Case study : ถอดบทเรียนการต่อสู้ และฟื้นตัวธุรกิจทาง Facebook ในช่วงนิวนอร์มอล

Facebook

ถอดรร้านอาหาร “เป็นลาว” บทเรียนการต่อสู้ และฟื้นตัวธุรกิจทาง Facebook ในช่วง นิวนอร์มอล (New Normal) จนสามารถกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง…

ถอดบทเรียนการต่อสู้ “เป็นลาว” หลังใช้ Facebook ฟื้นตัวธุรกิจ ในช่วง New Normal

ขณะที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับให้เป็นประเทศที่สามารถฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ดีเป็นอันดับต้นๆ ธุรกิจจำนวนมากยังคงเดินหน้าปรับไปสู่ช่องทางดิจิทัลในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ สถานภาพ และความเป็นอยู่ของชุมชนผู้ประกอบการรายย่อยของไทยจึงถือเป็นจุดสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นตัว

และหลายคนต่างมองหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนร้านค้า (พร้อมแฮชแท็ก #ร้านดีบอกต่อ หรือ #SupportSmallBusiness) และช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถกลับมายืนหยัดได้ระหว่างที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงนิวนอร์มอล

ในช่วงที่ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล สิ่งสำคัญคือการคอยสังเกตวิธีที่เจ้าของธุรกิจใช้แพลทฟอร์มของ เฟซบุ๊ก (Facebook) ในการต่อสู้กับความท้าทาย พร้อมทั้งมองหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือธุรกิจอื่น ๆ เพิ่มเติม

Facebook

ผนึกกำลังชุมชน และการระดมทุนเพื่อสนับสนุนบรรดานักสู้ชาวไทย

เมื่อครั้งที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับผลกระทบขั้นรุนแรงจากโรคระบาด สถานที่ต่าง ๆ ต้องปิดตัวลง ประชาชนต่างร่วมมือกันรักษาระยะห่างอยู่กับบ้าน ในส่วนของทีมงานบุคลากรทางการแพทย์เองนั้นต้องทำงานตลอดเวลา เพื่อช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดภายในประเทศ ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในไทยต่างได้รับผลกระทบอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจด้านบริการที่ต้องปรับแนวทางการทำงานอย่างแทบจะในทันที เนื่องจากพนักงานหลายๆ คนถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องหยุดทำงาน นอกจากนี้ ปัญหาด้านการเงินยังกลายเป็นความท้าทายประจำวันสำหรับการอยู่รอดของธุรกิจ

ร้านอาหาร เป็นลาว ร้านอาหารอีสาน ตั้งอยู่ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา คือหนึ่งในร้านอาหารที่เห็นถึงความเสี่ยง และผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหาร จึงมองหาวิธีที่จะช่วยให้พนักงาน และเพื่อน ๆ กลุ่มเจ้าของร้านอาหารสามารถฟันฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ไปได้

ช่วยเหลือทีมงานแพทย์ และพยาบาลรับมือสู้กับโควิด-19 

Facebook

ด้วยเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่น ร้านอาหาร เป็นลาว จึงได้ริเริ่มโครงการ ข้าวเพื่อหมอ (Food for Fighters) ซึ่งเป็นโครงการระดมทุนบน เฟซบุ๊ก เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยได้จัดสรรมื้ออาหารให้กับทีมบุคลากรทางแพทย์ประจำโรงพยาบาลต่างๆ ผ่านการร่วมมือกับเครือข่ายร้านอาหารท้องถิ่น

หลังจากที่ได้โพสต์ขอความช่วยเหลือผ่าน เฟซบุ๊ก ส่วนตัว โครงการข้าวเพื่อหมอได้ขยายเครือข่ายสมาชิกสู่เจ้าของร้านอาหารจำนวน 30 แห่งอย่างรวดเร็ว รวมถึงซัพพลายเออร์ร้านอาหาร และสตาร์ทอัพด้านธุรกิจส่งอาหารทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่ต่างร่วมมือร่วมใจกันจัดส่งกล่องข้าวให้กับทีมแพทย์และพยาบาล

โดยภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน เครือข่ายพันธมิตรโครงการเติบโตขึ้นจากจำนวนร้านอาหาร 30 แห่งสู่ 100 แห่ง โดยสามารถผลิตอาหารได้ 30,000 กล่อง ด้วยแรงสนับสนุนจากเงินระดมทุนจำนวนเกือบ 2 ล้านบาท โครงการนี้สามารถผลิตและส่งอาหารให้กับทีมงานทางการแพทย์ และชุมชนต่าง ๆ กว่า 20 แห่ง

ได้โดยเฉลี่ย 1,000 กล่องต่อวัน พร้อมช่วยเหลือพนักงานร้านอาหารจำนวน 1,500 ชีวิตให้มีรายได้ที่มั่นคงในช่วงเวลาวิกฤต

Facebook
พันชนะ วัฒนเสถียร เจ้าของกิจการ “เป็นลาว” และผู้ก่อตั้งโครงการข้าวเพื่อหมอ

พันชนะ วัฒนเสถียร เจ้าของกิจการ “เป็นลาว” และผู้ก่อตั้งโครงการข้าวเพื่อหมอ กล่าวว่า แม้ว่าเราจะได้กำไรไม่มากนัก แต่การช่วยเหลือธุรกิจร้านอาหารต่างๆ ให้สามารถดำเนินต่อไปได้นั้นเป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำ พวกเราทุกคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในโครงการนี้ต่างมาจากหลากหลายที่ และมีเรื่องราวเบื้องหลังที่แตกต่างกันไป

ความตั้งใจของเราไม่ได้เป็นเพียงเพื่อการกุศล แต่คือการช่วยเหลือธุรกิจให้สามารถยืนหยัด และอยู่รอดท่ามกลางวิกฤต ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการช่วยทีมงานทางการแพทย์ให้ได้มีเสบียงอาหารอย่างต่อเนื่อง และเพียงพอ

และการทำงานในช่วงเฟสที่ 2 กลุ่มของเรามีความตั้งใจจะสนับสนุนเกษตรกรหรือผู้สรรหาวัตถุดิบท้องถิ่นภายใต้คอนเซ็ปต์ Cloud Kitchen ซึ่งเรากำลังดำเนินการอยู่

โซเชียลมีเดียทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ

Facebook

การใช้แพลทฟอร์มโซเชียลมีเดียมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ พันชนะ โดยไม่ได้ถูกใช้งานเพียงเพื่อการติดต่อกับผู้ประกอบการ และเจ้าของธุรกิจร้านอาหารอื่น ๆ เพื่อเชิญชวนให้เข้าร่วมโครงการข้าวเพื่อหมอเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาใช้เพื่อความอยู่รอดของร้านอาหารเป็นลาวเอง

และได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าควรใช้ เฟซบุ๊ก เป็นช่องทางหลักในการสื่อสาร ซึ่งก่อนหน้านี้ ร้านอาหารเป็นลาวได้ใช้งาน เฟสบุ๊ค เมสเซนเจอร์ เป็นช่องทางในการติดต่อกับลูกค้าของทางร้านเป็นประจำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อทางร้านได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทีมงานได้ปรับปรุงเนื้อหาในเพจ

Facebook

เพื่อเชิญชวนให้ผู้ที่เว้นระยะห่างทางสังคมอยู่ที่บ้าน เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น เช่น การสร้างสรรค์วิดีโอวิธีทำอาหารเมนูต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเนื้อหาเหล่านี้ถูกถ่ายทำด้วยวิธีการที่เรียบง่ายโดยการใช้โทรศัพท์มือถือ

เพื่อให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์ร้านอาหารอีสานที่เป็นมิตรและเข้าถึงง่าย โดยมีเชฟอายุน้อย และเชฟผู้มีประสบการณ์ของทางร้านทั้งสองคนทำหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์บนช่องทางออนไลน์

ผลลัพธ์ที่ได้คือเนื้อหาของเพจสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้เป็นอย่างดี และจากการที่มีคนหันมาทำอาหารกินเองและมองหาวัตถุดิบในการทำอาหาร ขณะอยู่ที่บ้านมากขึ้น ร้านอาหารเป็นลาวจึงได้ใช้เครื่องมือเชิงธุรกิจบน เฟซบุ๊ก ในการขายสินค้าของทางร้านผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งรวมถึงการใช้งานฟีเจอร์หน้าร้านออนไลน์

(Shop) บนแพลทฟอร์มเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าและน้ำยำ รวมถึงจัดระบบการชำระเงินด้วยการใช้การสนทนาผ่านการแชทเพื่อการค้าขายด้วย Messenger ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี และสามารถเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น อีกทั้งยังสามารถต่อยอดความสำเร็จด้วยการรวบรวม และโปรโมทรีวิวเชิงบวกต่าง ๆ ของทางร้าน

Facebook

การสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กในประเทศไทยบน Facebook

Facebook

เรื่องราวของ พันชนะ วัฒนเสถียร เป็นตัวอย่างของความเข้มแข็งที่ยอดเยี่ยมของธุรกิจขนาดเล็กในประเทศไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะที่ประเทศกำลังปรับตัวสู่ภาวะนิวนอร์มอล และ เฟสบุ๊ค ก็ได้ดำเนินงานในส่วนของตนเองเพื่อสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นอย่างเต็มที่

เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า เฟสบุ๊ค และ อินสตาแกรม ได้เปิดตัวโครงการ #SupportSmallBusiness เพื่อแชร์วิธีการใหม่ๆ ให้ผู้คนสามารถสนับสนุน และค้นพบธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึงนำเสนอเครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อให้ธุรกิจได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง และครบถ้วน

และเชื่อมต่อกับลูกค้าของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้นโครงการดังกล่าวประกอบด้วยการเปิดตัวสติ๊กเกอร์สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็ก (Support Small Business) บน อินสตาแกรม และแฮชแท็ก #SupportSmallBusiness บน เฟสบุ๊ค เพื่อให้ผู้ใช้ได้แสดงถึงการสนับสนุนต่อธุรกิจขนาดเล็กที่พวกเขาชื่นชอบ รวมถึงฟีเจอร์การสั่งซื้ออาหาร (Food Order) บน อินสตาแกรม

ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถแชร์สติ๊กเกอร์สั่งซื้ออาหารผ่าน Instagram Stories และปุ่มสั่งซื้ออาหารบนหน้าโปรไฟล์ของทางร้านได้ อีกทั้งยังนำเสนอบทความเชิงให้ความรู้แก่ผู้บริโภค โดยแชร์วิธีการง่าย ๆ เพื่อให้ผู้คนสามารถสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นในภาวะนิวนอร์มอลได้อย่างต่อเนื่อง

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เฟสบุ๊ค ยังได้เปิดตัวหลักสูตรฝึกอบรมออนไลน์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ภายใต้โครงการ Boost with เฟสบุ๊ค  เพื่อเสริมทักษะดิจิทัลแก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทย ในขณะที่กลุ่มชุมชนของธุรกิจท้องถิ่นเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง

โดยหลักสูตรการฝึกอบรมออนไลน์ Boost with เฟสบุ๊ค จะเปิดอบรมแก่ผู้ประกอบการธุรกิจ
ขนาดกลาง และขนาดย่อมและบุคคลทั่วไปด้วยหลักสูตรเรียนรู้ทั้งหมด 10 ตอน ออกอากาศผ่านเพจ Facebook for Business เป็นภาษาไทยในระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม-15 กันยายน พ.ศ. 2563

Facebook

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com และ 
    www.facebook.com/penlaosthailand/photos/?ref=page_internal

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.