เอไอเอส (AIS) ประกาศวิสัยทัศน์ 5G ภายใต้แนวคิด “Forging Thailand’s Recovery” เชื่อประเทศไทยกลับมาดีได้อย่างเดิมเพียงทุกฝ่ายปรับตัวใช้เทคโนโลยี ให้เป็น Digital Infrastructure ใหม่ของประเทศ พร้อมผนึกผู้นำอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน…
highlight
- เอไอเอส ประกาศวิสัยทัศน์เครือข่าย AIS 5G : Forging Thailand’s Recovery สร้าง 5G ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศให้เป็น Digital Infrastructure ใหม่ของประเทศ รวมถึงสนับสนุนการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor หรือ EEC) พร้อมผนึกผู้นำอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
AIS 5G ร่วมแรงสู้ฟื้นฟูประเทศไทย พร้อมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ช่วง 3 เดือน ที่ผ่านมา วิกฤตโควิด-19 นำมา ซึ่งผลกระทบอย่างรุนแรงไปทั่วโลกยิ่งกว่าวิกฤตอื่น ๆ ที่เคยมีมา วิกฤติ โควิด-19 ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกด้วย
และเป็นการถอถอยที่รุนแรงมากที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาโดยข้อมูลจาก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) แทบจะทุกประเทศถดถอยหมดจากคาดการณ์ว่าปลายปี 2019 ถึง 2020 จะกลับมาฟื้นตัว แต่เมื่อมีวิกฤติ โควิด-19 ทุกอย่างก็ไม่เป็นอย่างหวัง
กลับมามองที่ประเทศไทยจากที่เคยคากการณ์ว่า GDP จะกลับมาโต 2.5% วันนี้ก็ลดตกลดลงกว่า 7.7% (ตัวเลขประมาณการณ์) ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะกลับมาฟื้นตัว หรือจะตกลดลงไปอีก ดังนั้นโจทย์ของประเทศไทยคือทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันในการฟื้นฟูประเทศ
หากมองกันว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไม่ได้รับผลกระทบ ก็คงไม่ถูกต้องนัก แม้ว่าผู้ให้บริการทางด้านโทรคมนาคมจะได้รับอนิสงจากการที่มีผู้ใช้งานมากขึ้น ทั้งในรูปแบบของ เดต้า หรือวอยส์ แต่ก็ไม่สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น เพราะรายได้ของผู้ให้บริการไม่ได้มาจากแค่การให้บริการผ่านโทรศัพท์เท่านั้น
แต่ยังต้องร่วมไปถึงการให้บริการในช่องทางจัดจำหน่ายต่าง ๆ ด้วย เช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้ลดลงจากมาตราการศล็อกดาวน์ประเทศ ทำให้ทำให้ช่องทางจัดจำหน่ายสินค้า และบริการไม่สามารถกระทำ ขณะที่รายได้ในส่วนที่เกิดจากนักท่องเที่ยวก็ลดลงด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งอีกส่วนก็เกิดจากการที่ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่าย
แต่อย่างไรก็ดีส่วนตัวแล้วยังเชื่อว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมยังสามารถเดินหน้าไปต่อได้ ซึ่งหากคากการณ์แนวโน้มการเติบโตน่าจะลดลงเพียง 2–3% จาก GDP ร่วมของประเทศ แต่หากมองในมุมที่ดีผลกระทบจาก โควิด-19 ก็ก่อให้เกิด “ชีวิตวิถีใหม่“ (New Normal) ที่ไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมแบบทันทีทันใดในทุกระดับ
โดยจะเห็นปรากฏการณ์เป็น 3 ช่วง คือ ช่วงตกต่ำจากวิกฤต หรือ FALL ต่อมาคือ ช่วงแห่งการต่อสู้เพื่อให้ก้าวผ่านวิกฤตไปให้ได้ หรือ FIGHT และช่วงสร้างอนาคตอย่างยั่งยืน หรือ FUTURE ซึ่งในทุกช่วงเวลาล้วนแล้วแต่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเข้ามาเป็นฐานรากที่แข็งแกร่ง
เพื่อช่วยประคับประคอง และเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศสามารถแข่งขันกับประเทศใหญ่ ๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เช่น การใช้เทคโนโลยี 5G ที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ดิจิทัลเส้นใหม่ ที่ได้เริ่มนำมาใช้ช่วยเหลือ เพื่อหล่อเลี้ยงประเทศ
