HPE เผยอนาคต AI Edge และ Hybrid Cloud ในงาน HPE Discover More AI Bangkok 2024

HPE

เอชพีอี (HPE) เผยอนาคต AI-Edge และ Hybrid Cloud ในงาน HPE Discover More AI Bangkok 2024 เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของตลาดประเทศไทย…

highlight

  • ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ หรือ เอชพีอี ประกาศเปิดตัว HPE Private Cloud AI แพลตฟอร์มประหยัดพลังงานที่รองรับปริมาณงานได้สูง ซึ่งผสานรวมกับ NVIDIA AI เพื่อช่วยให้องค์กรต่าง ๆ พัฒนาและใช้งานแอปพลิเคชัน AI ได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มเติมจากที่ได้ประกาศไว้ในงาน HPE Discover 2024 Las Vegas HPE
  • เอชพีอี พร้อมด้วยพาร์ทเนอร์ NVIDIA และ Intel นำเสนอข้อมูล และกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยองค์กร ขยายแอปพลิเคชัน AI และรับมือกับความท้าทายด้านโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

HPE เผยอนาคต AIEdge และ Hybrid Cloud ในงาน HPE Discover More AI Bangkok 2024

ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ เดินหน้าจัดงาน HPE Discover More AI Bangkok 2024 (เอชพีอี ดิสคัฟเวอรี่ มอร์ เอไอ แบงค็อก 2567) โดยรวบรวมผู้เข้าร่วมมากกว่า 800 ราย ทั้งผู้นำทางธุรกิจ ลูกค้าในประเทศ และพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ พร้อมนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอำนาจแห่งการเปลี่ยนแปลง (Transformative Power) ของ ปัญญาประดิษฐ์ คลาวด์ไฮบริด และเอจด์คอมพิวติ้ง ที่มีบทบาทสำคัญสำหรับธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศไทย

HPE

ภายในงาน เอชพีอี ดิสคัฟเวอรี่ มอร์ เอไอ แบงค็อก 2567 ในครั้งนี้ เอชพีอี รวบรวมการสาธิตเทคโนโลยี และเวิร์คช็อปชั้นนำของวงการ พร้อมนำประเด็นที่น่าสนใจจากงานประชุม HPE Discover ที่ ลาสเวกัส มานำเสนอให้แก่ผู้เข้ารวมชมงานอีกด้วย

รวมถึงการเปิดตัว NVIDIA AI Computing by HPE ผลิตภัณฑ์โซลูชัน AI ที่พัฒนาร่วมกัน ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ Generative AI สามารถนำมาใช้ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยบริการที่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้ได้แก่ HPE Private Cloud AI (เอชพีอี ไพรเวท คลาวด์ เอไอ) โซลูชันแรกที่ผสานรวมอย่างล้ำลึกเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์

ระบบเครือข่าย และซอฟต์แวร์ AI ของ NVIDIA (อินวิเดีย) ด้วยการจัดเก็บและการประมวลผลด้วย AI ของ เอชพีอี และแพลตฟอร์มคลาวด์ เอชพีอี กรีนเลท โดยโซลูชันนี้สามารถนำเสนอวิธีการพัฒนา และใช้งานแอปพลิเคชัน Generative AI ได้อย่างยั่งยืน ในรูปแบบที่ประหยัดพลังงาน รวดเร็ว และยืดหยุ่นให้กับองค์กรทุกขนาด

HPE
พลาศิลป์ วิชิวานิเวศน์ กรรมการผู้จัดการ ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ ประเทศไทย

พลาศิลป์ วิชิวานิเวศน์ กรรมการผู้จัดการ ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ ประเทศไทย กล่าวว่า AI, คลาวด์ และเอจด์คอมพิวติ้ง ไม่ได้เป็นเพียงแค่กระแสนิยมเท่านั้น แต่ยังเป็นเสาหลักสำคัญ ในการขับเคลื่อนอนาคตของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ Digital Transformation ของประเทศไทยอีกด้วย

นวัตกรรมในปัจจุบันนี้ นับตั้งแต่ข้อมูลจาก AI แบบเรียลไทม์ไปจนถึงแพลตฟอร์มคลาวด์ที่มีความยืดหยุ่น ล้วนช่วยธุรกิจต่างๆ ของไทยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการให้ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า

สำหรับ เอชพีอี ไพรเวท คลาวด์ เอไอ ที่พัฒนาขึ้นร่วมกับ อินวิเดีย จะนำเสนอแพลตฟอร์มประหยัดพลังงานให้กับองค์กรต่าง ๆ ของไทย ซึ่งจะช่วยเร่งการพัฒนาแอปพลิเคชัน Generative AI ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ความมุ่งมั่นของเราขยายครอบคลุมไปไกลมากกว่าแค่เทคโนโลยี

เพราะเราส่งเสริมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจ สามารถก้าวไปสู่ยุคดิจิทัล ได้อย่างมีความรับผิดชอบ และประสบความสำเร็จ ในงานประชุมยังมีการเน้นย้ำถึงโซลูชัน AI ของ เอชพีอี ที่จะมาช่วยเร่งประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น และพลิกโฉมอุตสาหกรรมนี้

โดยมีจุดประสงค์หลักในงานคือบทบาทของเอจด์คอมพิวติ้งที่ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อมอบประสบการณ์ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีการสาธิต เอชพีอี กรีนเลท ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ชั้นนำที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรต่าง ๆ

HPE

เพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโหลดในสภาพแวดล้อมแบบไฮบริด และมัลติคลาวด์ โดย เอชพีอี ไพรเวท คลาวด์ เอไอ นำเสนอประสบการณ์บนคลาวด์ที่ไม่เหมือนใครเพื่อเร่งความเร็วในการสร้างนวัตกรรม และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน และขณะที่จัดการความเสี่ยงระดับองค์กรจาก AI ผ่านโซลูชันประกอบด้วย

การรองรับการอนุมาน, การปรับแต่งโมเดล และเวิร์กโหลด RAG AI ที่ใช้ข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ องค์กรที่ใช้งานสามารถควบคุมข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย ความโปร่งใส และการกำกับดูแลข้อมูลได้  เพิ่มผลิตผลในการทำงาน ด้วยประสบการณ์คลาวด์

เช่น ITOps และ ความสามารถของ AIOps มาพร้อมเส้นทางที่รวดเร็วในการใช้ทรัพยากรอย่างยืดหยุ่น เพื่อตอบสนองโอกาสและการเติบโตของ AI ในอนาคต

นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่าง เอชพีอี และ อินวิเดีย ยังช่วยนำเสนอการสำรวจเชิงลึกเกี่ยวกับภูมิทัศน์ของ Generative AI โดยให้ข้อมูลที่ใช้งานได้จริงเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องมือ AI ขั้นสูงของ NVIDIA และระบุถึงความท้าทายสำคัญที่ธุรกิจต้องเผชิญ

ในขณะที่ Intel ช่วยเน้นความโดดเด่นของเทคโนโลยี AI ที่พัฒนาร่วมกับ เอชพีอี โดยได้สาธิตวิธีการที่ธุรกิจต่างๆ สามารถใช้แอปพลิเคชัน AI อย่างรวดเร็วในสเกลงานที่ใหญ่ และในขณะเดียวกันสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของระบบ

HPE
พลาศิลป์ วิชิวานิเวศน์ กรรมการผู้จัดการ ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ ประเทศไทย

“โดยความร่วมมือของ เอชพีอี และ อินวิเดีย จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถส่งมอบประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วมากขึ้น โดยมีขั้นตอนเพียงไม่กี่ขั้นตอน ลดเวลา และต้นทุนในการเพิ่มความเร็ว โดยนำเสนอการประมวลผล พื้นที่เก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์ เครือข่าย และบริการให้คำปรึกษาที่เหมาะสม

ซึ่งองค์กรต้องการเพื่อสร้างแอปพลิเคชัน GenAI โซลูชันแบบ แบบ AI ดั้งเดิมช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ มีความเร็ว ขนาด และการควบคุมที่จำเป็นเท่านั้น ก็จะสามารถปรับแต่งโมเดลพื้นฐานโดยใช้ข้อมูลส่วนตัว และปรับใช้แอปพลิเคชัน GenAI ภายในโมเดลคลาวด์แบบไฮบริดได้

ซึ่งจะทำให้เกิดความเร็ว และประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อช่วยให้ลูกค้าทราบเวลาต่อมูลค่าได้เร็วขึ้นโดยการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานทางธุรกิจด้วยแอปพลิเคชัน AI เช่น ผู้ช่วยเสมือน แชทบอทอัจฉริยะ และการค้นหาระดับองค์กร ก็ทำได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ดี เอชพีอี เข้าใจเป็นอย่างดีว่าการที่จะช่วยผลักดันให้องค์กรต่าง ๆ

ก้าวไปสู่ยุคของ AI ได้อย่างรวดเร็วนั้น เรื่องของการพัฒนาทักษะของบุคลากรเป็นสิ่งที่จำเป็น โดยภายใน เอชพีอี มีโครการที่พัฒนาทักษะของบุคลากรอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถสามารถส่งมอบบริการให้แก่ผู้ใช้งานโซลูชันของ เอชพีอี ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่การผลักดันภายนอก เอชพีอี ก็ได้จัดทำโครงการพัฒนาทักษะทางด้าน AI ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ ของไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้เรื่องของ Eco System ของ AI ในประเทศไทย เติบโตได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน ” พลาศิลป์ กล่าว

ทั้งนี้ ในงานยังมีเวิร์คช็อปเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม HPE Cloud Management ซึ่งเผยถึงกลยุทธ์ในการช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการระบบคลาวด์ไฮบริดโดยการเอาชนะความท้าทายต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยีแยกส่วน (Siloed Technologies) ระบบการจัดการแบบแบ่งส่วน และการใช้ผู้ให้บริการรายเดียว

นอกจากนี้ ยังมีการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับสภาพแวดล้อมระบบคลาวด์ไฮบริด ด้วยโซลูชันเกี่ยวกับการสำรองข้อมูล การกู้คืนระบบหลังภัยพิบัติ และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อลดความเสี่ยงจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) ภัยธรรมชาติ และความผิดพลาดของมนุษย์

HPE

ส่วนขยาย

* บทความเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ในมุมมองที่น่าสนใจ 
** เขียน: ชลัมพ์ ศุภวาที (บรรณาธิการ และผู้สื่อข่าว) 
*** ขอขอบคุณภาพประกอบบางส่วนจาก N/A

สามารถกดติดตามข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยีของเราได้ที่  www.facebook.com/itday.in.th

ITDay