Dell EMC PowerStore แพลตฟอร์มสตอเรจที่ได้รับการกำหนดโครงสร้างด้วยการออกแบบให้เป็นแบบ Data-Centric พร้อมระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ และสถาปัตยกรรมที่ปรับเปลี่ยนได้…
highlight
- เดลล์ อีเอ็มซี เพาเวอร์ สตอเรจ ให้ความเร็วที่สูงกว่าถึงเจ็ดเท่า พร้อมการตอบสนองที่เพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับสตอเรจ อาเรย์ (storage arrays) ในระดับมิดเรนจ์ของ เดลล์ อีเอ็มซี รุ่นก่อนหน้า
- AppsOn คือฟังก์ชั่นใหม่ที่เป็นหนทางเดียวที่ช่วยให้เวอร์ชวลเวิร์กโหลดบน VMware และแอปพลิเคชั่น ซอฟต์แวร์สามารถทำงานโดยตรงบนอาเรย์ที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ (purpose-built array) เพื่อการเข้าถึงดาต้าที่รวดเร็วยิ่งขึ้น และด้วยเวลาในการตอบสนอง (response times) ที่เร็วกว่าเดิม
- เดลล์ อีเอ็มซี ฟิวเจอร์-พรูฟ โปรแกรม (Future-Proof Program) ได้รับการปรับขยายให้ครอบคลุมการอัพเกรดระบบในทุกเวลา (Anytime Upgrades) เพื่อให้ลูกค้ามีอิสระในการขยายโครงสร้างพื้นฐานตามการกำหนดและความต้องการของตัวเอง
Dell EMC PowerStore มิติใหม่ของโครงสร้างพื้นฐานที่มาพร้อมความยืดหยุ่น และประสิทธิภาพขั้นสูง
เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประกาศเปิดตัว PowerStore แพลตฟอร์มของโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย (Modern Infrastructure Platform) ที่สร้างขึ้นจากฐานรากด้วยเทคโนโลยีทันสมัยที่เหนือกว่าเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายต่าง ๆ ในยุคข้อมูล (data era)
นพดล ปัญญาธิปัตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า องค์กรธุรกิจในทุกวันนี้เกือบที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากการปฏิรูปทางดิจิทัล หากแต่ยังต้องต่อสู้กับปัญหาสำคัญ 2 ประการ นั่นคือ หนึ่งจำนวนข้อมูลอันมหาศาลที่มีการสร้างขึ้นในแต่ละวัน
และสองคือความกดดันที่เพิ่มขึ้นของระบบไอทีที่ต้องเรียบง่าย และมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่ง เดลล์ อีเอ็มซี เพาเวอร์ สตอเรจ ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถตอบสนองความต้องการใหม่เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่การเติบโตของ ข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา ทำให้องค์กรจำเป็นต้องปรับตัวในการบริหารจัดการปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ร่วมไปภึงการที่อค์กรธุรกิจต่าง ๆ เริ่มที่จะใช้แอปที่พัฒนาของคนตนเอง และส่งผลทำให้เกิดค่าใช้จ่ายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
องค์กรในปัจจุบันจึงจำเป็นต้องการโซลูชั่น และเครื่องมือที่สามารถบริหารจัดการได้อย่างรวดเร็ว และต้องมีประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลได้อย่างชาญฉลาด รวมไปถึงความสามารถในการรองรับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ซึ่ง PowerStore ของ เดลล์ อีเอ็มซี สามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้
ด้าน ประหยัด รุ่งสมัยทอง ผู้อำนวยการฝ่าย Presales เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ลูกค้าบอกให้เราทราบว่าอุปสรรคที่ทำให้ไม่สามารถเริ่มเข้าสู่ขบวนการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นได้นั้น มาจากการยื้อกันไปมาระหว่าง ปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นของเวิร์คโหลดที่ต้องได้รับการสนับสนุน
ทั้งจากแอปพลิเคชั่นแบบดั้งเดิม ไปจนถึงเรื่องของการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) กับความเป็นจริงในเรื่องของข้อจำกัดด้านต้นทุน และความซับซ้อนของโครงสร้างไอทีที่มีอยู่เดิม ทั้งนี้ เดลล์ อีเอ็มซี เพาเวอร์ สตอเรจ ได้ผสานระบบอัตโนมัติ รวมทั้งเทคโนโลยีสำหรับยุคหน้าและสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ที่ไม่เคยมีมาก่อนเข้าด้วยกัน
เพื่อมอบโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ โดย เดลล์ อีเอ็มซี เพาเวอร์ สตอเรจ เนื่องด้วยระบบสามารถทำงานแบบระบบอัตโนมัติทำให้ ทีมไอที ขององค์กรต่าง ๆ ลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ อีกทั้งทำให้สามารถใช้งานร่วมกับผู้ให้บริการ อย่าง VMware, Kubernetes หรือ Ansible ได้ง่ายดายขึ้น
โครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยสำหรับยุคข้อมูล (Data Era)
องค์กรธุรกิจสามารถเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ ตลอดจนการเข้าถึงข้อมูล ไปจนถึงประสิทธิภาพในการทำงานของแอปพลิเคชันได้ด้วย เพาเวอร์ สตอเรจ ที่ได้รับการออกแบบมาให้มีเสถียรภาพสูงในระดับ 99.9999% หรือที่เรียกว่า six–nines
- รองรับทุกเวิร์กโหลด : เพาเวอร์ สตอเรจ ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเรียบง่ายด้วยการรองรับทั้งเวิร์กโหลดที่หลากหลายทั้งแบบดั้งเดิม และแบบสมัยใหม่ ด้วยสถาปัตยกรรม สเกล-อัพ และ สเกล-เอาท์ รองรับทั้ง บล็อค (block) ไฟล์ และ VMware vVols
- เพิ่มขีดความสามารถสูงสุดให้กับสมรรถนะในการทำงาน : เพาเวอร์ สตอเรจ ทำงานเร็วกว่าถึง 7 เท่า และสามารถตอบสนองได้ดีกว่า Dell EMC มิดเรนจ์ สตอเรจ อาเรย์ รุ่นก่อนหน้าถึงสามเท่า เนื่องมาจากการออกแบบการใช้งาน NVMe แบบ end-to-end และ การรองรับการเก็บข้อมูลแบบถาวรบนหน่วยความจำแบบ Storage Class Memory ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของ Intel® Optane™ SSD แบบดูอัล พอร์ต
- ประสิทธิภาพที่ไม่ประนีประนอม : ลูกค้าสามารถประหยัดงบประมาณด้านไอทีและประสิทธิภาพในการทำงานด้วยการลดข้อมูลซ้ำซ้อน และการบีบอัดในรูปแบบ always-on ตลอดจนการรับประกันการลดปริมาณข้อมูลแบบ 4:1 อย่างต่อเนื่อง
แมชชีน เลิร์นนิ่ง และระบบอัตโนมัติอัจฉริยะช่วยให้ส่งมอบแอปพลิเคชันและบริการต่าง ๆ ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นโดยใช้เวลาของพนักงานน้อยลงถึง 99% ในการบาลานซ์ปริมาณการทำงานของระบบ
- โครงสร้างพื้นฐานที่สามารถโปรแกรมได้ (Programmable Infrastructure) : เพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนาแอปพลิเคชั่นและลดระยะเวลาในการปรับใช้ (deployment) จากหลายวันเหลือเพียงไม่กี่วินาที ด้วยการบูรณาการ VMware และการสนับสนุนสำหรับกรอบการจัดการและการประสานชั้นนำ ซึ่งรวมถึง Kubernetes, Ansible และ VMware vRealize Orchestrator
- โครงสร้างพื้นฐานอัตโนมัติ (Autonomous Infrastructure) : แมชชีน เลิร์นนิ่งที่บิลท์-อินช่วยกระบวนการที่ต้องใช้พลังในการทำงานอย่างมหาศาล (labour-intensive) โดยอัตโนมัติ อาทิ การกำหนดปริมาณ (volume) ขั้นต้น การไมเกรท การทำโหลดบาลานซ์ และการแก้ไขปัญหา
- ข้อมูลเชิงลึกของโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Insights) : Dell EMC CloudIQ ซอฟต์แวร์การตรวจสอบและการวิเคราะห์ข้อมูล ผสานแมชชีน เลิร์นนิ่ง และความอัจฉริยะของมนุษย์ (human intelligence) เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานแบบเรียล-ไทม์ การวิเคราะห์สมรรถภาพ ไปจนถึงประวัติในการติดตาม (historical tracking) เพื่อการติดตามในมุมมองเดียวสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน Dell EMC ทั้งนี้ เดลล์ เทคโนโลยีส์จะบูรณาการ CloudIQ เข้ากับสายผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานทุกส่วนของเดลล์ เทคโนโลยีส์ เพื่อข้อมูลที่ได้ในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น
เพาเวอร์ สตอเรจ ปฏิรูปการดำเนินงานของดาต้าเซ็นเตอร์ และช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขึ้นไปอีกในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของพวกเขาไปในทิศทางเดียวกับความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา:
- สถาปัตยกรรมบนพื้นฐานคอนเทนเนอร์ (Container-Based Architecture) : PowerStoreOS มีสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์แบบ container-based ที่ช่วยให้สามารถเคลื่อนย้าย สร้างมาตรฐาน และเร่งเวลาการออกสู่ตลาดของความสามารถใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว
- เปิดตัว AppsON : สตอเรจ อาร์เรย์เพียงหนึ่งเดียวที่รวมเอา VMware ESXi Hypervisor ไว้ภายใน (built-in) ช่วยให้ผู้ดูแลระบบ (administrators) สามารถนำเอาแอปพลิเคชั่นมาใช้งาน (deploy) ได้โดยตรงบนอาเรย์เพื่อความยืดหยุ่นที่มากกว่าเดิมอย่างมหาศาล ในฐานะที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรม AppsON เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเวิร์กโหลดที่เป็น data-intensive ทั้งในดาต้าเซ็นเตอร์ (core) หรือที่พื้นที่ปลายทาง (edge) และแอปพลิเคชั่นสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน
- การไมเกรทที่ง่ายดาย : ทูลส์ใหม่ภายใน PowerStore Manager wizard ช่วยให้ลูกค้าสามารถดำเนินการไมเกรททุกอย่างทั้งหมดได้โดยอัตโนมัติด้วยการคลิกที่น้อยกว่าสิบครั้ง ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากตัวเลือกจำนวนมากที่เป็น non-disruptive ในการไมเกรทจากสตอเรจที่มีอยู่เดิม อาทิ Unity, SC, PS Series, VNX และ XtremIO
Dell EMC Future–Proof Program เพิ่มการอัพเกรดได้ในทุกเวลา
เพาเวอร์ สตอเรจ อยู่ภายใต้โปรแกรมที่เรียกว่า Dell EMC Future–Proof Program ซึ่งให้ทางเลือกที่เพิ่มมากขึ้น ให้ความสามารถในการคาดการณ์การใช้งานล่วงหน้า อีกทั้งให้การคุ้มครองการลงทุนผ่านความสามารถในการอัพเกรดได้ทุกเวลา (Anytime Upgrades) โปรแกรมการอัพเกรดคอนโทรลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นที่สุดในอุตสาหกรรม
ต่างจากโปรแกรมอัพเกรดคอนโทรลเลอร์อื่น ๆ ลูกค้าสามารถขยายหรือปรับเพิ่มประสิทธิภาพของ PowerStore ได้หลังจากระยะเวลา 180 วัน การผสานกันของการอัพเกรดได้ทุกเวลา (Anytime Upgrades) และสถาปัตยกรรมที่ปรับได้ของ เดลล์ อีเอ็มซี เพาเวอร์ สตอเรจ ทำให้การไมเกรทแพลตฟอร์มสามารถเสร็จสมบูรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มอบความยืดหยุ่นให้กับคลาวด์ด้วย PowerStore
ลูกค้าสามารถใช้งาน (deploy) เพาเวอร์ สตอเรจ ในรูปแบบที่สนองตอบต่อความต้องการทางธุรกิจและกลยุทธ์ทางด้านคลาวด์ขององค์กรได้เป็นอย่างดีที่สุด เนื่องด้วย
- Dell Technologies Cloud Validated Designs สำหรับ PowerStore ออกแบบมาเพื่อการนำไปใช้งาน (deployment) ที่มีความยืดหยุ่นต่อเวิร์กโหลดที่ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานสูงในสภาพแวดล้อมการทำงานของไฮบริด-คลาวด์
- Dell EMC Cloud Storage Services สามารถเชื่อม PowerStore เข้ากับพับลิคคลาวด์สำคัญๆ ทั้งหมดได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) อาซัวร์ (Azure) และ กูเกิ้ล คลาวด์ (Google Cloud) ในรูปแบบการบริการการจัดการหนึ่ง ทั้งนี้ Cloud Storage Services ให้การกู้คืนข้อมูลเมื่อเกิดภัยพิบัติในรูปแบบการบริการ (DRaaS) ให้กับ VMware Cloud บน AWS
- PowerStore สามารถนำมาใช้ (deploy) ในรูปแบบสตอเรจทางเลือกภายในโครงสร้างพื้นฐานแบบอัตโนมัติของ เดลล์ อีเอ็มซี PowerOne ซึ่งช่วยกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงขององค์กรไปสู่การดำเนินงานที่เหมือนคลาวด์ให้เร็วยิ่งขึ้น
ความพร้อมของตลาด และช่วงเวลาที่เหมาะ
หากพิจารณาถึงสภาวะการชะลอตัวของตลาด และเศรษฐกิจ ที่ซบเซา จากสถาการณ์ โควิด-19 หลายฝ่ายอาจมองว่า องค์กรธุรกิจอาจยังไม่พร้อมที่จะลงทุนในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานใหม่ และจะมีเพียงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้นที่พร้อมที่จะลงทุน แต่เดลล์เชื่อว่าการเปิดตัว เดลล์ อีเอ็มซี เพาเวอร์ สตอเรจ ทลายข้อจำกัดมากกว่า
เพราะองค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของ เดลล์ อีเอ็มซี เพาเวอร์ สตอเรจ ที่ระบบอัตโนมัติอัจฉริยะช่วยจัดการแอปพลิเคชัน และบริการต่าง ๆ ร่วมถึงข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในปัจจุบันได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้พนักงานที่มีหน้าที่ดูแลระบบต่าง ๆ ไม่ต้อง วุ่นวายกับการไล่จัดการโซลูชั่นที่มีอยู่ทั้งหมดที่ล่ะระบบ
เดลลเชื่อว่า องค์กรในปัจจุบันเข้าใจเป็นอย่างดีว่าความจำเป็นของการลงทุน เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้จากวิกฤตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ดังนั้น โควิด-19 น่าจะเป็นตัวเร่งมากกว่า การชะลอการงทุน เพราะต้องขับสู่การใช้ดิจิทัล การเปิดตัว เพาเวอร์ สตอเรจ ของเดลล์ จึงถือว่ามาในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th