ด้าน ฮุย เวง ชอง กรรมการผู้อำนวยการ เอไอเอส กล่าวว่า แนวคิดดังกล่าวทำให้ เอไอเอส ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี โดยได้ลงทุนมากกว่า 1.1 ล้านล้านบาท และในปีนี้ได้เตรียมงบลงทุนไว้ที่ 35,000–45,000 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเพื่อคนไทยอย่างต่อเนื่อง
โดย เอไอเอส ยังคงเดินหน้าขยายเครือข่ายรองรับผู้ใช้งานที่จะเพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมครบทั้ง 77 จังหวัด เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้ให้บริการ Digital Life Service Provider ที่ถือครองคลื่นความถี่มากที่สุด คือ LOW BAND (700-900 MHz) 50 MHz, MID BAND (1800-2600 MHz) 170 MHz
และ HIGH BAND (26 GHz) 1200 MHz โดยจากผลจากของการลงทุนมาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้วันนี้ เอไอเอส สามารถเปิดให้บริการ 5G เป็นรายแรกของประเทศตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 พร้อมขยายเครือข่ายไปครบทั้ง 77 จังหวัด เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือนพฤษภาที่ผ่านมา
นวัฒกรรม 5G ที่ทำให้ไทยเป็นกลุ่มแรกของโลกที่ใช้งานจริง
5G Dual Mode SA/NSA
ประเทศไทย เป็นกลุ่มแรกของโลกที่ใช้ เทคโนโลยี SA-Stand Alone และ NSA–None Stand Alone Dual Mode ที่สามารถผสมผสานระหว่าง เครือข่าย 5G โดยเฉพาะ และเครือข่าย 5G ที่ทำงานร่วมกับ 4G พร้อมรับอนาคตในการใช้งาน 5G ในหลากหลายประโยชน์ในรูปแบบ Massive IoT และ Mission Critical
5G Network Slicing
ครั้งแรกของเมืองไทย กับเทคโนโลยี 5G Network Slicing ที่เสมือนมีหลากหลายเครือข่ายอยู่ในเครือข่ายเดียว (Multi Network In One Network) ทำให้เราสามารถออกแบบเครือข่ายแต่ละชั้นได้อย่างสอดคล้อง และยืดหยุ่นกับลักษณะของอุตสาหกรรมแต่ละรูปแบบ แต่ละพื้นที่ ได้อย่างคล่องตัว เต็มประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การทำธุรกิจของแต่ละองค์กรได้อย่างเต็มที่
5G จะสร้างประสบการณ์ และโอกาสใหม่ ๆ
ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้า
หรือการรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ได้ในจำนวนมหาศาล และมีอัตราการตอบสนองที่รวดเร็วจากความหน่วงต่ำ จึงยิ่งทำให้ 5G เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการเสริมขีดความสามารถของภาคอุตสาหกรรมหลักทั้งหมด ที่จะเป็นกลไกในการฟื้นฟูประเทศนั่นเอง ในแต่ล่ะภาคส่วน ยกตัวอย่างเช่น
ภาคสาธารณสุข การที่ เอไอเอส ได้นำเอาเทคโนโลยี 5G ทำงานร่วมกับ Robot และ AI เข้าไปสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ในการ คัดกรองคนไข้ (Robot for Care), Telemedicine, AI Assisted CT SCAN และ Mobile Stroke Unit
ตลอดช่วงระยะของการแพร่ระบาดรุนแรง จนถึงการผนึกกำลังกับเครือข่ายพันธมิตร (Strategic Partner) เพื่อพัฒนา Telemedicine อย่างต่อเนื่อง
ภาคอุตสาหกรรมในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor หรือ EEC) ซึง เอไอเอส ได้นำเอาเทคโนโลยี เข้าไปสนับสนุน ICT Infrastructure เพื่อเสริมขีดความสามารถในการบริหารจัดการในทุกๆส่วนงาน ไม่ว่าจะเป็น
- ภาคพื้นดิน : กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ประกอบด้วย อมตะ คอร์ปอเรชัน, สหพัฒนา อินเตอร์โฮลดิ้ง, กลุ่ม WHA ที่เริ่มทดลองสอบ 5G Smart City แล้ว
- ภาคทางอากาศ : บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น ในนาม กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ผู้ชนะการประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่เริ่มทดลองทดสอบ 5G Smart Airport แล้ว
- ภาคทางทะเล : การท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่เริ่มทดลองทดสอบ 5G แล้ว ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง
ภาคการค้าปลีก ซึ่ง เอไอเอส อยู่ระหว่างการพัฒนา 5G Smart Retail ร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ในฐานะหัวหอกสำคัญของภาคอุตสาหกรรมค้าปลีก ที่ครอบคลุมตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ของการใช้ชีวิตของคน ในฐานะการกระจายรายได้ระหว่างผู้ผลิตกับผู้ซื้อ รวมถึงมีอัตราการจ้างงานถึง 2 ใน 3 ของประเทศ
Multimedia ใหม่สร้าง Immersive Experience ด้วยการใช้ 5G กับเทคโนโลยี AR/VR พร้อมร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สร้างประสบการณ์ใหม่ของ Unseen Thailand ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
รวมถึง คอนเทนต์ด้านการศึกษา และความบันเทิง พลิกโฉมการสร้างสรรค์คอนเทนท์ของ Creator สัญชาติไทย ด้วย Next Reality Studio–AR/VR Studio แห่งแรกของเมืองไทย
Sustainability Development โดย เอไอเอส มีเป้าหมายที่จะใช้เทคโนโลยี 5G กับการพัฒนา สิ่งแวดล้อม การเกษตร และการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยผนึกพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สร้าง SDG Lab ในพื้นที่ 100 ไร่
ใน อุทยานการเรียนรู้ป๋วย 100 ปี หรือสวนป๋วย ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต้นแบบการรณรงค์ให้คนไทยเห็นความสำคัญของการดูแลสิ่งแวดล้อมที่เป็นรูปธรรมที่สุดแห่งหนึ่ง
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการยกระดับขีดความสามารถ เอไอเอส จึงยังเดินหน้าพัฒนาแพลทฟอร์มการเรียนรู้ LearnDi จาก เอไอเอส Academy for Thais ขยายการสร้างความเข้มแข็งการ พัฒนาบุคลากรสู่แต่ละองค์กรทั่วประเทศ
“ชาวเอไอเอส พร้อมอย่างยิ่งที่จะนำ 5G ที่ดีที่สุด เข้ามาเป็นเส้นเลือดใหญ่ดิจิทัลหลักของประเทศไทยจากวันนี้เป็นต้นไป เพราะวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาเป็นบทเรียนสำคัญของคนไทยและทั่วโลกว่า ท่ามกลางวิกฤตยังมีโอกาสอันยิ่งใหญ่อยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะฉกฉวยโอกาสนั้นอย่างไร
โดยในส่วนของประเทศไทยนั้น ถือว่ามีจุดแข็งซึ่งได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วนว่า มีระบบสาธารณสุขที่เป็นเลิศ,มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม, เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้นเมื่อนำดิจิทัลอย่าง 5G เข้าไปผสมผสานในกระบวนการที่เกี่ยวข้องของภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวข้างต้น
ย่อมทำให้เป็นพลังช่วยพลิกฟื้นประเทศไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตได้อย่างดีที่สุด ดังนั้นนอกจากการปรับตัวให้พร้อมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ผมยังอยากเชิญชวนทุกภาคส่วนให้เข้ามาร่วมในภารกิจฟื้นฟูประเทศ ขานรับกับนโยบาย “รวมไทยสร้างชาติ“ ของรัฐบาลไปด้วยกันอีกด้วย” สมชัย กล่าวเสริม
ส่วนขยาย * บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ ** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) *** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่ www.facebook.com/itday.in.th