคมและ สิ่งแวดล้อม

โดยเฉพาะในด้านของสิ่งแวดล้อม ที่เรามุ่งมั่น ใส่ใจมาโดยตลอด ในปีที่ผ่านมาเราได้ริเริ่มโครงการ “ทิ้ง EWaste กับเอไอเอส ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสร้างการตระหนักรู้ และเป็นแกนกลางที่จะเป็นจุดรับและนำขยะอิเล็กทรอนิกส์จากประชาชนไปกำจัดอย่างถูกวิธี ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม

AIS

ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนทั่วไปอย่างดียิ่ง มีปริมาณขยะ EWaste เข้าสู่กระบวนการกำจัดรวมทั้งสิ้นกว่า 49,952 ชิ้น ในระยะเวลาเพียง 7 เดือน สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงถึง 499,520 กิโลกรัมคาร์บอนสมมูลย์ หรือเทียบเท่าต้นไม้ขนาดใหญ่ จำนวน 55,502 ต้น ดูดซับ CO2  เป็นเวลา 1 ปี

และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ความต้องการทางด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เห็นได้จากปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้มือถือในไทยที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 11.14% เนื่องจากประชาชนจำเป็นจะต้องใช้สำหรับการทำงานจากที่บ้าน (Work From Home)

AIS

การใช้บริการทางด้านสาธารณสุข (Telemedicine) และการศึกษาผ่านระบบออนไลน์ (Learn From Home) แต่ทว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในช่วงเวลาดังกล่าว อาจจะนำมาซึ่งผลเสียต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อมได้ในอนาคต หากคนไทยขาดซึ่งความตระหนักรู้ ไม่คัดแยก และทิ้งขยะ EWaste อย่างถูกวิธี

รวมถึงประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ถือว่าเป็นประเด็นระดับนานาชาติ เนื่องจากผู้คนทั่วทั้งโลกใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการดำรงชีวิตร่วมกัน ทั้งทรัพยากรดิน ทรัพยากรน้ำ และอากาศ ดังนั้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้ รวมถึงการรณรงค์เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ

AIS

และรักษาไว้ซึ่งความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต (Biodiversity) ของท้องถิ่นให้ดำรงอยู่ องค์การสหประชาชาติจึงได้มีการจัดตั้งวันสิ่งแวดล้อมโลกขึ้น ในวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี โดยปีนี้มีคำขวัญว่า Time for Nature ช่วงเวลาที่ธรรมชาติทั่วโลกจะได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

จึงถือเป็นโอกาสอันดี ที่เราจะใช้วาระวันสิ่งแวดล้อมโลกนี้ ประกาศเจตนารมย์ในการร่วมรักษา ฟื้นฟูธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมร่วมกับพันธมิตรทั้40 องค์กร รวมพลังของพนักงานทุกองค์กรกว่า 100,000 คน เปิดตัวแคมเปญ “คนไทยไร้ EWaste สร้างเครือข่ายรณรงค์และบอกต่อการรับทิ้งขยะ   

พร้อมทั้งร่วมขยายความตระหนักรู้ไปสู่คนไทยในเซกเมนต์ต่างๆ อย่างแพร่หลาย ทั้งกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน, กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัย, กลุ่มผู้พักอาศัยทั้งบ้านและคอนโด, กลุ่มโลจิสติกส์, กลุ่มช็อปเปอร์ เป็นต้น

AIS

และยังเป็นการเตรียมความพร้อมรับคลายล็อกดาวน์เฟส 3 ที่ภาครัฐบาลผ่อนปรนให้หลากหลายธุรกิจกลับมาเปิดดำเนินกิจการได้ตามปกติ รองรับกับความต้องการเปลี่ยนผ่านอุปกรณ์รุ่นเก่าของแต่ละครัวเรือน รวมถึงเป็นวิธีการทำงานเชิงรุกเพื่อป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอีกด้วย

ในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน ปีนี้ เอไอเอส ขอเป็นตัวแทนภาคีเครือข่าย “คนไทยไร้ EWaste เชิญชวนคนไทยคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ/แท็บเล็ต, แบตเตอร์รี่มือถือ, พาวเบอร์แบงก์, สายชาร์จ, หูฟัง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็

อาทิ กล้องถ่ายรูป, เครื่องเล่น MP3 นำไปทิ้งในจุดรับทิ้ง เป็นการต้อนรับชีวิตวิถีใหม่หลังคลายล็อกเฟส 3 ออกบ้านครั้งใดพก EWaste ติดตัวไปทิ้งด้วยทุกครั้ง

AIS

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.