AIS ต้อนรับ Deutsche Telekom เข้าสู่ Bridge Alliance พร้อมขยายบริการด้าน IoT

AIS

เอไอเอส (AIS) ต้อนรับ Deutsche Telekom เข้าสู่กลุ่มพันธมิตรผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของเอเชีย Bridge Alliance พร้อมขยายบริการด้าน IoT…

AIS ต้อนรับ Deutsche Telekom เข้าสู่ Bridge Alliance พร้อมขยายบริการด้าน IoT สู่ตลาดระดับนานาชาติ

เอไอเอส ยินดีต้อนรับ Deutsche Telekom เข้าสู่สมาชิกของ Bridge Alliance ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของเอเชีย ที่มีสมาชิก 35 ราย โดยมี Deutsche Telekom หรือ DT เป็นสมาชิกล่าสุด ซึ่ง เอไอเอส สามารถช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถนำโซลูชันการเชื่อมต่อไปใช้ได้อย่างไร้รอยต่อ

ในหลากหลายประเทศนอกเหนือจากในไทย รวมถึงพื้นที่ที่ DT ให้บริการในยุโรปเช่นกัน โดยผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือแม้แต่ผู้ผลิตเครื่องจักรในประเทศไทย สามารถขยายธุรกิจไปยังยุโรปได้อย่างง่ายดายด้วยบริการ IoT และ M2M จากเอไอเอส ที่สามารถสนับสนุนลูกค้าของ DT ในประเทศไทย

ในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำที่สามารถส่งมอบบริการคุณภาพระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ด้วยมาตรฐานของผู้รับจ้างผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (OEMs) ของเยอรมันและยุโรปสำหรับตลาดประเทศไทย

AIS
ภูผา เอกะวิภาต รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส

ภูผา เอกะวิภาต รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า การที่ Deutsche Telekom เข้ามาอยู่ในกลุ่ม Bridge Alliance จะช่วยเสริมศักยภาพของ เอไอเอส ในการส่งมอบบริการด้วยโซลูชันส์ นวัตกรรมดิจิทัล ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าองค์กร และภาคธุรกิจ

ครอบคลุมตลาดทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาคอย่างเอเชียแปซิฟิค และในยุโรปโดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี IoT และ 5G มาเชื่อมต่อกับภาคอุตสาหกรรมของไทย อย่างอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเคลื่อนตัวสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในฐานการผลิตที่สำคัญของผู้ประกอบการยานยนต์ชั้นนำของโลก

โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะขยายโอกาสให้กับการผลิตยานยนต์ และบริการ IoT จากประเทศไทย ส่งออกสู่ตลาดระดับนานาชาติ โดย เอไอเอส พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการในประเทศเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกับศักยภาพของเราในทุกมิติ รวมถึงยังช่วยสร้างโอกาส และส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนจากเทคโนโลยีดิจิทัล

กลุ่ม Bridge Alliance เข้าสู่ Deutsche Telekom ในฐานะสมาชิกโอเปอเรเตอร์ภูมิภาคยุโรป

AIS

Bridge Alliance กลุ่มพันธมิตรชั้นนำของผู้ให้บริการโทรคมนาคมระดับนานาชาติ ได้ประกาศความร่วมมือครั้งใหม่กับ Deutsche Telekom AG หรือ DT โดยความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการสร้างโอกาสเติบโตให้กับธุรกิจ Internet of Things (IoT) 

และจะทำให้จำนวนสมาชิกของกลุ่ม Bridge Alliance เพิ่มขึ้นเป็น 35 ราย ครอบคลุมตลาดมากกว่า 100  แห่ง และลูกค้ามากกว่าพันล้านรายในเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลางและแอฟริการวมถึงทวีปยุโรปด้วย โดย DT เป็นบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำระดับโลกที่มีการดำเนินงานมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก

การเข้ากลุ่มพันธมิตรชั้นนำของผู้ให้บริการโทรคมนาคมระดับนานาชาติในครั้งนี้จะทำให้ DT เปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ด้าน Internet of Things (IoT) ให้กับกลุ่มสมาชิก Bridge Alliance ให้สามารถเข้าถึงบริษัทต่าง ๆ ในภูมิภาคยุโรป ในขณะที่ Bridge Alliance จะช่วย DT นำเสนอบริการด้าน IoT ที่มีความหลากหลาย

และแตกต่างให้กับลูกค้าของตน พร้อมเข้าถึงลูกค้าในฝั่งเอเชียได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน ความร่วมมือกันระหว่าง Bridge Alliance และ DT นี้จะสร้าง “ประตูเชื่อมยุโรป-เอเชียแปซิฟิก” เปิดโอกาสให้กับองค์กรธุรกิจต่าง ๆ ด้าน IoT ในการขยายขอบเขตตลาดในการทำธุรกิจได้อย่างหลากหลาย

