AIS ประกาศมุ่งสร้าง Sustainable Nation ส่งเสริมการเติบโตของประเทศ

AIS

เอไอเอส (AIS) ก้าวสู่การวิวัฒน์ครั้งใหม่ของโลกดิจิทัล The Next Evolution มุ่งสร้าง Sustainable Nation ส่งเสริมการเติบโตของประเทศอย่างยั่งยืน…

AIS ประกาศก้าวสู่ The Next Evolution มุ่งสร้าง Sustainable Nation ส่งเสริมการเติบโตของประเทศ

เอไอเอส ประกาศเดินหน้าสร้างก้าวสู่การวิวัฒน์ครั้งใหม่ของโลกดิจิทัล The Next Evolution ด้วยการยกระดับขีดความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ และ AI สู่การส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลสุดล้ำให้กับคนไทยและองค์กรธุรกิจในทุกภาคส่วน

สอดรับการเป็นองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive TechCo ภายใต้แนวคิด Sustainable Nation ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทยบน Ecosystem Economy ทั้ง ผู้คน สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ในโลกดิจิทัล

  • การวิวัฒน์ของ Intelligence Infrastructure สู่โครงข่ายเน็ตเวิร์ค และนวัตกรรม
    • 5G Living Network ล้ำหน้าขั้นสุด ด้วยความร่วมมือกับ เอ็นที ที่จะทำให้ลูกค้าของ เอ็นที และ เอไอเอส รวมถึงคนไทยได้รับประสบการณ์ดิจิทัลที่เหนือกว่า
    • โครงข่าย Fibre ที่จะร่วมกับ 3BB ยกระดับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมกว่า 13 ล้านครัวเรือน
    • Enterprise PlatformCPaaS (Communication Platform as a Service) และ เอไอเอส พารากอน ที่เชื่อมต่อเครือข่าย 5G, Fibre, Edge Computing, Cloud, และ Software Application เพิ่มศักยภาพให้อุตสาหกรรมหลักของประเทศ

AIS

  • การวิวัฒน์ของ Cross Industry Collaboration อีกก้าวสำคัญของการร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรม
    • ยกระดับ Software และ Hardware ด้วยการนำ Generative AI และ Cloud PC มาเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    • ธนาคาร และ ร้านค้าปลีก ผ่าน Point Platform เชื่อมผู้ประกอบการรายย่อยร้านค้าถุงเงิน 1.8 ล้านร้านค้า และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงร้านค้าพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศกว่า 30,000 แห่ง

AIS

การวิวัฒน์ของ Sustainable เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของสังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการขยายความร่วมมือสร้าง Green Partnership และทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทยให้เข้าถึงความรู้ สร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัล และทักษะเพื่ออนาคต ผ่าน Academy for Thais

AIS
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เราเดินหน้าทำงานอย่างมุ่งมั่นตั้งใจด้วยแนวคิด Ecosystem Economy หรือ เศรษฐกิจแบบแบ่งปัน จากภารกิจทั้ง 3 ส่วน คือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอัจฉริยะ การเชื่อมต่อธุรกิจข้ามอุตสาหกรรม

และการดำเนินงานอย่างยั่งยืนพร้อมกับการพัฒนาความสามารถของบุคลากร เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะ อันจะนำไปเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทย หรือ Sustainable Nation

“เพราะวันนี้สถานการณ์โลกอยู่ท่ามกลางความท้าทายที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากสงครามที่เกิดจากภูมิรัฐศาสตร์, การปิดกั้นทางการค้าระหว่างประเทศ, ปัญหาพลังงาน, ภาวะเงินเฟ้อ, ปัญหาสภาพแวดล้อม เป็นต้น

ดังนั้น เอไอเอส จึงพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความแข็งแกร่ง และยั่งยืนของประเทศไทย ผ่านการวิวัฒน์ครั้งสำคัญของโลกดิจิทัล และอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย The Next Evolution ที่จะก้าวสู่การพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าในทุกมิติ

จากโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอัจฉริยะทั้ง โทรศัพท์เคลื่อนที่, เน็ตบ้าน, บริการลูกค้าองค์กร และ Digital Service โดยวันนี้ เอไอเอส ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีความล้ำหน้าไปอีกขั้น ตั้งแต่โครงข่าย 5G ที่ ยังคงความเป็นอันดับ 1 ในทุกด้านทั้งคุณภาพ และความเร็วของเครือข่ายสัญญาณ

ที่ได้รับการรับรองจาก Ookla® รวมถึงการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ เอ็นที บนคลื่น 700 MHz ที่นอกจากจะทำให้ลูกค้า เอ็นที และ เอไอเอส ได้รับคุณภาพการใช้งานที่เป็นเลิศแล้ว ยังเท่ากับเสริมความแข็งแกร่งและยั่งยืนให้แก่องค์กรโทรคมนาคมแห่งชาติอีกด้วย

AIS

สิ่งที่ เอไอเอส เชื่อมั่นเสมอมาก็คือ โครงข่ายโทรคมนาคมไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียง Dumb Pipe หรือท่อส่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สามารถยกระดับเพิ่มความอัจฉริยะ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ใช้งานได้อย่างไม่มีขีดจำกัด โดยวันนี้เราได้เตรียมทำการวิวัฒน์ครั้งใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

ด้วย Living Network หรือ เครือข่ายที่มีชีวิตซึ่งทำได้มากกว่าการสื่อสาร เพราะลูกค้าสามารถเป็นผู้ควบคุม สามารถเลือก และออกแบบการใช้งานบน Data ได้เองตามไลฟ์สไตล์ ซึ่งจะพร้อมให้บริการในเดือนธันวาคม 2566″ สมชัย กล่าว

ในส่วนของโครงข่ายเน็ตบ้านนั้น ความร่วมมือกับ 3BB จะทำให้เกิดประโยชน์กับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนไทยในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ถึงกว่า 13 ล้านครัวเรือน และธุรกิจเน็ตบ้านของ เอไอเอส จะก้าวสู่การเป็นผู้เล่นหลักของตลาด ที่พร้อมมอบนวัตกรรม และ ความเป็นเลิศด้านบริการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกับความพร้อมในกา

รเปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุด WiFi 7 เป็นรายแรกในไทย ร่วมกับ TPLink ที่มาพร้อมเราน์เตอร์มาตรฐาน WiFi 7 ในการรองรับดีไวซ์ Device ให้เชื่อมต่อได้ ลดปัญหาเกี่ยวกับช่องสัญญาณที่แออัด ทำให้ใช้งานได้ไหลลื่น รองรับการสตรีมแบบวีดีโอแบบ 8K การใช้งาน VR ที่ตอบโจทย์ทุกคนในบ้านได้อย่างครบถ้วน

AIS

นอกจากนี้ เอไอเอส ยังยกระดับ Enterprise Infrastructure และแพลตฟอร์ม ที่จะมาพลิกโฉมการทำงานขององค์กรภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรมให้สามารถนำดิจิทัลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในอนาคต

ผ่านการทำงานร่วมกับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลกที่ครบ และใหญ่ที่สุดในไทย ไม่ว่าจะเป็น Data Center, Bridge Alliance, เอไอเอส พารากอน รวมถึง Communications PlatformasaService หรือ CPaaS ที่เชื่อมตอบโจทย์ทุกการสื่อสารขององค์กรในรูปแบบของ Cloudbased

ร่วมมือ .กรุงไทย นำแพลตฟอร์มเชื่อมโยงร้านค้า

AIS

นอกจากนี้เรายังเชื่อมต่อพลังของพาร์ทเนอร์ อาทิ ความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย นำแพลตฟอร์มเชื่อมโยงร้านค้าถุงเงิน, ร้านธงฟ้า, ร้านค้ารายย่อย, โชว์ห่วย และร้านสตรีทฟู้ด รวมกว่า 1.8 ล้านร้านค้า และจับมือห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมถึงร้านค้าพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศกว่า 30,000 แห่ง ทั่วประเทศ

