กลุ่มบริษัทซีดีจี (CDG Group) ประกาศแผนธุรกิจปี 2568 เร่งสปีดนำเทคโนโลยีหนุนภาครัฐ ก้าวสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว ผ่านแนวคิด “Making the Impossible, Possible”…
CDG กางแผนปี 68 เดินหน้ารุกตลาดเทคโนโลยีเพื่อหน่วยงานภาครัฐ
กลุ่มบริษัทซีดีจี ประกาศแผนธุรกิจปี 2568 ตอบรับ GovTech เมกะเทรนด์ ก้าวข้ามบทบาท “System Integrator” เร่งเดินหน้านำเทคโนโลยีพลิกโฉมหน่วยงานภาครัฐ ให้สามารถขับเคลื่อนสู่ยุคดิจิทัลเต็มตัว
เพื่อสร้างสังคมที่ดีกว่า ด้วยแนวคิด “Making the Impossible, Possible”
พร้อมชู 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ พัฒนาโซลูชันจากสังคมเป็นศูนย์กลาง, ข้อมูลขับเคลื่อนการตัดสินใจ และ แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว

นาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหาร (Chief Executive Officer) กลุ่มบริษัท ซีดีจี กล่าวว่า แนวโน้มเทคโนโลยีภาครัฐทั่วโลก Government Technologies 2025 กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด โดยรัฐบาลชั้นนำของโลกเริ่มเดินหน้าปรับเปลี่ยนจากการมุ่งเน้นเพียงการใช้ข้อมูล (Data-Centric)
สู่การให้ความสำคัญกับภารกิจที่ส่งผลกระทบต่อสังคม หรือ Mission-Centric ซึ่งทั้งหมดต้องอาศัยการบูรณาการเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ผนวกกับการพัฒนาโซลูชันที่เข้าใจความต้องการของสังคมอย่างลึกซึ้ง ผ่านข้อมูลทั้งหมดที่มี
ควบคู่กับการวิเคราะห์เชิงลึกผ่าน AI หรือเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อการตัดสินใจที่รวดเร็ว และแม่นยำ จึงนำมาสู่โจทย์หลักของซีดีจีในปีนี้ ที่จะมุ่งยกระดับสังคมให้ดีขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
พัฒนาโซลูชันจากสังคมเป็นศูนย์กลาง (Social-Centric Solution Design)
ยกระดับการให้บริการภาครัฐด้วยแนวคิดที่มุ่งเน้นความต้องการของประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ ผ่านการออกแบบโซลูชันที่สามารถตอบสนองได้แบบเรียลไทม์ และรองรับความหลากหลายของสังคมไทย โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อสร้างบริการที่เข้าถึงง่าย ลดความซับซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ
ซึ่งมีเป้าหมายในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมสร้างผลกระทบที่สามารถวัดผล และตรวจสอบได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยปัจจุบัน DOPA Digital Citizen Service ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมโยงบริการภาครัฐ
เช่น งานทะเบียนออนไลน์, ระบบยื่นภาษีออนไลน์ และ Health Link พร้อมเร่งพัฒนาให้ตอบโจทย์ประชาชนเป็นศูนย์กลางมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลขับเคลื่อนการตัดสินใจ (Data-Driven Decisions)
การใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI และ Digital Twin เพื่อบูรณาการ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในทุกมิติแบบเรียลไทม์ ช่วยให้หน่วยงานสามารถบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
การเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายภาคส่วน เพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินงาน และการตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่แม่นยำ อีกทั้งยังนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย (Visual) ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัว พร้อมเร่งขับเคลื่อน Smart City ผ่าน Geo-City Data Platform
ที่บูรณาการข้อมูลเมืองด้วย Digital Twin ใช้ ArcGIS จำลองสถานการณ์น้ำท่วมผ่าน Flood Simulations และยกระดับการบริหารโครงข่ายไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี GIS เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางในการแผนรับมือ
แพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว (Synergized Ecosystem Platform)
แพลตฟอร์มที่ออกแบบมา เพื่อเชื่อมโยงทุกภาคส่วน ตั้งแต่หน่วยงานภาครัฐ ผู้ให้บริการ ไปจนถึงประชาชน ผ่านแพลตฟอร์มระบบนิเวศร่วม (Ecosystem Platforms) โดยแนวทางนี้มุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชันที่เชื่อมโยงทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน ช่วยให้ภาครัฐสามารถพัฒนา และสร้างโซลูชันที่ตอบสนองทุกมิติของสังคม และเศรษฐกิจ
ต่อยอดการเชื่อมโยงข้อมูลพลังงานผ่าน National Energy Dashboard พร้อมผลักดันให้เป็น แพลตฟอร์มระบบนิเวศร่วมที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน และพัฒนาโซลูชันอื่น ๆ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน และการบริหารจัดการภาครัฐอย่างสูงสุด

“กลุ่มบริษัทซีดีจี มุ่งมั่นที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยประสบการณ์และ ความเชี่ยวชาญด้านผู้นำด้านดิจิทัลโซลูชันและเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของไทยมากว่า 56 ปี เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยีที่ทันสมัย
ตลอดจนองค์ความรู้ที่ครอบคลุมในการพัฒนาโซลูชัน ซึ่งไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมไทยในวงกว้างให้เป็นไปได้ อย่างแท้จริง” นาถ กล่าว
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A
สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th