เอไอเอส (AIS) สกมช. (NCSA) ผนึกกำลัง กยศ. ขยายผลหลักสูตร “อุ่นใจไซเบอร์” สร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ให้เยาวชน และกลุ่มผู้กู้ยืม พร้อมสะสมชั่วโมงจิตสาธารณะ…
highlight
- เอไอเอส และ สำนักงานคณะกรรมการการรั
กษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่ งชาติ (สกมช.) พร้อมด้วย กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึ กษา หรือ กยศ. ร่วมภารกิจสร้างภูมิคุ้มภั ยไซเบอร์ เดินหน้าขยายผลการเรียนรู้หลั กสูตรอุ่นใจไซเบอร์หลักสู ตรการเรียนรู้ด้านทักษะดิจิทั ลที่ได้รับรองจากกระทรวงศึกษาธิ การให้เป็นไปตามมาตรฐานของหลั กสูตรการศึกษาไทยไปยังนักเรี ยนระดับมัธยมปลายสายสามัญ สายอาชีพ กลุ่มอาชีวศึกษา และนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาผู้ กู้ยืม เพื่อให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้ การป้องกัน รับมือ หรือแม้แต่การลดความเสี่ ยงจากการใช้งานดิจิทัลที่อาจมี ภัยคุกคามทางไซเบอร์แฝงมาในทุ กรูปแบบ พร้อมยังได้สะสมชั่วโมงจิ ตสาธารณะได้ 3 ชั่วโมง
AIS x NCSA ผนึกกำลัง กยศ. ขยายผลหลักสูตร “อุ่นใจไซเบอร์” ให้เยาวชน และกลุ่มผู้กู้ยืม

สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์ และงานธุรกิจสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า การส่งเสริมการใช้งานดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบ ถูกต้อง ปลอดภัย และสร้างสรรค์ คือหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ เอไอเอส ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
โดยวันนี้เรามุ่งเป็นแกนกลางของสังคมในการสร้างเครือข่ายขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาภัยไซเบอร์ อย่างการพัฒนาหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ หลักสูตรด้านดิจิทัลที่ถูกพัฒนาให้เป็นไปตามมาตรฐานของหลักสูตรด้านการศึกษาไทย ซึ่งครอบคลุมทักษะการใช้งานบนโลกดิจิทัล
ได้แก่ Practice ปลูกฝังให้มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างถูกต้อง และเหมาะสม, Personality แนะนำการปกป้องความเป็นส่วนตัวบนโลกอออนไลน์, Protection เรียนรู้การป้องกันภัยไซเบอร์บนโลกออนไลน์ และ Participation รู้จักการปฏิสัมพันธ์ ด้วยทักษะ และพฤติกรรมการสื่อสารบนโลกออนไลน์อย่างเหมาะสม
โดยที่ผ่านมาเราได้ทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนเพื่อส่งต่อหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ไปยังกลุ่มเป้าหมายของแต่ละองค์กร ซึ่งวันนี้มีคนไทยเข้าเรียนในหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์แล้วกว่า 390,000 คน และครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือครั้งสำคัญผ่านการทำงานร่วมกับ สกมช. และ กยศ.
ที่จะเป็นการส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา กลุ่มผู้กู้ยืมจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ได้มีทักษะดิจิทัลรู้เท่าทันทุกภัยไซเบอร์จากการเรียนหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทำงานอย่างสอดประสานกันในครั้งนี้จะช่วยทำให้เป้าหมายการทำงานของทั้ง 3 หน่วยงานบรรลุตามวัตถุประสงค์
และจะช่วยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เยาวชนไทยสามารถใช้งานดิจิทัลอย่างเกิดประโยชน์พร้อมอยู่กับโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย และสร้างสรรค์

ด้าน ชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กล่าวว่า การทำงานร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) และ เอไอเอส ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้นักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืม และเจ้าหน้าที่สถานศึกษา
ให้มีทักษะรู้เท่าทันภัยคุกคามไซเบอร์ที่แฝงมากับการใช้บนออนไลน์ และยังได้สะสมชั่วโมงจิตสาธารณะเพิ่มเติมได้อีก 3 ชั่วโมง เพราะวันนี้กลุ่มนักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมต้องมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการกู้ยืม และชำระเงินคืนแบบออนไลน์ผ่านระบบดิจิทัล การมีความรู้ในการรับมือและป้องกันภัยไซเบอร์
จึงเป็นแนวทางหลักที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโดนหลอกลวงและหยุดภัยไซเบอร์ได้ผ่านหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ที่ได้มาตรฐานรองรับจากกระทรวงศึกษาธิการ และเราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการยกระดับให้เยาวชนผู้กู้ยืม และบุคลากรของกองทุนฯ มีทักษะพร้อมเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีคุณภาพต่อไป
ภารกิจสำคัญ คือ “เฝ้าระวัง ป้องกัน และลดความเสี่ยง“

พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ กล่าวต่อไปอีกว่า ภารกิจสำคัญของสกมช.คือการมุ่งมั่นในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อยกระดับประเทศให้มีความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ
สกมช. จึงได้เร่งหารือร่วมกับ กยศ. และ เอไอเอส บูรณาการร่วมมือระหว่างกัน สนับสนุนและส่งเสริมการเรียนรู้หลักสูตรออนไลน์ “อุ่นใจไซเบอร์” ให้แก่นักเรียน นักศึกษา ผู้กู้ยืม กยศ. เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง และสามารถนับชั่วโมงการเรียนรู้เป็นกิจกรรมจิตสาธารณะเป็นจำนวน 3 ชั่วโมง
ซึ่งถือเป็นความสำเร็จร่วมกันทั้ง 3 ฝ่าย ในการผลักดันกิจกรรมดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรมและถือเป็นการทำงานเชิงรุกในการสร้างการตระหนักรู้ ให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ มีภูมิคุ้มกันภัยไซเบอร์ สามารถปรับตัวในการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ และใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัย
ซึ่งการทำงานร่วมกับ กยศ. และ เอไอเอส ในครั้งนี้ถือเป็นวาระสำคัญที่จะช่วยทำให้การทำงานร่วมกับของภาคส่วนต่างๆ เกิดการบูรณาการและใช้ขีดความสามารถร่วมกันในการวางรากฐานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ โดยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านภัยไซเบอร์
ให้แก่ นักเรียน นักศึกษาผู้กู้ยืมจากกองทุน รวมถึงบุคลากรทางการศึกษาให้รู้เท่าทันและสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th