ผ่านความแข็งแกร่งของ Ecosystem ที่มุ่งสร้างทั้งประโยชน์ แบ่งเบาภาระ และมอบความพิเศษให้แก่ลูกค้า พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก และภาพรวมให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน

สำหรับในส่วนของประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่องค์กรจากความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์นั้น เราได้ทำงานร่วมกับ ZTE เพื่อเตรียมเปิดตัวบริการ Cloud PC for Enterprise ให้องค์กรสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในรูปแบบ Desktop as a Service (DaaS) บนระบบคลาวด์ที่จัดสรรได้ตามความเหมาะสม

AIS

บนความปลอดภัยสูงสุดในการเก็บข้อมูล นอกจากนี้เรายังมีความร่วมมือกับไมโครซอฟต์ ครั้งแรกใน South East Asia ที่พร้อมให้บริการ Microsoft Teams Phone ที่ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการระบบสื่อสารได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ประหยัดต้นทุน 

เพราะพนักงานสามารถโทรออกไปยังเบอร์ภายนอก และรับสายได้ผ่าน Microsoft Teams ที่คุ้นเคย รวมไปถึงการนำสุดยอดนวัตกรรม genAI ที่จะมาช่วยยกระดับการทำงานของโลกยุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกับ Microsoft 365 Copilot for Enterprise

AIS

เพราะโลกในยุคปัจจุบันธุรกิจไม่สามารถใช้ตัวชี้วัดด้านผลกำไรมาบอกถึงความสำเร็จได้แต่เพียงด้านเดียว แต่องค์กรต้องมีส่วนร่วมในการดูแล เศรษฐกิจ ผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่กัน ตามหลักของ SDGs ดังนั้นนอกเหนือจากการนำดิจิทัลเข้ามาสร้างการเข้าถึงอย่างเท่าเทียมแล้ว เรายังส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์

และปลอดภัยให้มีทักษะและเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพผ่านภารกิจ เอไอเอส อุ่นใจ ไซเบอร์ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบจากภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นหลากหลายรูปแบบในปัจจุบัน ผ่านหลักสูตรการเรียนรู้อุ่นใจไซเบอร์ 4P ที่มีผู้เรียนแล้วกว่า 300,000 รายสมชัย กล่าว

มุ่งสร้าง Green Network ด้วยนวัตกรรม

สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม เรามุ่งสร้าง Green Network ผ่านการบริหารจัดการด้วยนวัตกรรม อย่างการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในสถานีฐานเพื่อบริหารจัดการพลังงานให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้งานของลูกค้า หรือแม้แต่การเพิ่มสัดส่วนของการใช้พลังงานหมุนเวียนจากทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม

และในอีกด้านที่ดำเนินการควบคู่กันอย่างเข้มข้นคือ ชวนให้คนไทยมีส่วนร่วมในภารกิจนี้ด้วยการปลูกจิตสำนึกและการตระหนักถึงความสำคัญของการแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EWaste ตามเป้าหมายในการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างถูกวิธีแบบปราศจากการฝังกลบ หรือ Zero ewaste to landfill

โดยเราพร้อมเป็น HUB of ewaste ที่จะเป็นแกนกลางรวมทุกภาคส่วนมาร่วมกัน ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน

AIS

“เราตระหนักดีว่า บทบาทหลักของ เอไอเอส นอกจากสร้างมาตรฐานทั้งมิติของสินค้า บริการ นวัตกรรม และการดูแลลูกค้าอย่างเป็นเลิศแล้ว เรายังมีภารกิจในการสนับสนุนการเดินหน้าของประเทศ สู่การเป็น Sustainable Nation ซึ่งพนักงาน เอไอเอส ทุกคน พร้อมอย่างยิ่งที่จะทุ่มเท และทำให้ภารกิจนี้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน” สมชัย กล่าวสรุป

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay