dtac ออกโรงเตือนพฤติกรรมพ่อแม่ที่หยิบยื่นความเสี่ยงบนโลกออนไลน์ให้ลูก

ดีแทค (dtac) ออกโรงเตือนพฤติกรรมพ่อแม่ที่หวังผลักดันลูกก้าวสู่ “ถนนสู่ดวงดาว” หรือให้ลูกเป็นดารา จะหยิบยื่นความเสี่ยงบนโลกออนไลน์ให้ลูก…

dtac ออกโรงเตือนพ่อแม่ หวังให้ลูกก้าวสู่ “ถนนสู่ดวงดาว” คือความเสี่ยงบนโลกออนไลน์

ขณะที่เด็กๆ หลายคนตกเป็นเหยื่อของภัยออนไลน์โดยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บ่อยครั้งก็พบว่าผู้ใหญ่หรือพ่อแม่ผู้ปกครองนั้นกลับเป็นผู้ที่นำพาเด็กๆ ให้ตกเป็นเหยื่อคนร้ายด้วยตัวเอง กรณี ถนนสู่ดวงดาว คืออีกตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น โดยกรณีนี้มีการล่อลวงบนโลกออนไลน์ ในรูปแบบของการเป็นโมเดลลิ่งออนไลน์   

คนร้ายได้สร้างบัญชีโซเซียลมีเดียปลอม อ้างว่าเป็นแมวมองค้นหาดารานักแสดงหน้าใหม่ พูดคุยทักทายผ่านทางออนไลน์พร้อมทั้งนัดหมายให้เด็ก ๆ ที่มีความสนใจอยากจะเป็นดารานักแสดงเดินทางมาพบ โดยอ้างว่าเดินทางมาเพื่อทำการคัดเลือกนักแสดง

ซึ่งมีเด็ก ๆ หลงเชื่อจำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่ามีพ่อแม่หลายคนเป็นผู้หยิบยื่นความเสี่ยงนี้ ด้วยการไปส่งลูกพบโมเดลลิ่งออนไลน์ผู้ไม่หวังดีนี้ด้วยตัวเอง หรือแม้กระทั่งเป็นผู้ติดต่อพูดคุยกับโมเดลลิ่งออนไลน์เอง เพื่ออยากให้ลูกเป็นดารา  

dtac)

โดยในขณะที่เด็กอยู่กับคนร้ายตามลำพัง  คนร้ายจะแอบใส่ยานอนหลับให้เด็ก ล่วงละเมิดเด็กๆ เหล่านั้นแล้วบันทึกภาพหรือวิดีโอเก็บเอาไว้ เพื่อนำไปเผยแพร่หรือนำไปแชร์ในกลุ่มลับบนโลกออนไลน์ต่อไป หรืออาจจะนำคลิปวิดีโอนั้นมาข่มขู่แบล็กเมล ติดต่อเหยื่อโดยอาศัยข้อมูลจากใบสมัครที่กรอกไว้ ทำให้เหยื่อหวาดกลัว

และโอนเงินให้ ซึ่งภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมคนร้าย พบว่ากรณีถนนสู่ดวงดาวนี้ มีเด็กตกเป็นเหยื่อสูงถึง 1,000 คน โดยนับตั้งแต่การก่อตั้ง คณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC) ในปี พ.ศ. 2558 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

ได้มีการจับกุมดำเนินคดีการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 212 คดี มีผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จำนวน 245 คน ซึ่งผู้ต้องหา 1 คน สร้างความเสียหายให้แก่เหยื่อได้ตั้งแต่หลักหน่วยไปจนถึงหลักพันคน และคดีการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ตนี้ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

จากการที่สื่อออนไลน์เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น ข้อมูลส่วนบุคคลคือข้อมูลที่เกี่ยวกับบุคคลซึ่งสามารถทำให้ระบุตัวตนได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ภาพถ่าย ประวัติการศึกษา ประวัติการรักษาพยาบาล หรือแม้กระทั่ง cookie 

ซึ่งเป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่ทำหน้าที่จดจำข้อมูลต่างๆ ที่ทำให้เกิดความรวดเร็วและความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน แต่หากเจ้าของนำข้อมูลไปกรอกลงในแบบฟอร์มต่าง ๆ หรือเผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดียอย่างไม่ระมัดระวัง ก็อาจมีผู้ไม่หวังดีแอบคัดลอกข้อมูลนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสมได้

ปัจจุบันจึงมีการพัฒนาระบบรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล ตัวอย่างเช่น การใช้ OTP หรือ One Time Password ในการตรวจสอบ และยืนยันตัวตน เพื่อเพิ่มการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลนั่นเอง

dtac

พ.ต.อ มรกต แสงสระคู ผู้เชี่ยวชาญงานช่วยเหลือเด็ก และเยาวชน จากคณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต และวิทยากรในห้องเรียนออนไลน์วิชา Online Privacy & Sexual Abuse ของ dtac Young Safe Internet Cyber Camp กล่าวว่า หลายครั้งในขณะที่เรา

อยู่บ้าน ก็มีสายโทรศัพท์โทรมาหาเรา มาแนะนำสินค้าให้ทั้งๆ ที่เราไม่รู้จักเขาเลย อันนี้ถือว่าเราก็เสียความเป็นส่วนตัวแล้ว หรือบางครั้งเราเข้าเว็บไซต์ เราโพสต์ภาพบนโซเซียลมีเดีย และต่อมาเราก็พบว่ามีโฆษณาหรือข้อความในเรื่องเดียวกันกับที่เราโพสต์อยู่เต็มไปหมด

นี่ก็เป็นเรื่องความเป็นส่วนตัว ที่เราถูกนำเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ เพราะฉะนั้น สำหรับเรื่องความเป็นส่วนตัว (Privacy) และข้อมูลส่วนบุคคล  (Personal Data)  จึงมักมาคู่กันอยู่เสมอ

dtac)

พ.ต.อ. มรกต แสงสระคู และ ดร.ศรีดา ตันทะอธิพาณิช ผู้จัดการมูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย ผู้ทำงานส่งเสริมการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และสร้างสรรค์ มามากกว่า 16 ปี ได้ให้คำแนะนำแก่เด็ก และเยาวชน รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อรอบคอบระมัดระวัง และตั้งข้อสังเกตก่อนตัดสินใจให้ข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ ดังนี้

ท่องให้ขึ้นใจว่า ยิ่งโพสต์ และให้ข้อมูลส่วนตัวบนออนไลน์มากเท่าไหร่ ยิ่งเสี่ยงมากเท่านั้น!

สำหรับพฤติกรรมการเล่นโซเซียลมีเดียของเด็กและเยาวชนไทย มักพบการโพสต์ภาพตัวเอง โพสต์ภาพการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพื่ออวดเพื่อน ๆ หรือบอกให้คนในโซเซียลรับรู้ เช่น ภาพบัตรประชาชนใบใหม่ หนังสือเดินทางไปต่างประเทศ หรือภาพถ่ายตนเองในช่วงเวลาต่าง ๆ

ภาพเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงเนื่องจากมักมีการบอกโลเคชั่นหรือสถานที่ร่วมด้วย ทำให้รู้ว่าขณะนี้อยู่ที่ไหน หรือบ่งบอกพฤติกรรมของเรา เช่น ช่วงเวลาไหนอยู่บ้านหรือไม่อยู่บ้าน ซึ่งอาจจะทำให้ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีได้

มีสติอยู่เสมอไม่ว่าจะเสพหรือส่ง และหากข้อมูลส่วนบุคคลหลุดไปต้องรู้วิธีจัดการ

ในทุกวันนี้ เราจะต้องมีความระมัดระวังในการให้ข้อมูลต่างๆ มากขึ้น บางครั้งอาจจะเป็นตัวเราเองที่ตั้งใจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นออกไป หรือบางครั้ง เราก็อาจถูกล่อลวง โดยที่ไม่รู้ตัวว่ามีข้อมูลหลุดออกไป  ซึ่งหากข้อมูลส่วนตัวของเราถูกนำไปใช้โดยไม่เหมาะสมและไม่ได้รับความยินยอม

สิ่งที่ควรทำเบื้องต้นคือการเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานของการถูกนำข้อมูลไปใช้ให้มากที่สุด และแจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไป พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ปี 2562 คุ้มครองผู้ให้ข้อมูล ตามหลักความยินยอม ซึ่งมีสาระสำคัญ

คือ ต้องชี้แจงข้อมูลที่จะเก็บรวมรวบ ต้องขออนุญาตเจ้าของเพื่อเข้าถึงข้อมูล  ต้องรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ต้องเก็บเป็นความลับ และเจ้าของสามารถขอลบ หรือยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้

 

ร้องขอความช่วยเหลือ หากถูกคุกคามจากมิจฉาชีพที่นำข้อมูลส่วนตัวของเราไปใช้ในทางมิชอบ

เด็กและเยาวชนเกือบ 90% เลือกที่จะปรึกษาเพื่อนในวัยเดียวกัน เมื่อรู้สึกกังวล ไม่สบายใจ หรือเมื่อถูกคุกคามจากการถูกนำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางมิชอบ เพื่อนที่ให้คำปรึกษาควรปฎิบัติตนให้เป็นปกติเช่นเดิมกับเพื่อน พยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้น และช่วยเสริมสร้างกำลังใจให้เพื่อน  

นอกจากนี้ ควรแนะนำให้เพื่อนที่ได้รับความเดือดร้อนได้เข้าถึงความช่วยเหลือเบื้องต้น เช่น การพูดคุยรับฟังอย่างเข้าใจและพร้อมให้ความช่วยเหลือจากพี่ ๆ มูลนิธิสายเด็ก หมายเลข 1387 ตลอด 24 ชั่วโมง หากต้องการคำแนะนำเพื่อดูแลปรับสภาพจิตใจ และความสัมพันธ์ โทรหาสายด่วนสุขภาพจิต หมายเลข 1323

dtac

และหากต้องการลบภาพการละเมิดทางเพศเด็กออกจากอินเทอร์เน็ต ให้ติดต่อไทยฮอตไลน์ที่เฟซบุ๊กหรือเว็บไซต์ www.thaihotline.org ในกรณีที่เพื่อนต้องการแจ้งข้อมูล หรือเบาะแสเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด

ให้แจ้งที่เฟซบุ๊กเพจของคณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC) ในแต่ละจังหวัดยังมี บ้านพักเด็กและครอบครัว ภายใต้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่มีนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา ที่พร้อมช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ประสบปัญหาความรุนแรงและถูกละเมิดทุกรูปแบบ

 

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก www.pexels.com

สามารถกดติดตามข่าวสารและบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.