AIS

ดร.อง ก๊อก ชวี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม Bridge Alliance กล่าวว่า กลุ่ม Bridge Alliance รู้สึกตื่นเต้น และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ Deutsche Telekom เข้าสู่ครอบครัวสมาชิก Bridge Alliance ซึ่งกำลังฉลองครบรอบ 20 ปี ในปีนี้ และการเป็นสมาชิกของ Deutsche Telekom

จะช่วยให้ Bridge Alliance ขยายขอบเขตความครอบคลุมไปถึงภูมิภาคยุโรป ทำให้ปี 2024 นี้ถือเป็นอีกหมุดหมายที่สำคัญสำหรับ Bridge Alliance และเป็นที่มุ่งหวังถึงความร่วมมือที่มีผล และแข็งแกร่งกับ Deutsche Telekom ในการจับโอกาสการเติบโตทางธุรกิจด้าน IoT นี้ร่วมกัน

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งร่วมกับกลุ่ม Bridge Alliance ซึ่งจะทำให้เกิดการรวบรวมความรู้ ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคจากสมาชิกทั้งหมดเข้าร่วมกัน โดยความร่วมมือนี้ จะทำให้เราสามารถนำเสนอโซลูชันการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เพื่อเอาชนะความท้าทายต่างๆในระดับโลกที่เผชิญอยู่ในขณะนี้ได้”

AIS

ด้าน เดนนิส นิเคิลส์ Managing Director of Deutsche Telekom IoT กล่าวว่า “สำหรับองค์กรธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย ในขณะนี้เป็นโอกาสที่ดี และง่ายขึ้นมากในการขยายการทำธุรกิจด้าน IoT ในยุโรป โดยขณะนี้ธุรกิจที่น่าจับตามองอย่างยิ่งคือ การเติบโตของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าจากเอเชียในภูมิภาคยุโรป

ซึ่งลูกค้าในยุโรปจะได้ประโยชน์ด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยข้อเสนอระดับโลกที่แข็งแกร่ง ทั้งหมดภายใต้สัญญาเดียว การจัดการเดียว และบริการที่เป็นมาตรฐานทั่วโลก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมผู้ผลิตรถยนต์ในเอเชีย โดยเฉพาะตลาดยานยนต์ไฟฟ้าได้เติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นในประเทศจีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี โดยจีนถือเป็นผู้นำด้านรถยนต์ไฟฟ้า คิดเป็นประมาณ 60% ของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2022 ขณะที่ยุโรปเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2

โดยมีอัตราการขายรถยนต์ไฟฟ้า หนึ่งในห้าคันสำหรับตลาดฝั่งยุโรป การเป็นพันธมิตรกันระหว่างกลุ่ม Bridge Alliance และ DT จะเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายตลาดทั้งสำหรับผู้รับจ้างผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (OEMs) ที่ต้องการมองหาการเชื่อมต่อสื่อสารทั้งข้อมูล และเสียงสำหรับรถยนต์ในระดับโลก

นอกเหนือขอบเขตฝั่งเอเชีย หรือ ผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปที่ต้องการขยายตลาดการขายรถไฟฟ้าในเอเชียแปซิฟิก โดยเป็นที่รู้กันดีกว่า ภูมิภาคเอเชีย เป็นภูมิภาคที่มีความท้าทายในการขยายธุรกิจใหม่ เนื่องจากตลาดในเอเชียมีระดับความเติบโตของตลาด กฎระเบียบ และความสามารถทางเทคโนโลยีที่แตกต่างกันมากในแต่ละตลาด

ซึ่ง Bridge Alliance สามารถนำเสนอโซลูชันการเชื่อมต่อ IoT ระดับ award-winning ที่หลากหลาย และครอบคลุมการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการเชื่อมต่อ IoT ออกสู่ตลาด ทั้งในและต่างประเทศได้

AIS

อาทิ การเชื่อมต่อ IoT ของรถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ (Connected Car) ที่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อสู่ศูนย์กลางข้อมูลจากรถยนต์ในหลากหลายประเทศภายในภูมิภาค ด้วยโมเดลการให้บริการที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ลูกค้าสามารถทำสัญญาการเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลักเพียงรายเดียว

และได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกโอเปอร์เรเตอร์พันธมิตรกลุ่ม Bridge Alliance ในภูมิภาค วิธีการทำงานนี้จะช่วยขจัดความซับซ้อนของการดำเนินงาน และช่วยให้สามารถออกผลิตภัณฑ์ในหลากหลายประเทศ หรือ ระดับภูมิภาค และยังได้รับเครือข่ายที่มีคุณภาพ รวมถึงบริการจากผู้เชี่ยวชาญในตลาดกลุ่มเป้าหมายของตน

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay